หากใครได้ผ่านมางาน Hip Hop International Thailand 2017 ที่ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ น่าจะได้เห็นพลังของหนุ่มๆ สาวๆ นักเต้นฮิปฮอปที่ล้นเหลือ ก็งานนี้จัดเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักเต้นของประเทศไทยไปชิงแชมป์ในเวทีโลกที่สหรัฐอเมริกาเลยเชียวนะ แต่เอ๊ะ..! แล้วการเต้นฮิปฮอปนี้เขามีสเต็ปการเต้นสู่เวทีระดับโลกกันยังไง หรือจะต้องแต่งตัวแนวไหนถึงจะเรียกฮิปฮอป เรามีกูรูนักเต้นมาบอกเล่าให้ทราบกัน ใครที่กำลังคิดจะเริ่มหรือเริ่มไปแล้ว แต่ต้องการเพิ่มขีดระดับความสามารถไปแข่งระดับโลกกับเขาบ้าง ก็ตามอ่านกันได้เลย
สเต็ป 1 ฮิปฮอปแค่ไหน…แค่ไหนเรียกฮิปฮอป
ภาพลักษณ์และการแต่งตัวของชาวฮิปฮอป แท้จริงแล้วไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อตัวโคร่งเสมอไป สาวๆ หนุ่มๆ นักเต้นในงาน Hip Hop International Thailand 2017 ช่วยจำแนกสไตล์ออกมาได้หลายสไตล์เลยเชียว เช่น Old School Style แนวเสื้อผ้าโอเวอร์ไซส์ Urban Style แบบทะมัดทะแมง และ Japanese Style แบบโอเวอร์ไซส์แฝงกลิ่นอายญี่ปุ่น ส่วนแอสเซสซอรี่ ก็ประโคมเข้าไปได้หลายสิ่ง อาจจะใส่หมวกแก๊ป เครื่องประดับนิดหน่อย บวกอินเนอร์ไปนิด เท่านี้ก็เข้าแก๊งฮิปฮอปได้แล้ว
สเต็ป 2 แยกแยะก่อนนะว่าฮิปฮอปกับบีบอยนั้นต่างกัน
ไม่ว่าจะอิปฮอปหรือบีบอย ทั้ง 2 สไตล์ก็คือการเต้น แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องระนาบของการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งเหล่าบีบอยก็คือนักเต้นเบรกแดนซ์ ที่ระนาบการเต้นจะอยู่ด้านล่างซะเป็นส่วนใหญ่ มีความผาดโผน ใช้เทคนิค และความแข็งแรงของร่างกายในการเต้นเยอะ ในขณะที่การเต้นฮิปฮอปเป็นการเต้นอยู่ระนาบบน อาจจะมีลงไปขยับท่าด้านล่างแบบเบรกแดนซ์บ้าง เพราะในการเต้นฮิปฮอปมักนำการเต้นหลายๆ แบบมาผสมรวมกัน สามารถเลือกเต้นได้ตามความถนัดของตัวเองเลย
สเต็ป 3 อยากเต้นต้องเริ่มต้น
“หากใครอยากเริ่มต้นเต้นฮิปฮอป ไม่ยากเลย เพียงนำร่างกาย รองเท้าคู่ใจ และพกใจมาก็พอ” ทราย – กิตติยา แก้วมณี เจ้าของสตูดิโอและหัวหน้าทีม D-Maniac ผู้นำทีมติดท็อป 5 ในการแข่งขัน World Hip Hop Championship 2016 ที่ลาสเวกัส แนะนำไว้ แต่เน้นว่าต้องมีใจรักและมีเวลาเรียนรู้ให้เต็มที่ เพราะนักเต้นส่วนใหญ่ ไม่มีใครเก่งหรือเต้นเป็นมาก่อน ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์เหมือนกัน เพียงแค่มีใจที่เต็มร้อยพร้อมลุยก็พอแล้ว
สเต็ป 4 เต้นให้ดีต้องมีครู
