เมื่อไม่นานนี้ International Data Corporation (IDC) รายงานส่วนแบ่งการตลาดแบรนด์สมาร์ทโฟนในตลาดโลกไตรมาส 3 ใน 5 อันดับแรก นำโดย “Samsung” แม้ต้องเผชิญปัญหาจากรุ่น Galaxy Note 7 แต่ผลจากการเปิดตัวเรือธง Galaxy S7 และ S7 edge รวมทั้งรุ่น J-Series สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา ช่วยฉุดสถานการณ์ยอดขายให้กลับมา โดยมีจำนวนการขาย 72.5 ล้านเครื่อง ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดลดลง จากปีที่แล้ว 23.3% มาอยู่ที่ 20.0%
ตามมาด้วย “iPhone” (ถือเป็นไตรมาส 4 ตามปฏิทินการเงินของ Apple) มียอดขาย 45.5 ล้านเครื่อง ลดลง 5.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มียอดขาย 48 ล้านเครื่อง ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดลงลงจาก 13.4% มาอยู่ที่ 12.5% อย่างไรก็ตามแม้ยอดขาย รายได้ และส่วนแบ่งการตลาดจะลดลง แต่ Apple ยังมั่นใจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะเป็นสินค้าหลักที่สร้างความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่อันดับ 3 คือ “Huawei” มียอดขาย 33.6 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 23% และมีส่วนแบ่งการตลาดขยับขึ้นเป็น 9.3% โดยมีการเติบโตทั้งตลาดในประเทศจีน ที่มีรุ่น P9 เป็นสินค้าหลัก และนอกประเทศจีน เช่น ยุโรป ที่ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดตระกูล P8 และ P9 ขณะเดียวกันการแตกแบรนด์ลูก “Honor” พร้อมเปิดตัวรุ่น Honor V8 สำหรับเจาะตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ได้นำพาความสำเร็จด้านยอดขายมาให้ อีกทั้งเมื่อไม่นานนี้ ได้เปิดตัวรุ่นใหญ่ Mate 9 มาพร้อมกับกล้องเลนส์คู่จาก Leica และรุ่นพิเศษ Porsche Design Mate 9 ถือเป็นเรือธงสำคัญ คงต้องติดตามว่าจะผลักดันยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดในไตรมาส 4 ได้มากน้อยเพียงใด
ส่วนอันดับ 4 “OPPO” อีกหนึ่งแบรนด์มาแรงจากจีน ในไตรมาส 3 นี้ มียอดขาย 25.3 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งการตลาด 7.0% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 3.2% โดยสินค้ากลุ่ม R9 เป็นตัวหลักที่นำพาความสำเร็จมาให้ ประกอบกับยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจนอกตลาดจีนมากขึ้น
อันดับ 5 “Vivo” แบรนด์จากจีนเช่นกัน โดยยอดขายในไตรมาสล่าสุดนี้ ทำได้ 21.2 ล้านเครื่อง โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มียอดขาย 10.5 ล้านเครื่อง และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 2.9% เป็น 5.8% การเติบโตที่เกิดขึ้น นอกจากองค์ประกอบด้านสินค้าแล้ว ยังเป็นผลมาจากการลงทุนด้านการตลาดมากขึ้น
เมื่อ “สมาร์ทโฟนจีน” อัพเกรดภาพลักษณ์แบรนด์สู่พรีเมียม
หากพูดถึงแบรนด์สินค้าไอทีจากจีน ในอดีตคนส่วนใหญ่มักจะมองข้าม เพราะไม่เชื่อมั่นในคุณภาพ บวกกับเทคโนโลยี และดีไซน์ ที่เป็น Me-too Product คล้ายกับแบรนด์ระดับโลกจากตะวันตก แต่ขายในราคาต่ำกว่า เพื่อหวังช่วงชิงตลาดล่าง อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีน กลายเป็น Rising Star ระดับโลก ที่แบรนด์อันดับ 1 และ 2 อย่าง “Samsung” และ “iPhone” ไม่อาจประมาทได้
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ Volume การผลิตและการขาย สำหรับป้อนตลาดจีน และตลาดโลกเท่านั้น อีกส่วนสำคัญยังมาจากการยกระดับนวัตกรรมฟังก์ชั่น ดีไซน์ และการลงทุนด้านการตลาด เพื่อทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์มีความเป็นพรีเมียมขึ้น ไม่ให้ดูเป็นแบรนด์ราคาถูกอย่างในอดีต ประกอบกับการรุกขยายตลาดให้ครอบคลุมทั่วโลก
