ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดการแข่งขันวาดภาพระบายสี ระดับประถมศึกษา รอบชิงชนะเลิศ โครงการ ‘กล้าใหม่…ใฝ่รู้’ ปีที่ 11 โดยมี คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นำโดย อ.สังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร และ นางสาวอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมงาน ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่
นางสาวบุษกร ตรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการงานสื่อสารและกิจกรรมองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ ‘กล้าใหม่…ใฝ่รู้’ ประจำปี 2559 นับเป็นปีที่ 11 ที่ได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่ธนาคารดำเนินกิจการครบรอบ 100 ปี โดยเป็นเวทีให้เยาวชนในทุกระดับชั้นได้แสดงศักยภาพ เพิ่มพูนความรู้ แสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมการสื่อสารเพื่อทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นที่มาของกติกาการร่วมแข่งขันวาดภาพระบายสี ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ที่ว่าในแต่ละทีม ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 คนจะต้องต่างระดับชั้นกัน เพื่อให้น้องๆ ได้ฝึกพัฒนาการทางกายทั้งด้านประสาทสัมผัส การเคลื่อนไหว อารมณ์และจินตนาการ ก้าวสู่เวทีในระดับประเทศหรือนานาชาติต่อไป
ด้านนายเชวงศักดิ์ บุญกนิษฐ์ หรือ ครูต้น คุณครูสอนศิลปะในฐานะครูที่ปรึกษาของนักเรียนร่วมแข่งขันวาดภาพระบายสี ‘กล้าใหม่…ใฝ่รู้’ กล่าวว่า ได้นำนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรกในปี 2551 โดยขณะนั้นประจำอยู่โรงเรียนคำเที่ยงอนุสรณ์ จ.เชียงใหม่ จากนั้นในปี 2556 ได้ย้ายมาประจำที่โรงเรียนท่าก๊อพลับพลาพิทยา จ.เชียงราย กระทั่งถึงปัจจุบัน โดยได้นำนักเรียนเข้าร่วมโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักเรียนและครูที่ปรึกษา คือ เป็นการสร้างความใฝ่รู้และให้โอกาส โดยเฉพาะแก่เด็กๆในพื้นที่ห่างไกล ให้ได้มีแรงบันดาลใจในการพัฒนาเพื่อยกระดับตนเอง จากการได้เดินทางไปพบเห็นและสัมผัสเพื่อนนักเรียนโรงเรียนในเมืองรวมถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ กับทั้งยังก่อเกิดมิตรภาพใหม่ที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันทั้งในกลุ่มครูที่ปรึกษาและนักเรียนด้วย
สำหรับการแข่งขันวาดภาพระบายสี ระดับประถมศึกษา รอบชิงชนะเลิศ ประจำปี 2559 มีเหล่าจิตรกรหัวกะทิระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 เข้ารอบจำนวนทั้งสิ้น 40 ทีมจากจำนวน 194 ทีมที่สมัครเข้าแข่งขันจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
โดยผลการแข่งขันแบ่งเป็น 3 อันดับ คือ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนวรนคร จ.น่าน ชื่อผลงาน ‘ลูกไม้ของพ่อ’ โดยจะได้รับถ้วยรางวัลจากกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เกียรติบัตร พร้อมเงินทุนการศึกษาสำหรับโรงเรียน นักเรียน และคุณครูที่ปรึกษา รวมมูลค่า 200,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านไทยสามัคคี จ.สระแก้ว ชื่อผลงาน ‘ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย’ ได้รับเกียรติบัตรและเงินทุนการศึกษารวมมูลค่า 105,000 บาท และ รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ โรงเรียนท่าก๊อพลับพลาพิทยา จ.เชียงราย ชื่อผลงาน ‘Wonder of the World’ และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ชื่อผลงาน ‘เยาวชนไทยมาร่วมมือร่วมใจกันทำความดีใต้ร่มพระบารมี’ โดยได้รับเกียรติบัตร และเงินทุนการศึกษารวมมูลค่าทีมละ 50,000 บาท
ชนะเลิศ
รองชนะเลิศอับดับ 1
ทั้งนี้ ภาพที่เข้าร่วมการแข่งขันและชนะการประกวด จะถูกนำไปจัดแสดงผลงาน ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในช่วงวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา(2558)
“ในแต่ละปี โครงการ ‘กล้าใหม่…ใฝ่รู้’ มีเยาวชนทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศให้ความสนใจและสมัครเข้าร่วมแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลากหลายโครงการ ที่ทั้งตัวน้องๆ และผลงานที่สร้างสรรค์ มีพัฒนาการและความโดดเด่น สามารถสร้างความภาคภูมิและสร้างชื่อเสียงได้ในเวทีระดับนานาชาติ เช่น ด.ญ.วิรันต์ ฮนทุมมา หนึ่งในสมาชิกทีมโรงเรียนบ้านไทยสามัคคี จ.สระแก้ว (โรงเรียนบ้านไทยสามัคคีร่วมแข่งขันตั้งแต่ปี 2551-ปัจจุบัน) ซึ่งได้ร่วมแข่งขันวาดภาพระบายสี กับ ‘กล้าใหม่…ใฝ่รู้’ โดยน้องได้รับรางวัล Gold Award ชนะเลิศอันดับ 1 รุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี จากการประกวดวาดภาพระบายสีระดับโลก ณ ประเทศญี่ปุ่น โดย ด.ญ.วิรันต์ สามารถเอาชนะผลงานของเยาวชนอีกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ที่ส่งผลงานเข้ามาประกวด กว่า 620,000 ชิ้นงาน
นอกจากนี้ โครงงาน “กล้าใหม่…สร้างสรรค์ชุมชน” ของระดับอุดมศึกษา ที่เป็นการแข่งขันจัดทำโครงงานเพื่อชุมชนนั้น พบว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีโครงงานที่ได้รับทุนไปพัฒนาชุมชนแล้วปีละ ไม่ต่ำกว่า 20 โครงงาน กระจายตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และอีกหลายโครงงานของเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกจากสถาบันต่างๆ เพื่อนำไปต่อยอด ขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม แม้ ‘กล้าใหม่…ใฝ่รู้’ จะเป็นเพียงเวทีหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเยาวชน แต่ทุกครั้งที่ได้ชื่นชมความสำเร็จของน้องๆ เหล่านี้ นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นกำลังใจในการขับเคลื่อนเวที ‘กล้าใหม่…ใฝ่รู้’ ให้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง” นางสาวบุษกร กล่าวทิ้งท้าย