เวลานี้แบรนด์สมาร์ทโฟนที่กำลังมาแรง ทั้งในตลาดโลก และในไทย ต้องยกให้กับ “OPPO” สะท้อนได้จากข้อมูลสถิติสมาร์ทโฟนทั่วโลก จัดทำโดย “IDC (International Data Corporation)” เผยตัวเลขไตรมาส 2 ของปีนี้ “OPPO” ทำยอดขายได้ 22.6 ล้านเครื่อง และมีส่วนแบ่งตลาด 6.6% เป็นอันดับ 4 ของตลาดสมาร์ทโฟนโลก
เช่นเดียวกับตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีน ได้ชื่อว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และมีการแข่งขันสูงจากหลากหลายแบรนด์ แต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ “OPPO” ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับตลาด ด้วยการคว้าตำแหน่งผู้นำมาครองได้สำเร็จ ยืนยันได้จากส่วนแบ่งการตลาดเมื่อเดือนมีนาคม อยู่ที่ 13.0% จากนั้นในเดือนเมษายน ขยับเพิ่มเป็น 13.3% เบียดแบรนด์ใหญ่อย่าง “Apple” หล่นลงมาอยู่อันดับ 2 อยู่ที่ 11.9% จนสื่อต่างประเทศ เช่น Forbes ถึงกับเขียนว่า “OPPO” เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนของจีนที่มีการเติบโตเร็วที่สุด
(ส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีน เดือนมิถุนายน 2559,
ที่มา : http://www.counterpointresearch.com/press_release/chinajune2016/)
เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย อีกหนึ่งตลาดที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นไม่แพ้กัน เป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดสมาร์ทโฟนในไทย ถูก Dominate โดย “Samsung” และ “Apple” มาโดยตลอด แต่ในช่วงไม่ถึงสิบปีมานี้ เริ่มปรากฏภาพ แบรนด์สมาร์ทโฟนทางเลือกใหม่ ทยอยเข้ามาทำตลาดในไทย หนึ่งในนั้น คือ “OPPO” ที่ใช้เวลาเพียงแค่ 6 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตลาดสมาร์ทโฟนในไทยได้แล้ว ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 10%
แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคไทย ทั้งกลุ่มที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้ว และกำลังจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ รวมทั้งกลุ่มที่ใช้ฟีเจอร์โฟน ที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟน ต่างมองหาแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตนเองอย่างแท้จริง โดยไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นแบรนด์อันดับ 1 หรือ 2 ของตลาดที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เท่านั้น
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “OPPO” เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่สามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้คนทั่วโลก รวมทั้งคนไทย คือ “โปรดักส์” ที่ได้รับยอมรับจากผู้ใช้จริง ทั้งด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย คุณภาพ ดีไซน์เรียบหรู และฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยเฉพาะ “กล้องและระบบถ่ายภาพ” ทำให้ชื่อของ “OPPO” โดดเด่นในความเป็น “Camera Phone” และ “Selfie Expert”
ล่าสุด “OPPO” เดินหน้ารุกตลาดสมาร์ทโฟนราคาระดับกลาง ด้วยการเปิดตัวรุ่น “F1s” จำหน่ายในราคา 9,990 บาท เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก “F1 Plus” ที่ได้เข้าสู่ตลาดไปก่อนหน้านี้ โดยสามารถทำยอดขายในตลาดโลกได้ถึง 7 ล้านเครื่องในระยะเวลาเพียง 88 วัน และก้าวขึ้นเป็นรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ของตลาดจีนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
5 จุดเด่น สะกดทุกสายตา
เมื่อเจาะลึก “OPPO F1s” มี 5 จุดเด่นหลัก ได้แก่ 1. กล้องหน้าความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล ตอกย้ำความเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนที่เน้นกล้องถ่ายรูป และเป็นตัวจริงด้าน Selfie Expert โดยมีเทคโนโลยีไอโซเซลล์ (ISOCELL Technololgy) ที่ช่วยป้องกันสิ่งรบกวนต่างๆ รวมทั้งหลากหลายฟังก์ชั่นสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ เช่น เซลฟี่พาโนรามา สกรีนแฟลชที่ช่วยปรับความสว่างของใบหน้า แม้ถ่ายในที่แสงน้อย และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Beautify 4.0 ที่เพิ่มระดับความสวยได้ถึง 7 ระดับ เลือกโทนสีผิวได้ 2 โหมด ช่วยให้ภาพสวยผิวเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ขณะที่ กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีทั้งโหมดผู้เชี่ยวชาญ อัลตร้าเอชดีที่ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4 ช็อต และเลือกรวมส่วนที่ดีที่สุดของแต่ละภาพเข้าด้วยกัน รวมทั้งฟังก์ชั่น Double Exposure ที่ถ่ายภาพ 2 ภาพ แล้วเอามาผนวกรวมกันเป็นภาพเดียว และฟังก์ชั่น Super GIF ที่ช่วยสร้างไฟล์ GIF ได้ทันทีที่ต้องการ