ทุกคนสามารถเรียนรู้และฝึกซ้อมด้วยตัวเองได้ นักเต้นที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ หลายคนเริ่มต้นจากการฝึกฝนด้วยตัวเองผ่านทาง YouTube แต่ถ้าจะเอาดีด้านนี้แล้วต้องเทคคลาสต์เต้นให้หลากหลาย ในปัจจุบันมีการเปิดคลาสต์สอนตามสตูดิโอต่างๆ มีเวิร์คช็อปจากนักเต้นต่างชาติ ที่เปิดโอกาสให้เรียนรู้เพิ่มเติมเทคนิค ซึ่งทรายฝากมาว่า “การเต้นคือการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
สเต็ป 5 ยิ่งรวมกลุ่มยิ่งเต้นดี
ต้อม – นที มาลัยทอง ครูและหนึ่งในแม่ทัพแห่ง D-Maniac Studio เริ่มเต้นมาตั้งแต่อายุ 18 โดยจับกลุ่มเพื่อนๆ ฝึกเต้นกันเองจนเคยถูกมองว่าเป็นเด็กเกเร แต่วันเวลาแห่งการฝึกฝนทำให้ปัจจุบันเขากลายมาเป็นครูฝึกเด็กรุ่นใหม่ ต้อมมองว่าฮิปฮอปเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ ที่สมาชิกมีความชอบเหมือนกัน มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการเต้น ยิ่งรวมกันยิ่งพัฒนาฝีมือ
สเต็ป 6 ก้าวสู่เส้นทางสายนักเต้นมืออาชีพ
การเต้นเป็นศิลปะที่สามารถทำเป็นอาชีพได้ เช่นเดียวกับศิลปินและจิตรกร สามารถทำเงินได้เลี้ยงตัวเองได้ด้วย นักเต้นหลายคนสร้างรายได้ให้กับตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย โดยการเต้นตามงานอีเว้นท์ คอนเสิร์ต หรือเต้นประกอบเอ็มวีของศิลปินชื่อดัง ซึ่งทรายและต้อม ก็เริ่มสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านี้ จนต่อยอดพัฒนาบริหารสตูดิโอ และฟอร์มทีมฝึกฝนรุ่นน้องให้มีสกิลการเต้นจนก้าวไปแข่งขันระดับโลก
สเต็ป 7 อุปสรรคไม่ได้อยู่ที่เงิน แค่มีใจรักก็เต้นได้
เรียนฮิปฮอป ไม่ต้องรวยก็เรียนได้ ครูเจด้า – อภิสราฐ์ เพชรเรืองรอง เจ้าของฮาร์เร็มเช็ค สตูดิโอ และคนไทยคนเดียวที่เข้าไปเป็นกรรมการตัดสินในการแข่งขัน World Hip Hop Dance Championship คอนเฟิร์ม ในฐานะครู ครูเจ้ด้าพร้อมผลักดันเด็กๆ อยู่เสมอ หากใครพร้อมและมั่นใจในความสามารถ ลองเข้าไปที่ www.facebook.com/harlemshakes เพราะครูเจด้าจะมีโครงการให้ทุนการศึกษาอยู่เรื่อยๆ
หากอยากหาประสบการณ์และดูการเต้นฮิปฮอปจากนักเต้นฝีมือระดับประเทศแบบไม่เสียสตางค์ สุดสัปดาห์นี้ (วันที่ 1-2 เมษายน 2560) ลองแวะมาชมการแข่งขัน HIP HOP INTERNATIONAL 2017 ประเภท 1 ต่อ 1 ที่กำลังค้นหาตัวแทนประเทศไทยไปแข่งฮิปฮอประดับโลกที่ลานเอ็ม บี เค อเวนิว ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ อาจได้เทคนิคดีๆ นำไปใช้พัฒนาท่าเต้นของตัวเองก็ได้