สมัยนี้โลกเราเต็มไปด้วยโรคภัยต่างๆ นานา นี่ยังไม่นับถึงอุบัติเหตุมากมายที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทั้งจากความประมาทของตัวเองและของผู้อื่น แต่เราหลายคนก็ไม่สนใจเท่าไหร่ เพราะคิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกับเราหรอก และถึงเกิดก็แค่เข้าโรงพยาบาลไปรักษา เงินเก็บก็มี ประกันสังคมก็ยังอยู่ หรือจะขอเบิกที่ทำงานก็ยังได้ ที่ผ่านมาก็แค่ป่วยนิดป่วยหน่อย แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะยังมีค่าใช้จ่ายบางส่วนที่นอกเหนือจากค่าหมอและค่ายาที่ทำให้ค่ารักษาบานปลายกว่าที่คิดไว้ก็เป็นได้
เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เราไม่คาดคิดจากการเข้าโรงพยาบาล จะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนวันที่ไม่คาดฝันจะมาถึง!
1.ค่าตรวจเพิ่มเติม
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้น ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยและหาแนวทางการรักษาที่แม่นยำและถูกต้องมากขึ้น บางทีแค่ปวดท้องไปหาหมอ เราก็คิดว่าปวดท้องธรรมดา ได้ยามาทานก็คงจะหาย ที่ไหนได้ จริงๆ เราป่วยมากกว่านั้น ก็เลยต้องตรวจสแกนหาสาเหตุที่แท้จริงเพิ่มเติม จะได้รักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งรูปแบบการตรวจก็มีหลากหลายแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของแต่ละอาการ ทั้ง CT Scan, MRI Scan แล้วในบางเคสยังมีการเก็บของเหลวหรือเนื้อเยื่อไปตรวจในห้องแล็บ แล้วแบบนี้ที่เตรียมใจไว้จ่ายแต่ค่าหมอค่ายา จะพอได้ยังไง
2.ค่ายาเพิ่มเติม
แน่นอนว่าเข้าโรงพยาบาลก็ต้องมียาติดมือกลับบ้าน แต่ต้องอย่าลืมว่ายาบางตัวต้องทานต่อเนื่อง แถมยังเป็นยาเฉพาะที่หมอต้องสั่งตามอาการเท่านั้น หรือพูดง่ายๆก็คือยาที่เราจำเป็นต้องรับที่โรงพยาบาลอย่างเดียว ไม่สามารถซื้อเองข้างนอกได้ นอกจากค่าใช้จ่ายค่ายาแล้วยังมีค่าเดินทางบวกเข้าไปเพิ่มอีกต่างหาก จากที่คิดว่าค่ายานิดๆหน่อยๆ แต่เมื่อรวมกันมากเข้าก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
3.ค่าผ่าตัดและเย็บแผล
เรามักจะคิดว่าเรื่องผ่าตัดและเย็บแผลเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย อย่างการเย็บแผลนี่บางครั้งเราแค่สะดุดล้ม ไปโรงพยาบาลคิดว่าทำแผลทายาเดี๋ยวก็หาย แต่จริงๆ แล้วแผลเปิดกว่าที่คิดต้องทำการเย็บแผลไปหลายเข็ม ส่วนการผ่าตัดก็มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ บางครั้งตรวจร่างกายประจำปีอยู่ดีๆ ก็จ๊ะเอ๋ ตรวจพบอาการที่ผิดปกติเข้าจนต้องจองห้องผ่าตัดเพื่อรักษาเพิ่มเติมก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ เจอแบบนี้ก็ได้แต่ช็อก เตรียมเงินค่าผ่าตัดกันไม่ทันเลยทีเดียว
4.ค่าห้อง
นอนโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องเล่น หลายคนยังอุ่นใจเพราะคิดว่ายังไงก็เบิกออฟฟิศได้ แต่ว่าถ้านอนนานๆ ก็ใช่ว่าจะเบิกออฟฟิศได้หมด หรือบางคนเลือกที่จะอัพเกรดจากห้องเตียงรวมเป็นห้องเตียงเดี่ยว เพื่อความสบายกายสบายใจ แต่ทั้งหมดก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ที่สำคัญเราไม่สามารถกำหนดเองได้ว่าจะต้องนอนที่โรงพยาบาลนานแค่ไหน ใช่ว่าคิดอยากจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ก็ได้ ก็ทำให้เงินที่เราเตรียมไว้อาจไม่พอก็ได้
5.ค่ากายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัดเรียกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายอีกอย่างที่เรามักคิดไม่ถึง เมื่อเรารักษาหายจากการบาดเจ็บแล้วร่างกายอาจจะฟื้นสภาพได้ไม่เต็มที่ หลายๆคนอาจจะคิดว่าทำกายภาพบำบัดเองที่บ้านก็ได้ แต่จริงๆแล้วการทำกายภาพบำบัดควรจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้และฝึกสอนโดยเฉพาะ หากเราทำกายภาพเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะเจ็บเพิ่มขึ้นมาก็คงไม่คุ้ม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกค่าใช้จ่ายที่มีความจำเป็นอยู่ทีเดียว
ใครจะไปคิดว่าเข้าโรงพยาบาลทีจะมีค่าใช้จ่ายตามมาเยอะขนาดนี้ ที่สำคัญยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ทั้งค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ค่าเสียเวลาที่ต้องหยุดงาน ฯลฯ อีกมากมาย แทนที่จะมานั่งเครียดตอนนั้น ก็เตรียมตัวกันให้พร้อมตั้งแต่ตอนนี้น่าจะดีกว่า การเก็บเงินสำหรับค่ารักษาก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง แต่ใครจะตอบได้ว่าต้องมีเงินเก็บมากแค่ไหนถึงจะไม่กังวลเวลาเจ็บป่วย
การทำประกันชีวิตคุ้มครองสุขภาพจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากสามารถช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแล้ว ยังมีแผนประกันที่คุ้มครองการสูญเสียรายได้ที่เกิดจากการเจ็บป่วยนอนในโรงพยาบาลเพื่อให้เราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีรูปแบบการประกันหลากหลายให้เราสามารถเลือกได้ตามต้องการ รวมถึงเลือกจ่ายเบี้ยประกันได้ตามกำลังของเงินในกระเป๋าเราอีกด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการหาหมอสักครั้งนึง ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป
ที่สำคัญเดี๋ยวนี้การทำประกันชีวิตคุ้มครองสุขภาพเองก็ไม่ใช่เรื่องที่วุ่นวายเข้าใจยาก เพราะมีผู้เชี่ยวชาญมากมายรอคอยให้คำปรึกษาและสะดวกสบายตรงที่สามารถไปพูดคุยที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือธนาคารใกล้บ้าน
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ประเทศไทย, Facebook Prudential Thailand
หากท่านสนใจแผนประกันอื่นๆ สามารถติดต่อได้ที่ตัวแทนฯ และธนาคารพันธมิตรของเรา:
ธนาคารยูโอบี ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และ ธนาคารธนชาต หรือโทร. 1621
[Advertorial]