หลังจากทดลองระบบ และทยอยขยายจุดให้บริการเป็นเวลา 2 ปีแล้ว…มาวันนี้ “กลุ่มเซ็นทรัล” เปิดตัว “CenPay” ธุรกิจใหม่ในเครือที่ให้บริการด้านการรับชำระบิล และการเติมเงิน (Payment Service) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง และมีผู้ให้บริการที่แข็งแกร่ง อยู่มาก่อนไม่ต่ำกว่า 10 ราย เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส ของกลุ่มซีพีออลล์ ซึ่งเป็นผู้นำตลาด, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี รวมถึงไปรษณีย์ไทย และธนาคารต่างๆ
แต่อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ “กลุ่มเซ็นทรัล” ตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจ Payment Service และจุดแข็งที่จะทำให้ “CenPay” แข่งขันได้ในธุรกิจนี้ มีอะไรบ้างมาดูกัน…
– “กลุ่มเซ็นทรัล” เป็น Big Conglomerate ในธุรกิจค้าปลีกของไทย ที่แตกกิ่งก้านธุรกิจที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ครอบคลุมมากที่สุดในไทยก็ว่าได้ เช่น กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า, กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์เครื่องเขียน หนังสือ และ ออนไลน์, กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร
– องค์กรธุรกิจที่เป็น Big Conglomerate มุ่งสร้างสิ่งที่เรียกว่า “Business Ecosystem” หรือ “ระบบนิเวศทางธุรกิจ” เป็นการทำให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือให้มากที่สุด ดังนั้นจะสังเกตได้ว่าลูกค้า 1 คนของกลุ่มเซ็นทรัล จะใช้บริการต่างๆ มากมาย เช่น เดินศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ซื้อชุดกีฬาที่ซูเปอร์สปอร์ต จับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ท็อปส์ หรือเมื่ออยู่หน้าจอ ช้อปปิ้งผ่านแอพพลิเคชั่นของค้าปลีกในกลุ่มเซ็นทรัล
– การอยู่ในธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คน และในการสร้าง “Business Ecosystem” จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้ “พฤติกรรมลูกค้า” ด้วยเหตุนี้เอง “กลุ่มเซ็นทรัล” จึงได้พัฒนาบัตรสมาชิก “The 1 Card” ที่นอกจากเป็น Loyalty Program แล้ว อีกหน้าที่สำคัญของบัตรสมาชิกนี้ คือ การเก็บข้อมูลพฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้าแต่ละคน โดยปัจจุบันมีฐานสมาชิกกว่า 12 ล้านราย ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็น “Big Data” ที่จะถูกนำมาวิเคราะห์ สำหรับการพัฒนาธุรกิจต่อไปในอนาคต และสามารถนำเสนอสิทธิประโยชน์ หรือโปรโมชั่นได้แบบเฉพาะบุคคล (Customization) ทำให้เกิด Store Loyalty ในกลุ่มลูกค้า
– ผลจากการที่ “กลุ่มเซ็นทรัล” ขยายธุรกิจค้าปลีกในหลายเซ็กเมนต์ กระจายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกเฉพาะทาง ทำให้ปัจจุบันมีจุดรับชำระเงิน หรือเคาน์เตอร์แคชเชียร์ รวมกันกว่า 6,000 จุด และจะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเปิดสาขาและค้าปลีกโครงการใหม่
ดังนั้น “กลุ่มเซ็นทรัล” จึงได้ต่อยอดจุดชำระเงิน เพื่อ “เติมเต็ม” Business Ecosystem ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาธุรกิจใหม่ “CenPay” บริการรับชำระบิล และการเติมเงินอย่างครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อของ หรือทำธุรกรรมในห้างร้านภายใต้เครือของกลุ่มเซ็นทรัล
