ราชอาณาจักรภูฏาน สานสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานกับประเทศไทย ผ่านเอสซีจีและสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ด้วยการลงนามความร่วมมือเพื่อถ่ายทอดทักษะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการผลิตฝีมือแรงงานคุณภาพของประเทศภูฏาน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้อันจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถในอุตสาหกรรมก่อสร้างของทั้งสองประเทศให้ตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2560
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงโดย ปลัดกระทรวงแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ของภูฏาน โซนาม วังชุก กับ นายอารีย์ ชวลิตชีวินกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ – ธุรกิจรีจินอล เอสซีจี ซิเมนต์ – ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และ นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย โดยมี ฯพณฯ ชริง ท็อบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน และ ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนาม
นายอารีย์ ชวลิตชีวินกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ – ธุรกิจรีจินอล เอสซีจี ซิเมนต์ – ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เอสซีจีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลภูฏานเปิดโอกาสให้เราได้ใช้ศักยภาพของเอสซีจีเข้าไปร่วมพัฒนาคุณภาพฝีมือแรงงานให้กับประเทศภูฏาน ด้วยการถ่ายทอดทักษะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้อันจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถในอุตสาหกรรมก่อสร้างของทั้งสองประเทศ ซึ่งผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ดีมากยิ่งขึ้น”
ด้าน ปลัดกระทรวงแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ของภูฏาน โซนาม วังชุก กล่าวว่า “ภายใต้การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นเสมือนการปูพื้นฐานสำหรับความร่วมมือระยะยาวที่แข็งแกร่ง ระหว่างกระทรวงแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ของภูฏาน กับสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย และเอสซีจี เพื่อช่วยขจัดปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะอันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้หมดไป”
นอกจากนี้ การร่วมมือกับสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมของไทย ยังตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมการก่อสร้างของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติเทียบเท่ามาตรฐานสากล ซึ่งเรื่องนี้ นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างราชอาณาจักรภูฏานกับไทย ไม่เฉพาะเพียงในระดับรัฐบาลเท่านั้น หากแต่เป็นความร่วมมือในระดับภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะนำอุตสาหกรรมของไทยให้ก้าวไกลไปสู่ระดับสากล”
ทั้งนี้ เอสซีจี มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามปณิธานที่จะร่วมเสริมความแข็งแกร่งให้กับวงการอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งได้สะท้อนผ่านการเป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านการยกระดับคุณภาพวิชาชีพที่จัดตั้งโดยคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ หรือการดำเนินโครงการต่างๆ ของเอสซีจีตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการต้นแบบการผลิตช่างเทคนิคเพื่ออุตสาหกรรม หรือโครงการเสริมสร้างสมรรถนะทางอาชีพ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจแบบทวิภาคี