ที่ผ่านมาสีสันการแข่งขันในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน ไม่รุนแรงมากนัก เมื่อเทียบกับโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ แต่มาวันนี้ ถ้าสังเกตจะเห็นว่า การแข่งขันอินเทอร์เน็ตบ้านเริ่มมีความร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ จากการไล่บี้กันแบบไม่มีใครยอมใคร ไม่ว่าจะเป็น True Online, 3BB, TOT และ AIS โดยมุ่งไปที่การทำโปรโมชั่น “สงครามราคา” และ “ความแรง”
โดยเฉพาะทิศทางที่กำลังมุ่งมาสู่ “อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ ออพติก” เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ ควบคู่กับการ Replace ครัวเรือนเดิมที่ยังคงใช้เทคโนโลยีเก่า เช่น ADSL (ระบบสายโทรศัพท์) ซึ่งคิดเป็น 70 – 80% ของตลาดรวมเน็ตบ้านที่มีผู้ใช้งาน 7 ล้านราย หรือคิดเป็น Penetration 32.9% ของจำนวนครัวเรือนในไทยที่มีกว่า 22 ล้านครัวเรือน
โดยคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ Penetration อินเทอร์เน็ตบ้านในประเทศไทย จะขยับไปอยู่ที่ 46% ของจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศ
สำหรับเหตุผลที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ เนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคในปัจจุบัน พบว่าคนต้องการความเร็วของอินเทอร์เน็ตอย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่อยู่ในบ้านและนอกบ้าน โดยเมื่ออยู่นอกบ้าน คุ้นเคยกับความเร็วของ 4G ทำให้เมื่อกลับเข้ามาบ้าน จึงต้องการได้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 20 – 30 Mbps
ประกอบกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของครอบครัวรุ่นใหม่ ทั้งครอบครัวเดี่ยว ที่มีสมาชิกประมาณ 2 – 3 คน และครอบครัวใหญ่ พบว่าสมาชิกในครอบครัว มีพฤติกรรมการใช้งานเป็นในลักษณ์ Multiple Device คือ 1 คน มีมากกว่า 1 เครื่อง ด้วยเหตุนี้เองจึงยิ่งต้องการอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสม่ำเสมอ ไม่สะดุด ในราคาคุ้มค่า
ดังนั้น การที่ 4 ค่าย ทำราคาให้เข้าถึงง่าย บวกกับการพยายามขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะเป็นการเปลี่ยนภาพ “อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์” จากในอดีตเป็นของพรีเมียม ราคาสูง มีให้บริการเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองหลวง กลายเป็นเทคโนโลยีที่จับต้องได้
ทำให้ครัวเรือนไหนที่ติดอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว และในพื้นที่มีอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ย่อมกระตุ้นให้เกิดการ Replace เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ADSL / Docsis / VDSL ในขณะที่กลุ่มลูกค้าใหม่ หากในโซนที่อาศัยอยู่ มีบริการอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วยการติดตั้งอินเทอร์เน็ตประเภทนี้โดยอัตโนมัติ
ส่งให้ให้เวลานี้ เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และมีการแข่งขันแพ็คเกจดึงดูดใจลูกค้ามากขึ้น
เปิดศึกดวลแพ็กเกจไฟเบอร์
“True Online” เป็นผู้นำตลาดอินเทอร์เน็ตบ้าน ขณะนี้มีฐานลูกค้า 2.7 ล้านราย โดยยังคงใช้กลยุทธ์ “Convergence” สินค้าและบริการในกลุ่มทรูด้วยกัน ทำแพ็คเกจพ่วงเข้าไป เช่น ในระดับ 100 Mbps เมื่อไม่นานนี้เปิดตัวแพ็กเกจ Fibre ความเร็ว 100/30 Mbps ราคา 1,399 บาทต่อเดือน โดย Bundle ทั้ง True Online + True Visions + Truemove H