ประกอบกับ กลุ่มเซ็นทรัลมองว่าการมีระบบ Payment Service ของตนเอง ไม่ได้พึ่งพิงระบบคนอื่น ทำให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างอิสระ กำหนดราคาให้บริการได้เอง อีกทั้งเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์การได้ฐานข้อมูลลูกค้าที่เป็น Consumer Insight เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้าทั้งค้าปลีกภายในเครือ ไปจนถึงการชำระเงินค่าสินค้า – บริการต่างๆ
– ปัจจุบัน CenPay รับชำระบิลต่างๆ มากกว่า 200 รายการ อาทิ ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์รายเดือน ค่าประกัน ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบัตรเครดิต ค่าตั๋วเครื่องบิน โดยมีพันธมิตรหลัก คือ เอ็มเปย์ และทรูมันนี่ พร้อมทั้งบริการเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครือข่าย เติมเงินเกมส์ออนไลน์ผ่านทางเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ณ จุดบริการที่มีเครื่องหมาย CenPay ที่อยู่ภายใต้บริษัทในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลทั่วประเทศกว่า 1,659 สาขา ได้แก่
แฟมิลี่มาร์ท 1,117 สาขา, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ รวม 199 สาขา, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 22 สาขา, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 44 สาขา, บีทูเอส 96 สาขา, ออฟฟิศเมท 48 สาขา, ไทวัสดุ โฮมเวิร์ค และบ้านแอนด์บียอนด์ รวม 48 สาขา และเพาเวอร์บายอีกกว่า 85 สาขา
ขณะที่ในปี 2560 มีแผนดึงดูดผู้ใช้บริการรายใหม่มากขึ้น โดยเพิ่มรายการรับชำระบิลและเติมเงินอีกประมาณ 20 รายการ เช่น Easypass, กรุงศรี ออโต้ (Car4Cash) และธนาคารอาคารสงคราะห์
– CenPay ชูจุดขาย “ค่าธรรมเนียมราคา 5 บาท” เนื่องจากในธุรกิจรับชำระบิล ผู้บริโภคคำนึงถึงอัตราค่าบริการเป็นอันดับแรก ดังนั้นการมีราคาถูกกว่าคู่แข่งบางราย ย่อมดึงดูดให้ผู้บริโภคมาใช้บริการ และการใช้ “The 1 Card” มาสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เพราะในการใช้บริการ CenPay ลูกค้าสามารถสะสมแต้ม หรือใช้คะแนน The 1 Card แทนเงินสดในการชำระบิล และเติมเงิน
– ปัจจุบัน CenPay มียอดผู้ใช้บริการชำระบิลอยู่ที่ 300,000 รายการต่อเดือน และ ยอดเติมเงิน 1.6 ล้านรายการต่อเดือน ซึ่ง 90% เป็นลูกค้าของกลุ่มเซ็นทรัล โดยในปี 2559 มีการเติบโตของการใช้บริการชำระบิลเพิ่มขึ้นจากปี 2558 อยู่ที่ 140% และ อัตราการเติบโตของการใช้บริการเติมเงินสูงขึ้น 200%
– การพัฒนา CenPay ในสเตปต่อไป คือ จะเพิ่มบริการ “Online Payment” บนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล เช่น ท็อปส์, แฟมิลี่มาร์ท, เซ็นทรัล, โรบินสัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้เร็วที่สุดประมาณปลายปี 2560
การให้บริการรับชำระเงิน ผ่านช่องทางห้างร้านในเครือเซ็นทรัล (Brick-and-mortar) และการทำ Online Payment เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งคนที่มาจับจ่ายห้างร้านในเครือ และคนที่สะดวกช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์
– วาง Roadmap ในระยะยาว อาจมีการทำเป็น “e-wallet” เนื่องจากการทำธุรกิจของ Cenpay จะมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตามเทคโนโลยี ความต้องการ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค
“เราคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มจุดให้บริการให้ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัลได้ภายใน 3 – 5 ปีข้างหน้า เพื่อให้ยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 30% จากยอดผู้ใช้บริการในปัจจุบัน ซึ่งเราหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น CenPay จะเป็น Top 3 ของตลาดนี้” ผู้บริหาร CenPay กล่าวทิ้งท้าย