ลัคซ์เอเชีย (สยาม) ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจนำเข้าน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ความงามระดับโลกรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดน้ำหอมนำเข้ากว่า 50% เผยมั่นใจ ตลาดสินค้าความงามแบรนด์พรีเมี่ยมในไทย อนาคตสดใส เติบโตต่อเนื่อง แซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียน
จับตาผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจเรื่องบุคลิกภาพและความงาม เลือกใช้สินค้าดีมีคุณภาพ เปิดแผนธุรกิจปี 2560 จับมือพันธมิตร คู่ค้า พาเหรดสินค้าแบรนด์ดังยอดฮิต ครบทุกไลน์ กว่า 40 แบรนด์ เขย่าตลาดความงามยุคดิจิทัล เตรียมเปิดช่องทางออนไลน์ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เจาะฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ พร้อมลุยแผนการตลาดเข้มข้นทุกช่องทางการจัดจำหน่าย ตั้งเป้าสู่การเป็น “Asia’s Beauty Omni Leader” เจ้าตลาดสินค้าเพื่อความงามในเอเชียที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ในทุกช่องทางอย่างเต็มรูปแบบ
นางสาวพิทยา เจียรกิตติมศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลัคซ์เอเชีย (สยาม) จำกัด เปิดเผยว่า “ปี 2559 ประเทศไทยมีการพัฒนาและปรับตัวในหลายๆ ด้าน เพื่อให้ก้าวทันกับการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีและสภาวะเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็น การมุ่งส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล จนถึงนโยบาย Thailand 4.0 ทำให้ทุกอุตสาหกรรมและทุกธุรกิจตื่นตัวอย่างมาก ประกอบกับพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตในโลกออนไลน์ และโซเชียลมีเดียของคนไทย ที่มีอัตราเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เป็นโอกาสใหม่ๆ ของธุรกิจและแบรนด์ในการเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มทุกระดับ อุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยก็เช่นกัน ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แซงหน้าทุกประเทศอาเซียน
โดยเฉพาะตลาดสินค้าความงามแบรนด์พรีเมี่ยม ซึ่งเป็น Segment หนึ่งของอุตสาหกรรมความงามที่ลัคซ์เอเชีย (สยาม) เป็นผู้นำตลาดอยู่ในขณะนี้ พบว่า ปี 2559 ที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ ไตรมาส 3 ปี 2559) มูลค่าตลาดรวมสินค้าความงามแบรนด์พรีเมี่ยมในประเทศไทย อยู่ที่ประมาณ 10,174 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ราว 6.7% โดยเป็นช่องทางขายผ่านห้างสรรพสินค้า ราว 9,616 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ราว 5.9% ทั้งนี้ หากดูสัดส่วนในด้านผลิตภัณฑ์ พบว่า เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 55.37% หรือราว 5,634 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ราว 2.6%, กลุ่มเครื่องสำอาง 33.92% หรือราว 3,451 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ราว 12.6% และกลุ่มน้ำหอม 8.25% หรือราว 839 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ราว 6.7% โดยภาพรวมถือเป็นการเติบโตที่น่าพอใจอย่างยิ่ง แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน แต่คนยุคใหม่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องบุคลิกภาพและความสวยความงาม”
“โดยผลการดำเนินธุรกิจของลัคซ์เอเชีย (สยาม) ในปี 2559 ที่ผ่านมา เติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาด คือ เติบโตในส่วนของสินค้ากลุ่มบำรุงผิว และเครื่องสำอาง อาจมีสะดุดไปบ้างช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่พอรัฐบาลได้ออกนโยบายส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศ ช่วง 15 วันสุดท้ายของเดือนธันวาคม ทำให้บรรยากาศในการจับจ่ายดีขึ้นมาก รวมไปถึงปีที่ผ่านมา ทางแบรนด์ที่บริษัทดูแลอยู่ มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ ในส่วนของน้ำหอมก็มีการออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นการขยายไลน์สินค้า หรือนำกลับมาเปิดตัวใหม่อีกครั้ง เช่น CK GOLD, Mr. Burberry, Jean-Paul Gaultier หรือ Coach เป็นต้น ส่งผลให้ปี 2559 ในแง่กำไรสุทธิมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากปีก่อนอย่างมาก ประกอบกับการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในบริษัทให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น มีการกำหนดนโยบายในการทำการค้า การตลาดกับคู่ค้า และส่งเสริมการขายกับผู้ประกอบการร้านค้าเพิ่มขึ้น”
นางสาวพิทยากล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมความงามในปี 2560 นี้ คาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2560 ตลาดสินค้าความงามทั่วโลกจะมีมูลค่ารวมกว่า 9.3 ล้านล้านบาท ในส่วนของอาเซียนมีมูลค่าตลาดอุตสาหกรรมความงาม กว่า 500,000 ล้านบาทในปัจจุบัน และคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นร้อยละ 3 – 6 ในแต่ละปี โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อตลาด มาจากทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญในการดูแลตัวเองมากขึ้น รวมถึงปัจจัยบวกจากโลกโซเชียล ที่ผู้บริโภคมีการรีวิวและบอกต่อกันเอง ถึงคุณสมบัติที่ดีของผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากแบรนด์เนมระดับโลกที่น่าเชื่อถือ และการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ ทำให้รับรู้เทรนด์ใหม่ๆ ทั่วโลกได้ง่ายขึ้น ตลอดจนช่องทางการจำหน่ายที่สะดวกและเข้าถึงง่ายขึ้นด้วย”
“เพื่อรองรับโอกาสดังกล่าว ในปี 2560 ลัคซ์เอเชีย (สยาม) จึงได้เดินหน้าแผนการตลาด เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับคู่ค้า ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการห้างร้านและผู้ประกอบการรายย่อยที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ร่วมกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย
การประชาสัมพันธ์ถึงผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ และกิจกรรมกับผู้บริโภคที่มี Loyalty กับแบรนด์มากขึ้นในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย รวมไปถึง บริษัทกำลังพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายผ่าน Online Store ซึ่งจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ และเน้นทำตลาดบนโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดียมากขึ้นตาม พฤติกรรมในการบริโภคสื่อของคนยุคดิจิทัล โดยตั้งเป้าสู่การเป็น “Asia’s Beauty Omni Leader” ผู้นำตลาดสินค้าความงามแบรนด์พรีเมี่ยมอย่างเต็มรูปแบบ มุ่งมั่นสร้างความแตกต่างให้ผู้บริโภค ผ่านประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “Look good, smell good, and feel good.” เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกช่องทาง” นางสาวพิทยา กล่าวทิ้งท้าย
บริษัท ลัคซ์เอเชีย (สยาม) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำหอมและเครื่องสำอางชั้นนำหลากหลายแบรนด์ในประเทศไทย เป็นบริษัทในกลุ่มลัคซ์เอเชีย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 20 ปี ก้าวขึ้นเป็นบริษัทแถวหน้า ผู้แทนในการนำเข้าแบรนด์น้ำหอม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และผลิตภัณฑ์เส้นผมแบรนด์ดังกว่า 40 แบรนด์ อาทิ Calvin Klein, Davidoff, Marc Jacob, Chloe, Miu Miu, DKNY, Tommy Hifiger, Benefit, Make up for ever, Anna Sui, Burberry, Fragrance, Elizabeth Arden, Bvlgari, Gucci, Hugo Boss, Lanvin, Coach, Prada, Valentino, Philosophy, Wella, Sebastian ฯลฯ ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ทั้งรูปแบบการเป็นหุ้นส่วน และรูปแบบการร่วมทุน โดยบริษัทร่วมทุน ได้แก่ Coty Prestige Southeast Asia และ L Beauty โดยล่าสุด ได้มีการแต่งตั้ง นางสาวพิทยา เจียรกิตติมศักดิ์ ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เพื่อเข้ามานำทัพและขับเคลื่อนธุรกิจ รวมถึงพัฒนาบุคลากรและองค์กรให้รุดหน้า ก้าวสู่การเป็นองค์กรชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์แบรนด์น้ำหอมและความงามอันดับ 1 ในอาเซียน