จากการพัฒนามากมายที่เราได้เห็นกันไป มีการพยากรณ์แนวโน้มในอนาคตว่าเทคโนโลยี VR หรือ Virtual Reality จะสร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2020 ซึ่งในระหว่างนี้ก็มีการปล่อยออกมาให้ใช้งานไปพร้อมๆ กับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราจึงมีแนวทางการใช้ VR ให้ล้ำนำเทรนด์ก่อนใครมาฝากเผื่อสามารถนำไปต่อยอดใช้กับแคมเปญของคุณได้ เพราะตอนนี้แบรนด์ระดับโลกหลายเจ้า อย่าง Ikea, McDonald, Coca Cola และ New York Times เดินนำทำไปบ้างแล้ว
1.ทำวิดีโอ 360
วิดีโอ 360 บันทึกภาพสิ่งรอบตัวทั้งหมดไว้ทำให้ความรู้สึกของการมีประสบการณ์ร่วมและการโต้ตอบเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าการถ่ายภาพหรือวิดีโอแบบธรรมดา หากดูผ่านสมาร์ทโฟนคุณก็ยกมันขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบๆ ภาพก็จะเปลี่ยนไปเหมือนคุณได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ จริงๆ แต่ถ้าคุณมีอุปกรณ์ VR ล่ะก็ แค่หันหน้าไปในทิศทางต่างๆ เท่านั้นก็เสมือนกำลังยืนอยู่ในสถานที่นั้นแบบเหมือนจริงสุดๆ
และเพราะการที่สามารถมีประสบการณ์ร่วมได้แบบรอบทิศของวิดีโอ 360 เป็นสิ่งใหม่จึงได้รับความสนใจมากกว่าวิดีโอทั่วๆ ไป บางคลิปได้ยอดวิวไปถึง 15 ล้านวิว และหลายแบรนด์เริ่มดึงการใช้วิดีโอ 360 เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญแล้ว เช่น การนั่งฟังการสัมภาษณ์ การทดลองขับรถ หรือพาทัวร์สถานที่ต่างๆ รวมไปถึงคอนเทนท์ประเภทอื่นๆ ถูกนำมาเสนอในมุมมองแบบ 360 และสามารถรับชมได้จากทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ VR เช่น แคมเปญของ The North Face ที่ให้คนได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ปีนหน้าผาในเนปาล
2.แจก Google Cardboard
Google Cardboard เป็นชุดอุปกรณ์ VR ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดด้วยราคาที่ต่ำกว่าแว่นตา VR แบบจริงจัง คุณสามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ แล้วสั่งผลิตมันในนามแบรนด์ของคุณเองซึ่งเป็นสิ่งที่หลายแบรนด์เริ่มทำแล้ว เมื่อถึงเวลาที่คุณมีวิดีโอ 360 จากในข้อ 1 เป็นของตัวเอง ลูกค้าของคุณได้สัมผัสประสบการณ์ VR แบบสองชั้น เสมือนจริงที่สุดในแบบที่แบรนด์คุณให้ได้ หรือต่อให้คุณยังไม่มีงบมากพอที่จะผลิตวิดีโอ 360 แต่การที่คุณมีอุปกรณ์ที่เพิ่มสีสันในการดูวิดีโอแบบ 360 แจก รับรองได้ว่าแบรนด์คุณจะติดตาตรึงใจคนจำนวนมากแน่นอนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบเทคโนโลยี และจะช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำในฐานะผู้นำเทรนด์นำเทคโนโลยีตัวจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ New York Time ได้เคยทำไปแล้ว ในการแจก Cardboard ของแบรนด์ให้กับผู้ติดตามหนังสือพิมพ์ของพวกเขาฟรีๆ หลังจากนั้นไม่นานแบรนด์ก็มีวิดีโอ 360 ของตัวเองออกมา ซึ่งกลุ่มฐานลูกค้าของพวกเขาก็ได้ดื่มด่ำกับสุดยอดประสบการณ์สมจริงไปเต็มๆ
