กลายเป็นข่าวครึกโครมในวงการสื่อ เมื่อ “โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” ลาออกจาก “บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด” ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากกรณีดีลขายหุ้น “เดย์ โพเอทส์” ให้กับ “บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน)” ซึ่งขณะนี้กระบวนการซื้อขายยังไม่เสร็จสิ้น
ล่าสุด “สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ธนวรินทร์ จำกัด เจ้าของ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด ได้เปิดใจถึงกรณีการลาออกของ “โหน่ง วงศ์ทนง” และ “นิติพัฒน์ สุขสวย” ว่า…
“บริษัทเดย์ โพเอทส์ ยังเป็นของเรา ส่วนโหน่ง ถ้าเขามีความคิดไม่ตรงกับเรา เขาขอลาออกไปทำสิ่งที่เขาอยากทำ ก็เป็นสิทธิ์ที่เขาทำได้ อีกทั้งขณะนี้เป็นจังหวะที่สื่อเปลี่ยนรูปแบบ เราอยู่ในธุรกิจสื่อ แน่นอนว่าคนเป็นทรัพยากรสำคัญของธุรกิจนี้ แต่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับคนๆ เดียว ยังมีคนทั้งองค์กร นักเขียน กองบรรณาธิการ ฝ่ายกราฟิก และฝ่ายอื่นๆ โดยมีทั้งคนเติบโตขึ้นมา แล้วไปอยู่ที่อื่น และเติบโตมา ยังอยู่กับเราก็มี ซึ่งคนที่นี่มีความสามารถในการถ่ายทอดสิ่งที่ตัวเองคิดไปถึงกลุ่มผู้อ่าน และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นอยากทำตาม
เพราะฉะนั้นผมคิดว่าต่างคนต่างความคิด วงศ์ทนงเก่งในการทำให้แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ เรื่องฝีมือ เรานับถือเขาอยู่แล้ว และเป็นคนสร้างคนเก่ง เป็นแรงบันดาลใจให้กับคน นี่เป็นข้อดี ถ้าอยู่ด้วยกัน ทำให้เติบโตด้วยกันไปได้ ก็เป็นสิ่งดี แต่เมื่อไม่อยู่ด้วยกัน เป็นจังหวะเวลาที่เขาออกไปแตกหน่อใหม่ แล้วไปเติบโตได้ ผมก็ดีใจ เพราะตัวผมถูกว่าเป็นนักลงทุนอยู่แล้ว นักลงทุนย่อมต้องหาผลตอบแทนจากเงินลงทุน
คนทำสื่อ กับคนที่ทำให้สื่ออยู่ได้ ไม่ใช่คนเดียวกัน คนที่ทำสื่อให้ดัง เป็นคนหนึ่ง ขณะที่คนทำสื่อให้อยู่รอด เลี้ยงตัวเองได้แข็งแรง ก็คนอีกกลุ่มหนึ่ง ถึงแม้ทุกวันนี้เป็นโลกออนไลน์ เขียนคอนเทนต์ขึ้นออนไลน์ พอดังขึ้นมา กลายเป็น Influencer เก็บเงินได้ ถ้าคิดแค่นั้น สบายมาก คนดังทุกคนทำได้ แต่ถ้าจะเป็นองค์กรสื่อ ต้องมีเรื่องเงินทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง”
a day ไปต่อได้ !!
“10 กว่าปีที่ผ่านมา a day เปลี่ยน บ.ก. ไป 2 – 3 คนแล้ว ไม่ใช่มีวงศ์ทนงคนเดียว แต่วงศ์ทนงช่วยดู และพัฒนาการของคาแรกเตอร์ของสื่อ a day ในอดีต กับวันนี้ ไม่เหมือนเดิม ในอดีตเป็นเรื่องทำให้ตัวเองแตกต่างจากคนอื่นในตลาดตอนนั้น แต่วันนี้เป็นเรื่องแรงบันดาลใจ
เพราะฉะนั้น ทุกอย่างในโลกต้องเปลี่ยนแปลง ณ วันที่เปลี่ยนแปลง เราไม่รู้ว่าเปลี่ยนดีขึ้น หรือแย่ลง คนที่ยังอยู่ต้องปรับตัว เขาไปก็ต้องปรับตัว คุณเคยอยู่องค์กรที่มีคน มีแผนก พอออกไปตั้งธุรกิจเอง ต้องซื้อโต๊ะ เก้าอี้เองด้วย ทำทุกอย่างเอง ก็ยากไปอีกแบบ บทบาทเปลี่ยน เพราะฉะนั้นเป็น Chapter ใหม่ของเขา และ Chapter ใหม่ของเราด้วย
ปัจจุบันเครือ a day ปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 200 คน ส่วนใครจะตามใครไป ผมไม่ได้ติดใจ ผมมีหน้าที่ต้องดูแลคนที่อยู่ที่นี่ต่อ เด็กของเราสร้างขึ้น เก่งๆ เยอะแยะ และประสบความสำเร็จ คนเหล่านี้รู้สึกรักและภูมิใจในความเป็น a day เพราะฉะนั้นถ้ามีคนอยากอยู่ต่อ ผมทำต่อแน่นอน และผมเชื่อมั่นว่า a day ไปต่อได้แน่นอน เพราะทีมงานแข็งแรง”
มหากาพย์ดีล Polar ยังไม่สิ้นสุด
สำหรับการดีลขายหุ้น ทาง Polar ได้ตกลงจะซื้อแล้ว แต่ขณะนี้กระบวนการซื้อขายยังไม่เสร็จ เราต้องคุยกับเขาต่อ เพราะพอมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ต้องศึกษาดูอีกทีว่าการเดินต่อจะเดินอย่างไร ตัวผมอาจมาคิดใหม่ว่าทำ “เดย์ โพเอทส์” เล็กๆ แบบเดิมไปเรื่อยๆ แค่นั้นเราก็ไม่ต้องการทุนใหม่
แต่ในอีกมุมหนึ่ง วันนี้ทุกคนไปออนไลน์ มีผู้อ่าน มีผู้ติดตาม เราจะทำอย่างไรให้ออนไลน์ของเรา Generate เงินได้ ตรงนั้นไม่ใช่แค่เรื่องคอนเทนต์ แต่มีเรื่องเทคโนโลยี เรื่องเงินลงทุนเข้ามา เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ ซึ่งทำให้เราต้องเตรียม Resource เงินทุน แต่ถ้าเราบอกว่าทำเล็กๆ ต่อไป เงินผมมีพอ ไม่ต้องขายใครก็ได้ ดังนั้นตรงนี้ต้องคุยร่วมกันอีก เพื่อหาข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่าย Happy โดยกรอบเวลาที่จะสรุปว่าจะซื้อขายหรือไม่นั้น ภายในเดือนมีนาคมนี้ ระหว่างนี้ขอเวลาให้เราเห็นภาพชัดเจนก่อน ทั้งเรื่องคน และธุรกิจ”