บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาและบริหารโรงแรมและโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกๆ ของประเทศไทย ประกาศลงนามในสัญญา กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อต่อสัญญาเช่าที่ดินบริเวณหัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพต่อไปอีก 30 ปี และได้รับสิทธิในการเช่าที่ดินต่อเนื่องอีก 30 ปี โดยมีแผนพัฒนาและยกระดับโรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพ ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรงแรมที่เป็นที่นิยมระดับโลก พร้อมจับมือกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบผสมขนาดใหญ่ (Mixed-use) ซึ่งจะประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และมุ่งเน้นในเรื่องการมอบพื้นที่ สีเขียวให้กับโครงการ
คุณชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสีลมแห่งนี้ ถือเป็น ‘สัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในยุคสมัยใหม่แห่งแรก’ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 ตั้งตระหง่านเป็นอาคารที่สูงโดดเด่นใจกลางกรุงเทพฯ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโฉมกรุงเทพฯ ให้ก้าวสู่การเป็นมหานครที่มีความทันสมัยแห่งหนึ่งในยุคโลกาภิวัฒน์ และยืนหยัดเป็นโรงแรมชั้นนำจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 48 โดยในวันนี้ ดุสิตธานีมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนาโครงการบนที่ดิน ผืนนี้ให้เป็นโครงการระดับโลก เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของดุสิตธานี ซึ่งเป็นบริษัทไทยที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับบนเวทีระดับโลกมาอย่างยาวนานกว่า 65 ปี ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”
คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ดุสิตธานีได้รับสิทธิเช่าที่ดินเพิ่มขึ้นอีกรวมเป็นที่ดินขนาดเกือบ 24 ไร่ และได้มีแผนยกระดับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมมูลค่าประมาณ 36,700 ล้านบาท ที่เราร่วมมือกับ “เซ็นทรัลพัฒนา” โดยโครงการใหม่นี้จะมีจุดเด่นที่การดำรงรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดุสิตมาช้านาน ผสานเข้ากับมาตรฐานสากลและให้เป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ ปักหมุดเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เหมือนที่โรงแรมดุสิตธานีได้สร้างประวัติศาสตร์เอาไว้เมื่อ 47 ปีที่ผ่านมา”
“เรามุ่งให้โครงการใหม่นี้ เป็นโครงการที่สามารถเอื้อประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอย่างแท้จริง โดยเป็นทั้งจุดศูนย์กลางทางธุรกิจ จุดศูนย์กลางค้าปลีก และจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนหลักของกรุงเทพฯ ทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT ตลอดจนเป็นย่านที่ตั้งของโครงการที่พักอาศัยระดับบนมากมาย อีกทั้งยังตั้งอยู่ติดกับสวนลุมพินี พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ และเป็นสวนสาธารณะที่เป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย”
“นี่คือโอกาสสำคัญที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ด้วยภาพลักษณ์และศักยภาพอันแข็งแกร่งของการเป็นพันธมิตรของดุสิตธานีกับซีพีเอ็น เราตั้งใจจะสร้างสัญลักษณ์ที่เชิดชูความเป็นไทยบนมาตรฐานสากลตรงพื้นที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯได้อย่างแท้จริง โดยเราหวังว่า โครงการนี้ จะเป็นตัวอย่างของการให้นำเสนอศักยภาพของคนไทย ความแข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกของไทย เพื่อส่งเสริมให้กรุงเทพเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวพักผ่อนระดับบน แหล่งช้อปปิ้งที่มีคุณภาพ และสร้างชื่อเสียงอันดีงามของประเทศไทยออกไปสู่สายตาชาวโลก” นางศุภจี สรุป
ทั้งนี้ ดุสิตธานีอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาแผนพัฒนาโครงการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดที่สำคัญของโครงการ และพร้อมประกาศให้ทราบภายในช่วงกลางปีนี้