หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เหล่า “มนุษย์เงินเดือน” มองหาจากองค์กรในวันนี้ ไม่ได้มีแค่ชื่อเสียงขององค์กรเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “สวัสดิการ” ที่พนักงานควรได้รับจากนายจ้างด้วยเช่นกัน นอกจากสวัสดิการทั่วไป เช่น ค่ารถค่าเดินทาง ค่าอาหาร วันหยุด วันลาพักร้อน และประกันสังคมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พนักงานควรพิจารณานั่นก็คือ “ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม”
ในยุคที่ธุรกิจ Start up และ SMEs กำลังเฟื่องฟู การเปิดบริษัทใหม่และอัตราการจ้างงานจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำ “ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม” ให้กับพนักงาน จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่นายจ้างยุคใหม่ควรคำนึงถึง
เพราะนอกจากเป็นผลประโยชน์โดยตรงของลูกจ้างแล้ว ยังส่งผลดีต่อบริษัทด้วย เพราะบริษัท ที่มีสวัสดิการประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มจะได้รับสิทธิ์ตอนลดหย่อนภาษี ซึ่งช่วยเรียกความสนใจจากพนักงาน และบุคคลภายนอก รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทได้อีกทางหนึ่ง
ซึ่งความแตกต่างระหว่างประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม และประกันภัยรายบุคคลคือ
1.การคิดค่าเบี้ยประกันภัย: อัตราเบี้ยประกันต่อคน เป็นการคิดจากอัตราเบี้ยประกันตามจำนวนสมาชิกทั้งหมดในครั้งแรกที่สมัครเอาประกันภัย โดยขึ้นอยู่กับลักษณะประเภทธุรกิจและแผนประกันภัย
2.การประเมินความเสี่ยง: เป็นการประเมินความเสี่ยงแบบกลุ่ม ไม่ได้เป็นการประเมินแบบรายบุคคล
3.การจ่ายเบี้ยประกัน: จ่ายเบี้ยประกันอัตราเดียวกันทั้งกลุ่ม
จากข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทยในปี 2557 – 2558 เผยถึงภาพรวมของตลาดประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม บริษัทกรุงไทย-แอกซ่ามียอดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มปี 2015 ด้วยเบี้ยรับรวมเฉลี่ยต่อปี 1,835 ล้านบาท จากจำนวนบริษัทประกันชีวิต 23 บริษัท ขณะที่สภาพธุรกิจประกันกลุ่มมีการแข่งขันสูงด้วยอัตราค่าเบี้ยที่ต่ำ ซึ่งประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มของกรุงไทย-แอกซ่าออกแบบให้เหมาะสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 5-10 คนไปจนถึงขนาดกลางที่มีจำนวนพนักงานถึง 200-500 คน
โดยสิทธิประโยชน์ประกันภัยกลุ่มของกรุงไทย–แอกซ่ามี 2 ประเภท คือ
ประกันอุบัติเหตุกลุ่มแบบสำเร็จรูป : คุ้มครองการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากอุบัติเหตุ การสูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ พร้อมทั้งคุ้มครองการฆาตกรรมลอบทำร้าย และการขับขี่ หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ
ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มแบบสำเร็จรูป : คุ้มครองการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ทุกกรณี การสูญเสียอวัยวะพร้อมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก
สิ่งที่เป็นจุดเด่นและทำให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยของกรุงไทย-แอกซ่าแตกต่างจากรายอื่นๆ คือ
1.ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายในกรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลคู่สัญญา
2.มีโรงพยาบาลและคลีนิคคู่สัญญากว่า 452 แห่งทั่วประเทศ
3.มีบริการ Fax claim ตลอด 24 ชั่วโมง
4.มีบริการสายด่วน 24 ชั่วโมง 365 วัน สำหรับการช่วยเหลือฉุกเฉิน เบอร์ติดต่อ 0-2648-0444
5.แจ้งผลการอมุมัติจ่ายเคลมผ่าน SMS
6.ลูกค้าสามารถตรวจสอบเคลมผ่านระบบ HCP
7.ลูกค้าสามารถส่งเคลมผ่านระบบ HCP ได้กรณียอดสินไหมไม่เกิน 3,000 บาท
ดังนั้น การทำประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มจึงสามารถตอบสนองกับกลุ่มบริษัทฯ ที่มีพนักงานจำนวนไม่มาก และต้องการซื้อสวัสดิการให้กับพนักงาน ทำให้บริษัทฯ สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการกำหนดผลประโยชน์ และเบี้ยประกันที่ชัดเจน รวมทั้งสะดวกต่อการดำเนินการและลดขั้นตอนการเสนอขาย
ประโยชน์ที่นายจ้างและลูกจ้างจะได้รับจากการทำประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม มีดังนี้
| ประโยชน์ต่อนายจ้าง | ประโยชน์ต่อลูกจ้าง |
| สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กร การมีสวัสดิการที่ดีแสดงถึงความเอาใจใส่และให้ความสำคัญกับลูกจ้าง เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง | สร้างหลักประกัน การได้รับความคุ้มครองจากประกัน ทำให้รู้สึกว่ามีหลักประกันที่มั่นคง และมีความสุขในการทำงานมากขึ้น |
| ต้นทุนต่ำ ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มมีต้นทุนต่ำ แต่ลูกจ้างได้รับผลประโยชน์สูงเมื่อเทียบกับการทำประกันรายบุคคล และช่วยลดการเรียกร้องเงินช่วยเหลือ เมื่อลูกจ้างเสียชีวิต เจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ | ลดภาระค่าใช้จ่าย เมื่อเกิดบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย ก็ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีประกันเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ |
| ช่วยวางแผนการเงิน องค์กรหรือนายจ้างสามารถวางแผนทางการเงินได้ล่วงหน้า เพราะการทำประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มจะมีอัตราเบี้ยประกันที่แน่นอน ทำให้คาดการณ์ได้ว่าแต่ละปีต้องเสียต้นทุนในส่วนนี้เท่าไร | คุณภาพชีวิตดีขึ้น หากต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเอง หลายคนอาจเลือกรอให้หายป่วยเองมากกว่าหาหมอเพื่อรักษาให้หาย แต่การทำประกันจะช่วยให้ลูกจ้างเข้ารับการรักษาแต่เนิ่นๆ ก่อนอาการเจ็บป่วยจะรุนแรงขึ้น รวมถึงช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคร้ายแรง |
| ช่วยประหยัดภาษี การประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มช่วยลดหย่อนภาษี เพราะสามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยมาหักเป็นค่าใช้จ่ายก่อนคำนวณภาษีได้ | ครอบครัวอุ่นใจ หากลูกจ้างเกิดเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ ครอบครัวจะได้รับเงินชดเชย ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ |
ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มจึงเป็นสวัสดิการที่ตอบโจทย์สำหรับพนักงาน รวมทั้งยังช่วยตอกย้ำคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทให้ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จในอนาคต
ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มของกรุงไทย-แอกซ่า ติดตามรายละเอียดได้จาก http://bit.ly/2goqEE4
