สมัยนี้อุปกรณ์ไฮเทคที่เชื่อมโยงเราสู่โลกดิจิทัลต่างๆ มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันเหมือนอีกหนึ่งอวัยวะที่บางคนขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวที่ล้วนแต่จำเป็นต้องสื่อสารไปซะหมด จนบางคนจำเป็นต้องใช้หลายๆ เครื่อง ในหน้าที่ที่ตางกันไป หรือที่เรียกว่า Cross Screen User ผลวิจัยจาก Appier บริษัทวิเคราะห์ AI ของไต้หวันบอกเราว่าจำนวนความต้องการในการใช้งานหน้าจอต่างๆ ของคนเอเชียเพิ่มขึ้นแบบปีต่อปี จนปัจจุบันพบว่า 30% ของผู้ใช้งานทั้งเอเชีย หนึ่งคนจะมีการตอบสนองต่ออุปกรณ์ผ่านหน้าจอต่างๆ ถึง 4 จอหรือมากกว่า โดยเพิ่มจากปีก่อน 22% และอีกเกือบ 60% ก็ใช้อย่างน้อย 3 จอ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอย่าง ออสเตรเลีย ฮ่องกง มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
นอกจากนี้ผลวิจัยยังพบว่าผู้ใช้งานมีการตอบสนองต่อโฆษณาต่างกันบนอุปกรณ์ที่ต่างกัน โดย 72% โดยการตอบสนองต่อโฆษณาที่แตกต่างกันในแต่ละจอเกิดขึ้นมากที่ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปินส์ ในขณะที่ฮ่องกง ญี่ปุ่นและออสเตรเลียจะเห็นความต่างน้อยกว่า การใช้งานผ่านเว็บเบาซ์เซอร์เกิดขึ้นบน PC มากกว่าสมาร์ทโฟน 70% และผู้ชายใช้งานการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ มากกว่าผู้หญิง
นอกจากนี้ Appier ยังสำรวจพบว่า โฆษณาที่ปล่อยแบบ Cross Screen Campaign โดยปรับขนาดให้พอดีกับทุกขนาดหน้าจอ ได้รับการตอบรับดีกว่าการปล่อยแบบขนาดเดียว ในเรื่องของ Conversion นั้นสมาร์ทโฟนทำได้ดีกว่า PC แต่เมื่อเป็นเรื่องของอีคอมเมิร์ซพบว่าผู้ใช้งานในญี่ปุ่นมักใช้งานอีคอมเมิร์ซบนสมาร์ทโฟนมากกว่า PC ซึ่งต่างจากประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบน PC
Caroline Hsu, Appier’s chief marketing officer กล่าวว่านักการตลาดควรเฝ้าติดตามพฤติกรรมการใช้งานหลากหน้าจอของกลุ่มเป้าหมายให้ดี เพื่อเข้าถึงะวกเขาให้ถูกจุด “จำนวนอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้งานมีความสำคัญมากขึ้นทุกทีๆ เพราะยิ่งเขาใช้หลายจอก็ยิ่งมีโอกาสในการตอบสนองกับสิ่งที่เห็นมากขึ้น”
แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM