Facebook(เฟซบุ๊ก) เพิ่งประกาศออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ว่ากำลังจะยกระดับการ Live ให้สนุกขึ้นอีกระดับด้วยการเพิ่มออพชั่น Live แบบ 360 องศา รวมถึงทวิตเตอร์ก็กำลังจะปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมาเช่นกัน ทั้งนี้ทำให้อนาคตของวิดีโอ 360 ในโลกของ Video First ขยับเข้าให้คนทั่วไปอีกเสต็ป อย่างไรก็ตามการถ่ายทำวิดีโอแบบ 360 มีข้อจำกัดทางเทคนิคที่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางอย่างกล้อง 360 ในการถ่าย ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปที่ไม่ได้คิดจะซื้อกล้องตัวเป็นหมื่นมาใช้เพื่อถ่ายวิดีโอ 360 ก็ติดตามผลงานของคนอื่นๆ ไปก่อน แต่เชื่อว่าในอนาคตการเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านั้นน่าจะง่ายขึ้นรวมไปถึงราคาที่ถูกลง
แต่ในมุมของแบรนด์ ที่มีงบประมาณเพียงพอที่จะลุยตลาด อาจถึงเวลาของคุณแล้วที่ต้องเริ่มศึกษาฟีเจอร์ใหม่ๆ แบบนี้และลุกขึ้นมาทำเป็นเจ้าแรกๆ เพื่อนำกระแส ลองศึกษาข้อมูลต่อไปนี้จากเฟซบุ๊กในส่วนของไกด์ที่จะช่วยให้คอนเทนท์วิดีโอ 360 ของคุณเจ๋งขึ้นได้ไม่ยาก โดยเป็นการรวบรวมทิปจาก Associated Press (AP)
1.คิดว่ากล้องคือตัวคน
หลักการพื้นฐานในการถ่ายรูปแทบทุกประเภทบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ คือการที่เราอยากถ่ายทอดอะไรให้คนดูเห็น เราก็ต้องหามุมมองดีๆ แต่สำหรับภาพถ่ายทั่วไป กล้องอาจจะทำหน้าที่แค่แทนสายตาในการมองไปยังจุดใดจุดหนึ่ง แต่สำหรับการถ่ายแบบ 360 คนดูจะสามารถเลื่อนไปมองได้รอบทิศทางเหมือนเขายืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ ดังนั้นกล้องที่คุณถืออยู่ในมือควรแทนตัวคนคนหนึ่งได้ และควรหาจุดที่ดีที่สุดที่จะมองเห็นอะไรรอบๆ ได้อย่างสวยงาม Dario Lopez หัวหน้าช่างภาพของเอพีประจำ Mexico และ Central America เคยให้คำแนะนำไว้ว่าหลักสำคัญในการถ่ายภาพแบบ 360 คือการตั้งกล้องไว้ในจุดที่คนควรจะอยู่ ดูให้แน่ใจว่ามีเรื่องราวมากมายที่จะเกิดขึ้นรอบๆ กล้อง และตั้งมันไว้ในระยะสายตา
ดังนั้นหัวใจสำคัญก็คือการตั้งกล้องในจุดที่คิดว่าคนอยากจะไปยืนอยู่และมองไปรอบๆ และควรเป็นที่ที่ไม่ได้ไปได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ต่างประเทศ หรือพื้นที่ยากต่อการเข้าถึง จำลองว่ากล้องเป็นมุมมองคนของท้องถิ่น เป็นผู้ชม เป็นผู้บริโภค แล้วใส่ความรู้สึกลงไปว่าเขาน่าจะอยากดูอะไร อยากเห็นอะไร ซึ่งบางครั้งสิ่งที่วพกเขาอยากเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากถ่ายเสมอไป ทำให้กล้องเปรียบเสมือนประตูที่จะเชื่อมคนดูเข้ามาสู่โลกที่กล้องตั้งอยู่ได้จริงๆ
2.หามุมมองที่แตกต่าง
ในโลกของวิดีโอ 360 การตั้งกล้องจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ลองหามุมมองใหม่ๆ จากข้อได้เปรียบของกล้องที่ทำให้เราเห็นทุกทิศทาง ซึ่งควรเป็นมุมที่ไม่มีจุดบอดอยู่ เช่นหากไปตามงานแถลงข่าวใหญ่ๆ แล้วได้มีโอกาสตั้งกล้องสัมภาณ์กลางวงนักข่าวมากมาย สิ่งที่คนดูจะเห็นหลังจากหมุนไปเรื่อยๆ คือกล้องตัวอื่นๆ และนักข่าวมากมายที่กองกันอยู่ด้านหลัง แบบนั้นก็คงไม่น่าสนใจ การถ่ายแบบ 360 จึงเหมาะกับบริบทที่แม้แต่หลังกล้องก็มีมุมมองดีๆ ให้ดู
3.ระยะที่เหมาะสมคือ 1-6 เมตร
กล้องแบบ 360 มีลักษณะเลนส์เป็น Fish eye ดังนั้นหากถ่ายใกล้วัตถุเกินไปภาพจะบิดเบี้ยว และหากไกลเกินไปวัตถุก็จะดูเล็กเกินจริง ดังนั้นระยะที่เหมาะสม AP แนะนว่าควรตั้งกล้องห่างจากวัตุในระยะตั้งแต่ 1-6 เมตร และหากมีการถ่ายคนก็ควรอยู่ห่างจากกล้องสัก 1 เมตรกำลังดี
4.ระวังการเคลื่อนไหวขณะถ่ายทำ
ส่วนมากแล้วการถ่ายแบบ 360 มักจะเป็นการตั้งกล้องไว้กับที่ เพราะการเคลื่อนไหวอาจทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของภาพ และไปจนถึงการเกิด Motion sickness เมื่อดูใน VR เฮดเซ็ท แต่ถ้าต้องขยับจริงๆ ก็ต้องพยายามให้นิ่งที่สุดหรือใช้ขาตั้งกล้องเป็นตัวช่วย ซึ่งการใช้ขาตั้งกล้องน่าจะดีกว่าการที่ตากล้องเป็นคนเคลื่อนกล้องเอง เพราะลองนึกภาพว่าหากเรากำลังดูและหมุนเพื่อดูรอบๆ แล้วหมุนไปเจอตากล้องกำลังขยับกล้องอยู่ก็อาจทำให้ประสบการณ์การชมไม่สมูทเท่าที่ควร
5.ถ่ายอย่างต่ำหนึ่งนาที
AP บอกว่าคลิป 360 ส่วนใหญ่ของพวกเขายาวเพียง 10 วินาที ซึ่งพอถมเถในการให้คนดูหมุนชมบรรยากาศรอบๆ และรับข้อมูลอย่างเพียงพอ แต่การจะได้คลิปสิบวินาทีที่สมบูรณ์แบบนั้นคุณควรถ่ายทำไม่ต่ำกว่า 1 นาทีแล้วตัดเอาช่วง 10 วิ ที่ดีที่สุดมาออกอากาศ เพื่อตัดเอาปัจจัยแวดล้อมที่รบกวนต่างๆ ออกไป แต่ในกรณีของการ Live สดแบบ 360 ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คงเป็นกรณียกเว้น เพราะในความสดคงควบคุมอะไรได้ไม่มาก
6.อย่าหยุดลองสิ่งใหม่
จริงๆ แล้วก็เป็นทิปสำหรับทุกเรื่องในชีวิต ไม่ใช่แค่ทิปสำหรับวิดีโอ 360 การค้นหาและทดลองทำในสิ่งใหม่ๆ จะช่วยให้เรานำหน้าคนอื่น แม้แต่ AP เองที่ทำคลิป 360 มาแล้วหลากหลายรูปแบบ ก็ยังพยายามที่จะหามุมมองใหม่ๆ เรื่องราวใหม่ๆ มาเล่าเรื่อยๆ เพื่อพาเทคโนโลยีนี้ไปให้ถึงจุดที่ยังไม่มีใครเคยลอง หลายครั้งพวกเขาถ่ายทำโดยไม่มีคอนเทนท์ แค่ลองตั้งกล้องในมุมใหม่ๆ ลองโพสต์เพื่อดูผลตอบรับทั้งในแง่ของเอนเกจเมนท์และยอดวิว เสต็ปต่อจากนี้ก็คือการพยายามต่อยอดให้คนเข้าร่วมกับมันให้มากขึ้น หากคุณเป็นธุรกิจที่สนใจเรื่องราวเหล่านี้ก็ไม่ควรจะหยุดทดลองเช่นกัน
ยุคของ VR ยังอยู่ในช่วงเดินทางและยังมาไม่ถึง แต่ยุคของวิดีโอมาถึงแล้ว ทั้งในมุมของคนทำและคนเสพคอนเทนท์ก็ต้องเริ่มเตรียมตัวในการจัดทำและดื่มด่ำกับคอนเทนท์ที่จะสมจริงมากขึ้น โลกแห่งโ:เชียลเน็ตเวิร์คที่เรารู้จักเริ่มตั้งแต่การเขียนเล่าเรื่องด้วยตัวอักษร ขยับมาเป็นการโพสต์ภาพ และในที่สุดก็เป็นเวลาของวิดีโอ และวิดีโอกำลังจะเป็นมากกว่าที่มันเคยเป็น VR จะกลายเป็นโลกใบใหม่แต่ยังมีหนทางขรุขระอีกเยอะกว่าโลกใบใหม่ใบนั้นจะสมบูรณ์ให้ทุกคนเข้าถึง แต่เมื่อวันนั้นมาถึงคนที่พร้อมกว่าก็มีโอกาสชนะมากกว่า ดังนั้นการเริ่มตีสนิทกับคอนเทนท์แบบ 360 ตั้งแต่วันนี้อาจเป็นเรื่องราวดีๆ ที่แบรนด์ควรทำ
แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM
Credit Photo (ภาพเปิด) : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand