“73,500” คือ จำนวนอาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในช่วง 5 ปีหลัง ทั่วประเทศไทย ซึ่งยังไม่นับอาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนก่อนหน้านั้น หรือโครงการบ้านของบุคคลทั่วไปที่อาจจะก่อสร้างมาหลายปี จนหลังคา, ดาดฟ้าเกิดรอยรั่วแล้ว เหล่านี้จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ TOA ให้ความสนใจ จนกลายเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ROOFSEAL 201 จาก TOA สีกันรั่วซึม ด้วยคุณสมบัติพิเศษฟิล์มสีมีความยืดหยุ่นสูงถึง 5 เท่า ปกปิดรอยแตกร้าวได้ดีเยี่ยม จึงทำให้แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมลงสู่ชั้นล่างได้ 100% ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังช่วยสะท้อนความร้อนออกจากตัวอาคารได้สูงถึง 93.4% ลดความร้อนและประหยัดพลังงานไฟฟ้า ในส่วนของกระบวนการผลิตยังเป็นเพียงรายเดียวที่ได้รับมาตรฐานฉลากเขียว ทั้งกระบวนการผลิตตลอดจนถึงมือผู้ใช้ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม
เข้าใจอินไซต์ผู้บริโภค จัดครบทั้ง Solution
บทความนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องคุณสมบัติของสินค้ามากนัก เพราะผลิตภัณฑ์ ROOFSEAL 201 จาก TOA เคยถูกส่งลงสู่ตลาดมาแล้ว แต่ด้วยความเอาใส่ใจ TOAจึงไม่หยุดยั้งเรื่องการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาสินค้า และนี่คือสูตรใหม่ในราคาเดิม ถ้าหากว่าไม่ดีขึ้น TOA คงไม่กล้าส่งเข้าชิงชัยในตลาดอีกครั้ง
จุดเด่นของ ROOFSEAL 201 จาก TOA ที่ BrandBuffet.in.th จะพานักการตลาดทั้งหลายไปรู้จัก คือ เบื้องหลังการทำตลาดของผลิตภัณฑ์นี้ แนวคิดของการทำตลาดในกลุ่มสินค้า Construction Chemical มีความเกี่ยวพันกับฟังก์ชั่นการใช้งานสูง เจ้าของบ้านโดยตรงต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ สิ่งที่ TOA ทำ คือ การสร้าง Life Solution ไม่ใช่แค่ผลิตสินค้าแล้วโฆษณา แต่ยังต่อยอดโดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดหา Service มาให้ End User เรียกว่า “สายด่วนบ้านรั่ว” โทร 0-233-55777 (จำง่ายๆ ว่ากดเรียกพระเอกช่อง 3, ช่อง 5 ช่อง 7 มาซ่อมบ้านก็แล้วกัน) เพราะอินไซต์หลักก็คือ แบรนด์ TOA เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ช่องทางการจัดจำหน่ายก็ครอบคลุม การซื้อหาไม่ใช่เรื่องยาก แต่หาช่างที่มีฝีมือไว้ใจได้มาทำสิเป็นเรื่องที่ยากกว่า ดังนั้นทีโอเอจึงจับมือกับ 3 บริษัท ประกอบไปด้วย หจก.สเปค เอ็นจิเนียร์ริ่ง, ทาร์ซาน บิ้วดิ้ง และ พีระสยาม รวมตัวกันเป็นทีมช่างผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีกว่า 300 ทีมทั่วประเทศ ให้บริการลูกค้าที่ซื้อสินค้า ROOFSEAL 201 จาก TOA โดยจ่ายค่าบริการตามจริงคิดตามขนาดพื้นที่
ไม่ใช่แค่เรื่องของบริการ แต่ยังคิดต่อถึงความพึงพอใจหลังจากใช้บริการ อินไซต์หลักของคนที่อยากจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมก็เพราะต้องการปกป้องข้าวของที่อยู่ในบ้าน ไม่ให้ได้รับความเสียหาย ดังนั้นเมื่อแบรนด์มั่นใจในคุณภาพสินค้าว่าดีจริง ประกอบกับทีมช่างฝีมือคุณภาพระดับพระกาฬที่จัดการปิดจ๊อบน้ำรั่วซึมได้แน่ จึงนำไปสู่การการันตี Guarantee ร่วมกับ “บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทำแคมเปญพิเศษ กล้าท้ารับประกัน ขอเพียงซื้อสินค้า ROOFSEAL 201 จาก TOA ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อบิล ก็จะได้โค้ดเพื่อนำไปลงทะเบียน โดยลงได้ทั้งผ่านเว็บไซต์ทางคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ www.toagroup.com/toa201roofseal ตั้งแต่วันนี้- 30 กันยายน 2559
ท้ายสุดคือเรื่องของการตลาดที่ TOA ส่งวิดีโอ ออนไลน์เพื่ออธิบายปัญหา, ขั้นตอนต่างๆ เน้นความเข้าใจง่าย สอดแทรกมุขเล็กน้อย เพื่อให้ผู้บริโภคดูได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย และถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วการแก้ปัญหาเรื่องหลังคารั่วซึมจะต้องทำก่อนฤดูฝน แต่ในความเป็นจริงถ้าหากว่าไม่เกิดปัญหารั่วซึมให้เห็นกันจะๆ ผู้อยู่อาศัยในอาคารก็คงไม่ตระหนักถึงปัญหา TOA จึงเลือกช่วงเวลาหน้าฝนเปิดตัวแคมเปญนี้อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งหมดนี้คือการคิดแบบครบวงจร และน่าจะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของสินค้าที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างรอบด้าน จนตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคมองหาโซลูชั่นไม่ใช่แค่ “สินค้า” อีกต่อไปแล้ว
บริหารพอร์ต เริ่มจากภายใน
ก่อนที่จะมาสู่แนวคิดการตลาดแบบนี้ TOA มีการปรับการบริหารภายในเพื่อบริหารพอร์ตสินค้าของกลุ่มบริษัท ซึ่งเดิมเป็นเจ้าตลาดในผลิตภัณฑ์สีทาอาคารอยู่แล้ว แต่กลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ก่อสร้างที่เดิม TOA มีสินค้าตอบโจทย์ด้านนี้ไม่มากนัก ขณะที่สินค้ากลุ่มนี้กลับมีอัตราการเติบโตอย่างดีถึงปีละ 25% ดังนั้นทีมการตลาดจึงต้องปรับตัว แยกเป็น Decorative และ Non-Decorative มีซัพพอร์ท ทีม และการทำตลาดที่แยกกัน เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อย่างทีมที่ดูแล Non-Decorative ก็จะมีกิจกรรมร่วมกับช่างมากขึ้น รวมทั้งมองหาโอกาสเจาะเข้าสู่ลูกค้าองค์กร ซึ่ง TOA ยังมีสินค้าและเข้าหาทาร์เก็ตนี้ไม่มากนัก
โดย TOA คาดหวังว่าสินค้า ROOFSEAL 201 จาก TOA จะเป็นหนึ่งใน Hero Product ของแบรนด์ ได้ส่วนแบ่งตลาด 33% จากมูลค่าตลาดรวม 900 ล้านบาท และเป็นส่วนหนึ่งที่ดันให้ยอดขายที่มาจากกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ก่อสร้างเติบโตขึ้น 30%