เหมือนเช่นกรณีของ 3 แบรนด์สมาร์ทโฟนแถวหน้าของจีน ไม่ว่าจะเป็น Huawei, OPPO, Vivo ที่พยายามยกระดับภาพลักษณ์ พร้อมทั้งรุกตลาดเซกเมนต์พรีเมียมมากขึ้น เพื่อทำตลาดทั้งในประเทศบ้านเกิด และนอกตลาดจีน โดยเฉพาะประเทศที่ตลาดสมาร์ทโฟนพัฒนาไปไกล เช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชียในบางประเทศ
Jessie Ding นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย Canalys ชี้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่า “ผู้บริโภคจีนในปัจจุบันมีความต้องการสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมมากขึ้น ทั้งคุณภาพและบริการ มากกว่าการพิจารณาแค่เรื่องราคาถูก”
“Huawei” แบรนด์อันดับ 3 ของตลาดสมาร์ทโฟนโลก เป็นหนึ่งกรณีศึกษาแบรนด์จีน ที่วันนี้สามารถก้าวไปยืนอยู่บนเวทีโลก เป็นผลมาจากการเดินหน้าขยายตลาดต่างแดน พร้อมทั้งลงทุนด้านโปรดักส์ ดีไซน์ โดยทุ่มเททรัพยากรให้กับแผนกออกแบบ ที่มี “Joonsuh Kim” อดีตนักออกแบบจาก Samsung มาบริหารงานด้านนี้ โดยปัจจุบัน Huawei มีทีมนักออกแบบทั้งในจีน กรุงโซล โตเกียว และลอนดอน นอกจากนี้ต้องการสร้างทีมนักออกแบบในสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาโปรดักส์ ดีไซน์ให้เป็นที่ต้องตาต้องใจผู้บริโภคสหรัฐฯ
ล่าสุด “Huawei” เปิดตัวรุ่นท็อป “Huawei Mate 9” ยังคงผนึกกำลังกับ “Leica” ในการพัฒนาระบบกล้องและการถ่ายภาพ จำหน่ายในราคา 699 ยูโร อีกทั้งได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษ “Porsche Design Huawei Mate 9” จำหน่ายในราคา 1,395 ยูโร นับเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ Collaboration ของแบรนด์จีนรายนี้ ที่จับมือกับพันธมิตรแบรนด์ระดับโลก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธียกระดับสินค้าและภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความเป็นพรีเมียม
“เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พวกเราประกาศว่าจะขายโทรศัพท์มือถือ คนบอกว่าพวกเราบ้า และเมื่อพวกเราพูดว่าต้องการขยายโทรศัพท์มือถือให้ได้ 100 ล้านเครื่อง พวกเขาก็บอกว่าเราบ้า” Richard Yu, Chief Executive of Huawei’s Consumer Business Group กล่าวในงานเปิดตัว Huawei Mate 9 และ Porsche Design ที่มิวนิก ประเทศเยอรมนี
จากวันนั้นถึงวันนี้ “Huawei” ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 3 ของตลาดสมาร์ทโฟนโลก แต่นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับยักษ์จากแดนมังกรรายนี้ เพราะจุดมุ่งหมายถัดไปจากนี้ คือ การขึ้นเป็นอันดับ 2 แทนที่ iPhone ของ Apple
“เราต้องการโค่น Apple ด้วยกลยุทธ์แบบก้าวต่อก้าว และนวัตกรรมต่อนวัตกรรม ขณะเดียวกันเราได้สร้างโอกาสทางธุรกิจมากมาย ทั้งจากเทคโนโลยี Artificial Intelligence, Virtual Reality, Augmented Reality และสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด Huawei Mate 9 ที่เราคาดหวังว่าจะสร้างยอดขายได้ดีในตลาดยุโรป ซึ่งแนวคิด Step by Step นี้ เรามั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะความไว้วางใจ และความจงรักภักดีของผู้บริโภคได้” Richard Yu กล่าว
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ภายในปีหน้า ตำแหน่งสมาร์ทโฟนในตลาดโลกจะเปลี่ยนมือหรือไม่ แต่เชื่อว่าทั้ง “Samsung” และ “Apple” ต้องปล่อยหมัดเด็ดกว่านี้ เพื่อไม่ให้บัลลังก์อันดับ 1 และ 2 หลุดไปอยู่กับแบรนด์จีนอย่างแน่นอน