ในยุคดิจิตอล สร้างความสะดวกให้กับผู้คน ที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และติดต่อสื่อสารถึงกันได้ จึงทำให้รูปแบบการทำงานของคนยุคนี้ ไม่จำเป็นต้องนั่งประจำโต๊ะในบริษัท แต่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่ระบบอินเตอร์เน็ตไปถึง บวกกับคนรุ่นใหม่แสวงหาวิถีชีวิตอิสระ และต้องการมี Work-life Balance หรือสมดุลระหว่างการทำงาน กับการใช้ชีวิตส่วนตัว เช่น ท่องเที่ยว ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ สรรหาร้านอาหารอร่อย
จากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป… “Nissan” ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกับ “Studio Hardie” บริษัทออกแบบจากสหรราชอาณาจักร นำรถพลังงานไฟฟ้า “e-NV200” มาดัดแปลงเป็น “รถต้นแบบออฟฟิศเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าคันแรกของโลก” ในชื่อ “e-NV200 WORKSPACe” ซึ่งไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์รูปแบบการทำงานยุคใหม่เท่านั้น ทาง Nissan ยังมองว่าแนวคิดนี้จะช่วยแก้ปัญหาค่าเช่าสำนักงานในเมืองหลวง ที่นับวันมีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน
ภายในรถ “e-NV200 WORKSPACe” ถูกออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ-เก้าอี้ทำงาน, ระบบไฟควบคุมผ่านทางแอพพลิเคชั่น, Wi-Fi, Wireless Phone Charging, คอมพิวเตอร์หน้าจอสัมผัส, Bluetooth Speaker, ตู้เย็นขนาดเล็ก, เครื่องชงกาแฟ
หลังจากนั่งทำงานมาสักพัก ถ้ารู้สึกอยากพักสายตา มองวิว สูดอากาศบริสุทธิ์รอบๆ หลังคาของรถคันนี้ ได้ถูกออกแบบให้เป็นหลังคากระจก มองผ่านออกไป ก็จะเห็นท้องฟ้า ขณะที่ใต้ท้องรถมีแผ่นไม้ เมื่อดึงออกมา สามารถเป็นที่นั่งพักผ่อนได้ ส่วนประตูด้านใน จัดเตรียมที่แขวนจักรยานพับ
“ปัจจุบันราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองหลวงเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่การทำธุรกิจยุคนี้ต้องคิดและบริหารจัดการอย่างชาญฉลาด ทั้งยังต้องศึกษาว่าสถานที่ทำงานในอนาคตจะเป็นไปในรูปแบบใด ซึ่งเราเห็นแนวโน้มการทำงานรูปแบบเคลื่อนที่ไปไหน มาไหนมากขึ้น ดังนั้น ต่อไปยานพาหนะจะถูกออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารได้จากทุกที่ รวมทั้งสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานเคลื่อนที่ โดยเราต้องการให้โปรเจค “e-NV200 WORKSPACe” เป็นมากกว่าคอนเซ็ปต์ต้นแบบ” Gareth Dunsmore, Director of Electric Vehicles, Nissan Europe ฉายภาพเทรนด์ยานพาหนะในอนาคต จะถูกออกแบบให้ผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนอย่างแท้จริง