“3BB” อันดับ 2 ของตลาด ปัจจุบันมีฐานลูกค้า 2.345 ล้านราย ขณะที่ความหลากหลายของแพ็คเกจไฟเบอร์ ยังมีไม่หลากหลายมากนัก เนื่องจากเวลานี้ 3BB กำลังโฟกัสกับระบบ VDSL เป็นหลัก โดยมีตัวหลักเป็นแพ็กเกจไฟเบอร์ 200/50 Mbps ราคา 1,200 บาทต่อเดือน
“TOT” อันดับ 3 ของตลาด ปัจจุบันมีฐานลูกค้าประมาณ 1.4 – 1.5 ล้านราย ด้วยความที่เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ ทำให้การขยับตัวแต่ละครั้งอาจไม่ทันคู่แข่ง ส่งผลให้ที่ผ่านมาต้องเสียฐานลูกค้ารอบนอกเมืองให้กับ 2 ผู้เล่นอย่าง True และ 3BB ไป อย่างไรก็ตามในการบุกตลาดอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ ทาง TOT มีการเปิดตัวแพ็กเกจมาแข่งขันเช่นกัน
“AIS Fibre” ถือเป็นน้องเล็กสุดในธุรกิจนี้ เพราะเพิ่งกระโดดเข้ามาทำตลาดจริงจังเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว แต่ความที่เป็นอันดับ 1 ในธุรกิจโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ ทำให้การเข้ามาของ AIS สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผู้ที่อยู่มาก่อนไม่น้อย เพราะมาพร้อมกับจุดขายเป็น “อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์” ตั้งแต่แรก และมีฐานลูกค้ามือถืออยู่แล้ว ประกอบกับมี AIS Playbox จึงสามารถทำ Bundle แพ็กเกจร่วมกันได้ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้ามือถือของตนเองมาใช้ ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าใหม่
อย่างล่าสุด เปิดตัวแพ็กเกจใหม่ “100/10 Mbps” ราคา 1,100 บาทต่อเดือน และพิเศษสำหรับลูกค้า AIS ราคา 990 บาทต่อเดือน ขณะที่ลูกค้า AIS Serenade เหลือ 899 บาทต่อเดือน
คุณศรันย์ ผโลประการ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารธุรกิจฟิกซ์บรอดแบนด์ เอไอเอส กล่าวว่า AIS Fibre เริ่มต้นธุรกิจเมื่อปีที่แล้ว ด้วยฐานลูกค้า 12,000 ราย และได้ขยับเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมั่นใจว่าภายในปี 2559 จะมีฐานลูกค้า 300,000 ราย
“เราพยายามให้ยอดลูกค้าเข้ามาใหม่ต่อเดือน ให้ทัดเทียมกับ True และ 3BB ซึ่งขณะนี้เราใกล้เคียงกันแล้ว คือ ในแต่ละไตรมาส True และ 3BB ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาประมาณ 100,000 รายต่อไตรมาส เช่นเดียวกับ AIS Fibre ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาไตรมาสละ 100,000 ซึ่งเราพยายามรักษาตัวเลขไตรมาสละ 100,000 รายไปเรื่อยๆ ถ้าเราทำได้อย่างนี้ต่อเนื่อง ในปี 2560 ทั้ง 4 ไตรมาสเราจะทำได้ 400,000 ราย”
ปัจจุบันพื้นที่ให้บริการ “AIS Fibre” ครอบคลุม 28 จังหวัด ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ โดยในปีหน้ายังไม่เปิดพื้นที่ให้บริการใหม่มากนัก เพราะต้องการอุดช่องโหว่พื้นที่ให้บริการเดิมก่อน เพื่อมั่นใจได้ว่าลูกค้าในพื้นที่บริการสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพจริง
“เราอยากขึ้นเบอร์ 2 มีฐานลูกค้าไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านราย และส่วนแบ่งการตลาด 25% ภายใน 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2564) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยาก แต่นี่เป็นเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้” ผู้บริหาร AIS Fibre กล่าวทิ้งท้าย