2. ระบบสแกนนิ้วมืออัจฉริยะ ที่อ่านลายนิ้วมือได้รวดเร็วในเวลาเพียง 0.22 วินาที ปลดล็อคหน้าจอได้ทันใจ รวมทั้งมีระบบสแกนนิ้วมือปลดล็อค เพื่อการรับสายหรือเปิดแอพพลิเคชั่นโดยเฉพาะ ที่สามารถสแกนนิ้วมือได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ จึงมั่นใจทุกความปลอดภัยสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ และประหยัดเวลาในการค้นหารายชื่อบุคคล
3. ประสิทธิภาพของเครื่องที่รวดเร็ว เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับประมวลผล Octa-Core กับ RAM ขนาด 3GB ช่วยทำให้การทำงานของตัวเครื่องรวดเร็วฉับไว และใช้งานได้หลากหลายต่อเนื่องในเวลาเดียวกันแบบไม่มีสะดุด ทั้งยังให้แบตเตอรี่ความจุ 3075 mAh เมื่อผนวกกับระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ส่งผลให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 14 ชั่วโมง
4. ดีไซน์เรียบหรู มาพร้อมกับหน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 4 ขนาด 5.5 นิ้ว ติดตั้งวัสดุเคลือบหน้าจอ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ให้รูปลักษณ์ที่ดูพรีเมี่ยมและแข็งแรงคงทนในเวลาเดียวกัน และเส้นเสาสัญญาณที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม อยู่บนกรอบตัวเครื่องอลูมิเนียมอัลลอยด้านหลังช่วยทำให้สมาร์ทโฟนดูหรูยิ่งขึ้น
5. พรีเซนเตอร์ ส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์และสินค้า รุ่น F1s ยังคงใช้ “ใหม่ – ดาวิกา” เป็นพรีเซนเตอร์ต่อเนื่องจากรุ่น F1 Plus เพราะด้วยคาแรกเตอร์และภาพลักษณ์ที่เป็นผู้หญิงรุ่นใหม่ ที่มีความมั่นใจในตัวเอง ทำงานเก่ง บุคลิกดี และมีความโดดเด่น สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ “OPPO” และ รุ่น “F1s” ได้อย่างลงตัว
จัดเต็มการตลาด และ ขยายช่องทางขาย – ศูนย์บริการ
นอกจากโปรดักส์ที่เป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ อีกสองส่วนที่มีบทบาทไม่น้อยไปกว่ากัน คือ การทำตลาดและการสื่อสาร ปีนี้ “OPPO” ทุ่มงบการตลาดสูงถึง 800 ล้านบาท สื่อสารครบทุกช่องทาง ทั้งสื่อ Offline และ Online Media เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ และสินค้า รวมทั้งการใช้ศิลปิน นักแสดงมาเป็นพรีเซนเตอร์ จะยิ่งทำให้แบรนด์และสินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ควบคู่กับการเดินหน้าขยาย ช่องทางการจำหน่าย ครอบคลุมทั้งเชนร้านขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ เช่น TG Fone, Jaymart และขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ ร้านตู้ โดยคาดว่าปีนี้ จะมีช่องทางขายไม่ต่ำกว่า 11,000 ร้าน เช่นเดียวกับการขยาย ศูนย์บริการ จากปัจจุบันมี 26 แห่ง จะเพิ่มเป็น 35 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งเสริมกำลังทีมขายจาก 2,000 คน เป็น 4,000 คน
“OPPO F1s ถูกวางตัวให้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นสำคัญที่จะผลักดันให้ OPPO ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในปีนี้ โดยเรามั่นใจในจุดเด่นของ OPPO F1s ประกอบกับแผนการตลาดที่เรามี “ใหม่ – ดาวิกา” เป็นพรีเซนเตอร์ และการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านช่องทางจำหน่าย ศูนย์บริการ และทีมขาย จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ OPPO ขยายฐานตลาดได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเซ็กเมน์สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหมื่นบาท ที่เราตั้งเป้าปีนี้มีส่วนแบ่งการตลาด 40% ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของ “OPPO” ในตลาดสมาร์ทโฟนของประเทศไทย ขยับขึ้นเป็น 16 – 18% ภายในสิ้นปีนี้ และเรามั่นใจว่าจะก้าวเป็นผู้นำอันดับ 1 ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยภายใน 5 ปีนับจากนี้” คุณลีโอ จ้าว ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด กล่าวทิ้งท้ายถึงเป้าหมายของ “OPPO”