3.เปลี่ยนแพคเกจของคุณเป็นแว่นตา VR
นอกจาการสั่งผลิต Cardboard ในนามแบรนด์แล้ว อีกหนึ่งวิธีที่เพิ่มความครีเอทเข้าไปอีกขั้นคือการแปลงแพคเกจจิ้งของคุณให้สามารถนำกลับมาใช้งานต่อได้ในแบบของแว่นตา VR ตัวอย่างจากการที่แมคโดนัลด์ฉลแงวันเกิดครบรอบสามสิบปีด้วยการแจก Happy Goggles ที่แปลงร่างมากจากกล่อง Happy Meal กลายเป็นชุดแว่นตาสำหรับเทคโนโลยี VR แคมเปญนี้เกิดขึ้นในสวีเดนและได้รับการตอบรับอย่างดีมาก
โคคาโคล่าก็เคยทำแคมเปญประเภทเดียวกันในการเปลี่ยนแพคเกจธรรมดาให้กลายเป็นแว่น VR ได้ ที่น่าสนใจคือ เบียร์ Budweiser ทำสิ่งที่ตรงข้ามกัน พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแพคเกจให้เป็นแว่น VR แต่นำแว่น VR มาเป็นแพคเกจในฤดูกาลของ NBA สิ่งที่เกิดขึ้นคือลูกค้าของพวกเขาจะได้เบียร์ที่อยู่ในแพคเกจชุดอุปกรณ์ VR ถึงเวลาก็มีเบียร์กิน มีแว่น VR ไว้ดูคอนเทนท์เจ๋งๆ ไปพร้อมๆ กัน
4.สร้างเกม VR
เกมเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งธุรกิจเล็กใหญ่ในการช่วย support brand และสร้าง engagement กับลูกค้า ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งสร้างเกมสะสมแต้มของตัวเองให้ลูกค้าสามารถเก็บคะแนนเพื่อแลกส่วนลดหรือเมนูพิเศษ ดิสนีย์และบริษัทเอนเตอร์เทนเมนท์หลายเจ้าสร้างเกมขึ้นมาเพื่อช่วยโปรโมทหนังหรือการ์ตูนเรื่องใหม่ที่กำลังฉาย
คุณเองก็ทำได้กับแบรนด์ของคุณ เหมือนที่แมคโดนัลด์สร้างเกมชื่อ Slope Stars ให้ผู้เล่นเล่นสกีเก็บคะแนนในเกมแบบ VR หรือล้ำไปกว่านั้นในแบบที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์โดยตรงเช่น อิเกียที่ใช้เทคโนโลยี VR ให้ลูกค้าสามารถเดินเข้าไปในห้องครัวของอิเกีย ในแบบเสมือนจริงขนาดที่ว่าเปิดประตูเข้าไปได้ เดินไปรอบๆ เพื่อสำรวจ ไปจนถึงขั้นสามารถเล่นเกมปรุงอาหารในห้องครัว VR นั้นได้
5.สร้าง VR App
VR app เริ่มมีให้เห็นอย่างแพร่หลายแล้วในปัจจุบันทั้งในแบบแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือบนเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่นการสร้างเว็บไซต์ขายรถที่จำลองโชว์รูมรถทั้งหมดมาไว้บนเว็บแล้วใช้เทคโนโลยี VR ในการเข้าชมรถภายในโชว์รูมไปจนถึงลองขับ หรือการโปรโมทหนังเรื่อง The walk ที่ Sony picture ปล่อยแอปสนุกๆ ให้คุณทดลองเดินไต่เชือกระหว่างตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เป็นต้น
เทคโนโลยี VR อาจยังเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่มากในบ้านเรา แต่ก็มีช่องทางที่ทำให้เป็นจริงได้ทั้งสำหรับธุรกิจใหม่และเก่า และแม้ว่าจะยังไม่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางแต่นั่นก็นับเป็นโอกาสอันดีในการที่คุณจะหันมาให้ความสนใจและเริ่มทำก่อนที่คู่แข่งจะเอาไอเดียไปทำซะก่อน
แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM