เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐลงนามในคำสั่งปิดกั้นการเข้าประเทศของกลุ่มประเทศมุสลิม 7 ประเทศ ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลอย่างต่ำ 90 วัน ที่สั่งห้ามประชากรจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐโดยเด็ดขาด แม้จะเป็นคนที่มีวีซ่าอยู่แล้วก็ตามถือเป็นการเริ่มดำเนินตามนโยบายที่เคยหาเสียงเอาไว้ในก้าวแรก หลังเรื่องนี้ออกสู่สาธารณะผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มมีความเคลื่อนไหว หนึ่งในนั้นคือ Apple ที่ได้รับผลกระทบจากการแบนชาวมุสลิมครั้งนี้ เพราะบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ล้วนมีพนักงานที่มาจากหลายเชื้อชาติเป็นส่วนขับเคลื่อนธุรกิจ
เท่าที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้เคยมีการพูดคุยกับ Trump แล้วอย่างน้อยสองครั้ง คือ โทรศัพท์สั้นๆ แสดงความยินดีตามมารยาทหลังผลการเลือกตั้งออก และครั้งที่สองคือการประชุมโต๊ะกลมกับเหล่าบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์เพื่อหารือแนวทางการดำเนินธุรกิจในยุคสมัยของ Trump หลังมีการลงนามในคำสั่งข้างต้น Tim Cook เคลื่อนไหวโดยการส่งอีเมลไปยังพนักงาน Apple ทั่วโลกเพื่อแสดงจุดยืนความไม่เห็นด้วยในนโยบายดังกล่าว
โดย Cook กล่าวว่าหากไม่มีผู้อพยพ ก็ไม่มี Apple ในวันนี้ เพราะ Apple เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดย Steve Jobs ลูกชายที่ให้กำเนิดโดยผู้อพยพชาวซีเรีย โดยเนื้อหาทั้งหมดของอีเมลดังกล่าว ตามด้านล่าง
ทีม,
ผมได้มีการหารือร่วมกับทีมบริหารที่วอชิงตันนี้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และผมได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากๆ ว่าชาว Apple มองเห็นความสำคัญของเหล่าผู้อพยพ ทั้งความสำคัญต่อบริษัทของเรา และต่อประเทศของเราในอนาคต หากไม่มีผู้อพยพ ก็ไม่มี Apple ในวันนี้ ไม่มีความก้าวหน้าและเทคโนโลยีมากมายที่เราสร้าง
ผมรู้ว่าพวกเราหลายคนกังวลใจกับคำสั่งล่าสุดที่ออกมาเกี่ยวกับการเข้มงวดการเข้าสหรัฐของ 7 ประเทศมุสลิม ผมกังวลเรื่องนี้เช่นกัน และอยากบอกพวกคุณว่า นี่ไม่ใช่นโยบายที่เราสนับสนุน
มีพนักงานของ Apple จำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งนี้ ฝ่ายบุคล ฝ่ายกฎหมาย และทีมความปลอดภัยของเรากำลังติดต่อพวกเขา และเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือ ตอนนี้เรามีช่องทางบน AppleWeb เพื่อตั้งคำถามหรือพูดคุยได้สำหรับคนที่กังวลใจเกี่ยวกับคำสั่งผู้อพยพนี้ และในส่วนของทีมบริหาร เรากำลังพยายามติดต่อทำเนียบขาวเพื่อชี้แจงผลกระทบที่บริษัทและพนักงานของเราได้รับจากนโยบายดังกล่าว
อย่างที่ผมเคยพูดไว้หลายครั้งว่าความแตกต่างทำให้ทีมเราแข็งแกร่ง และหากจะมีสิ่งหนึ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับคน Apple ล่ะก็ มันคือความเมตตาและสนับสนุนกันและกันที่พวกเรามี ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นสำคัญกว่าทุกครั้งที่เคย และมันจะไม่อ่อนแอลงแม้แต่น้อย ผมรู้ว่าผมสามารถไว้ใจพวกคุณได้ที่จะร่วมกันทำให้แน่ใจว่าทุกคนที่ Apple จะรู้สึกได้รับการต้อนรับ เป็นที่เคารพ และเป็นคนมีค่า
Apple เปิดรับเสมอ… เปิดรับทุกคนไม่ว่าเขาจะมาจากไหน ไม่ว่าเขาจะพูดภาษาอะไร ไม่ว่าเขาจะรักใคร หรือนับถืออะไร พนักงานของเราเป็นตัวแทนของความสามารถที่ล้ำค่าที่โลกนี้มี และทีมของเราก่อร่างมาจากผู้คนจากทุกมุมโลก
ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เคยกล่าวไว้ว่า “เราอาจมาจากเรือบดคนละลำ แต่ตอนนี้เราอยู่บนเรือใหญ่ลำเดียวกันแล้ว”
ทิม
นอกจาก Apple แล้วสารพัดบริษัทชั้นนำของสหรัฐอเมริกาก็ออกมาดาหน้าคัดค้านคำสั่งนี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ ไม่ว่าจะเป็น Google, Netflix และ AirBnB นัดรวมตัวกันเพื่อถกปัญหานี้ ขณะที่ Starbuks ก็ประชดด้วยการประกาศรับผู้อพยพเข้าทำงานในสาขาต่างๆ ทั่วโลก
แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM
Credit Photo (ภาพเปิด) : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand