ชัยชนะของ Donald Trump ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มผู้อพยพไปจนถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างในสหรัฐเกิดความตื่นตัวและวิตกกังวลในสวัสดิภาพของตนเอง วันนี้เรามาดูมุมของผู้ประกอบการชาวมุสลิมกับความกลัวที่เกิดขึ้น
Waqas Ali ชาวปากีสถานเจ้าของกิจการสตาร์ทอัพในซิลิคอน วัลเลย์กล่าวว่า “ชัยชนะของทรัมป์ทำให้เรากลัว ซึ่งก็ไม่แปลกสำหรับชนกลุ่มน้อยในประเทศที่โดนกดมาตลอด ครั้งนี้มันทำให้เราเห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่ของสหรัฐไม่ต้อนรับหรือสนใจผู้อพยพ รวมไปถึงมุสลิม”
ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 70 วันที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอย่างเป็นทางการ เหล่าผู้ประกอบการต่างตั้งคำถามกันว่ามันจะส่งผลอย่างไรต่อภาคธุรกิจและเทคโนโลยีในอเมริกา
ระหว่างการหาเสียงทรัมป์เคยประกาศนโยบายในการแบนกลุ่มชาวมุสลิมในการเข้าทำงาน ไปจนถึงการปล่อยวีซ่าการทำงานแบบ H-1B ให้ยากขึ้น ส่งผลให้ซิลิคอนวัลเลย์หาวิศวกรมือดีต่างชาติมาร่วมงานด้วยยากขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการที่วางแผนจะขยับธุรกิจมาที่สหรัฐก็ต้องชะงักแผนไว้ชั่วคราว
Waqas กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมรู้สึกเศร้า เศร้ามาก ไม่ใช่เฉพาะกับตัวผมเอง แต่กับชาวอเมิรกันทั้งหลาย ผู้ที่ทุ่มเทอุทิศแรงกายเพื่อความมั่นคงของประเทศของพวกเขา”
ผู้ประกอบการอีกหลายเจ้าที่มีความรู้สึกกังวลและประหลาดใจไม่ต่างกัน Gibran Huzaifa ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Efishery กล่าวว่า “ผมค่อนข้างช็อค แบบ… จริงหรอ อเมริกาเนี่ยนะ? แต่ผมก็เป็นพวกน้ำครึ่งแก้ว ดังนั้นอีกหนึ่งความรู้สึกหลังจากที่ผมได้ทราบข่าวการชนะเลือกตั้งของคนแบบทรัมป์ ผมก็คิดขึ้นได้ว่า ถ้าคนแบบนี้สามารถเป็นผู้นำประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้ล่ะก็ ทำไมธุรกิจของผมจะยิ่งใหญ่บ้างไม่ได้ล่ะ”
Sameer Khan ผู้ร่วมก่อตั้ง SocialChamp ก็เป็นกังวลเกี่ยวกับทริปการเดินทางไป US ของเขาที่ใกล้เข้ามา “ผมกำลังหารือกับผู้เชี่ยวชาญหลายคนในวัลเลย์และพบว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะเป็นช่วงเวลาที่โหดร้าย เราทุกคนได้ยินเกี่ยวกับแผนที่ทรัมป์มีต่อมุสลิม แต่ที่ผมสงสัยคือทำไมเขายังได้รับการโหวต ถ้ารัฐบาลออกกฎหมายแบนมันส่งผลต่อธุรกิจของเราแน่นอน”
อย่างไรก็ตามยังมีสตาร์ทอัพบางรายที่แสดงความเห็นว่ายังมีความหวังและทางออกอยู่เสมอ Zaki Mahomed รองประธานของ Influitive กล่าวว่าสาระสำคัญของประชาธิปไตยคือการยอมรับผลลัพธ์ที่ไม่เป็นดังใจหวังแล้วเดินหน้าต่อ “มันชัดเจนแล้วว่าคนส่วนใหญ่เป็นกังวลเกี่ยวกับการที่จะไม่ได้เข้าถึงความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กำลังทำอยู่ อย่างเช่นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่แนวทางการรับมืออย่างสร้างสรรค์คือการปรับตัวและหาทางแก้ ไม่ใช่มัวแต่นั่งกลัวทุกสิ่งที่ทรัมป์จะทำในอนาคต” เขากล่าว
แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM