ปัจจุบันนี้คนไทยมีปริมาณการใช้สมาร์ทโฟนมากถึง 22 ล้านเครื่อง และมีจำนวน Active Internet User ของผู้ใช้อยู่ที่ 24 ล้านคน ยิ่งในกลุ่มคนวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งพบว่ามีการใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับคนช่วงอายุอื่นๆ คือใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ย 7.6 ชั่วโมงต่อวัน อีกทั้ง ยังมีการวิจัยพบว่า เพียงแค่ใช้สายตาหน้าจอต่อเนื่องมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน อาจจะทำให้เกิดอาการตาแห้ง ตาล้า ตาเบลอ ได้ถึง 65.5% ซึ่งอาการทางดวงตาเหล่านี้ หลายคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องทั่วไป มองข้าม แต่จริงๆแล้วนี่เป็นสัญญาณเตือนจากดวงตาให้เริ่มดูแลดวงตามากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม การใส่ใจดูแลดวงตาเป็นพิเศษของคนไทยยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ จนเห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคทางสายตามีเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง “แบรนด์ วีต้า เบอร์รี่” จึงเล็งเห็นความสำคัญของการทำแคมเปญรณรงค์ให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของดวงตามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม “ผู้ชาย”
“ผู้ชาย” ช่องว่างทางการตลาดที่ยังมีอีกเพียบ
จากการรีเสิร์ชของทีมการตลาดพบว่า ที่โฟกัสไปยังผู้บริโภคในเมืองทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี พบว่าปัจจุบันมีผู้ที่ดื่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้สกัดเข้มข้น ที่ช่วยในการบำรุงดวงตา อยู่แค่เพียง 20% เท่านั้น โดยแบ่งเป็นสัดส่วนของกลุ่มผู้หญิงหญิง 68% และกลุ่มผู้ชาย 32% ด้วยตัวสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการติดจอใช้ดวงตาหนักของคนในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย ที่มีพฤติกรรมการติดจอไม่แพ้กลุ่มผู้หญิง หากแต่ยังใส่ใจในการดูแลดวงตาน้อยกว่ากลุ่มผู้หญิง “แบรนด์ วีต้า เบอร์รี่”จึงเห็นเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มใหม่และกลุ่มผู้ชายให้มากขึ้น
และเพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว เข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลดวงตา ทาง “แบรนด์ วีต้า เบอร์รี่” จึงสร้างสรรค์แคมเปญ “จ้องจนเบลอ ดูผิดนิด ชีวิตเปลี่ยน” โดยสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณา เล่าเรื่องของชีวิตคนทำงาน และทำกิจกรรม เช่น ขับรถ แต่ถ้าหากว่าตาล้า เบลอ ก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางลบได้เลย, สื่อนอกบ้านทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า BTS และ MRT ไปจนถึงสื่อดิจิทัล ซึ่งมีคอนเทนท์มากมาย เพื่ออธิบายถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นถ้าหากว่าใช้งานดวงตาหนักจนตาล้าตาเบลอ แต่ปล่อยไว้ไม่ดูแล โดยทั้งหมดนำเสนอผ่าน Mood& Tone ที่แทรกอารมณ์ขัน ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ชายได้ง่ายขึ้น พร้อมกันนี้ก็เปลี่ยน Brands Ambassador คนใหม่ ที่ทำงานหลากหลาย มีกิจกรรมที่ใช้ดวงตาหนักเป็นประจำ เพื่อสะท้อนให้ผู้บริโภคเห็นถึงการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ที่จำเป็นต้องดูแลดวงตามากยิ่งขึ้น โดยชูจุดขายหลักของสินค้าเพื่อการดูแลดวงตาโดยเฉพาะ ด้วยเบอร์รี่สกัดเข้มข้น มีวิตามินเอ 100% ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ทำไมต้อง “ฌอห์ณ”
ในปีนี้ “แบรนด์ วีต้า เบอร์รี่” เลือกให้ ฌอห์ณ จินดาโชติ พระเอกหนุ่มขวัญใจยุคดิจิตอล มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ชวนดูแลสุขภาพดวงตาทุกเช้า เหตุผลที่ ฌอห์ณ น่าจะเป็นคนที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย ก็เพราะ เขาเองก็เป็นคนที่ใช้งานดวงตาหนักตั้งแต่เช้าจนดึก นอกจากการเป็นดารานักแสดงแล้ว ฌอห์ณยังเป็นนักเขียนและคอลัมนิสต์ ที่ต้องค้นหาข้อมูลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเขียนคอลัมน์อยู่ตลอดเวลา แถมยังเป็นคนที่ชอบเสิร์ช ชอบท่องเที่ยวถ่ายภาพ ชอบอัพเดทภาพสวยๆ แง่คิดมุมมองดีๆ เป็นประจำตามสื่อโซเชียลต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นไลฟ์สไตล์ที่ใช้ดวงตาหนักทั้งสิ้น บุคลิกที่ทั้งหล่อและขี้เล่น ก็ทำให้ผู้บริโภคทั้งผู้หญิงและผู้ชายรู้สึกถึงความใกล้ตัว
ที่สำคัญตามสเปกของผลิตภัณฑ์ในเครือเซเรบอสก็คือ พรีเซนเตอร์คนนั้นๆ ต้องบริโภคสินค้าอยู่แล้ว ซึ่งฌอห์ณเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ดื่มแบรนด์วีต้าเบอร์รี่เป็นประจำทุกเช้าอยู่แล้ว และสามารถดูแลสุขภาพกายสุขภาพของดวงตาได้เป็นอย่างดี
ติดตามคอนเทนท์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญนี้ ได้ที่แฟนเพจ ไม่ใช่แค่วิดีโอเท่านั้น ยังมีคอนเทนท์ที่น่าสนใจภายใต้แคมเปญ #ดูผิดชีวิตเปลี่ยน อีกมากที่จะทำให้คุณประหลาดใจกับเรื่องของดวงตา เรื่องใกล้ตัวที่คุณละเลย ได้ที่เพจ https://www.facebook.com/BrandsVeta/