ในปัจจุบันศูนย์บริการยางรถยนต์ในไทยมีจำนวนหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติ เปิดสาขาให้บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ และลูกค้าก็มักจะเลือกใช้บริการกับร้านในชุมชน หรือร้านที่พวกเขาคุ้นเคย เชื่อถือและไว้ใจได้ทั้งในมาตรฐานและการบริการมากกว่า
อย่างไรก็ดี แม้ว่าร้านชุมชนจะได้ใจลูกค้าคนคุ้นเคยไปไม่น้อย แต่นับวันก็ยิ่งมีศูนย์บริการยางแบรนด์ชั้นนำ โดยเฉพาะแบรนด์รายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาท้าทายทำตลาดชิงฐานลูกค้ากันมากขึ้น ส่งผลให้ร้านยางรายย่อยจะเริ่มน่ากังวลมากขึ้น หากยังไม่ปรับเปลี่ยน หรือพัฒนาการให้บริการ ภาพลักษณ์หน้าร้าน การดำเนินงานอย่างเป็นระบบที่จะช่วยเพิ่มขีดแข่งขันกับศูนย์บริการยางรถยนต์ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำแนวหน้า
คุณอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด และผู้ริเริ่มดำเนินธุรกิจศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร “GRIP” หรือ “กริพ” กล่าวว่า ในปัจจุบันร้านยางรถยนต์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ริมถนนหรือในปั๊มน้ำมันต่างๆ ในไทย เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้น (Margin) น้อย ต้องอาศัยจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก หรือเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องธุรกิจจึงจะสามารถอยู่รอดได้ ผนวกกับในปัจจุบันร้านยางรถยนต์ขนาดเล็กเหล่านี้ต้องพบกับปัจจัยความท้าทายของคู่แข่งศูนย์บริการยางรถยนต์จากต่างประเทศที่เข้ามาแย่งชิงลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนผู้ประกอบการไทยหลายรายไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งแบรนด์ต่างชาติหรือรายใหญ่ๆ ได้
ดังนั้น จากการที่ “กริพ” มองเห็นถึงปัญหา หรือความเจ็บปวด (Pain point) ของร้านยางรถยนต์รายย่อยเหล่านี้ จึงต้องการนำเสนอบริการที่จะเข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงและยกระดับมาตรฐานการบริการของพาร์ทเนอร์ที่เป็นร้านยางรถยนต์รายย่อย รวมถึงตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ของบริษัทให้สามารถเทียบชั้นกับผู้ให้บริการระดับมืออาชีพหรือแบรนด์ชั้นนำ
เสริมแกร่งศูนย์บริการยางทันสมัย มาตรฐานปลอดภัยระดับสากล
ทั้งนี้ “กริพ”ใช้รูปแบบร่วมกันดำเนินธุรกิจและผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ศูนย์บริการยางรถยนต์รายย่อย โดยจะเข้าไปช่วยส่งเสริมธุรกิจและให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ กับพาร์ทเนอร์ ทั้งการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในธุรกิจร้านบริการเปลี่ยนยางรถยนต์ เพื่อให้มีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ การบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ของศูนย์บริการของพาร์ทเนอร์ให้ดูทันสมัย มีมาตรฐานความปลอดภัยเทียบชั้นระดับสากลและดึงดูดผู้เข้าใช้บริการมากขึ้น ตลอดจนช่วยดูแลโครงสร้างธุรกิจ (Business Model) และให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจของพาร์ทเนอร์ศูนย์บริการยางรถยนต์รายย่อย และ“กริพ”เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีจำนวนศูนย์บริการยางครบวงจร “กริพ” ประมาณ 40 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนขยายเป็น 200 แห่ง ภายใน 10 ปีต่อจากนี้
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วยบริการสินค้ายางรถยนต์นำเข้าคุณภาพสูงและมีมาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ TOYO TIRES, NITTO TIRE และ KUMHO TIRE พร้อมทั้งเครื่องมือตรวจสอบที่มีเทคโนลยีสูง และขั้นตอนการบริการที่ทันสมัยและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า อำนวยความสะดวกด้านการบริการยางรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ตามสโลแกนของ “กริพ”ที่ว่า “กริพ” ที่เดียว จบเรื่องยาง
“เรามีทั้งทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ รวมถึงสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานระดับสากล จึงช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มลูกค้าได้ว่า พวกเขาจะได้รับการบริการที่ดี และมีมาตรฐานเหมือนกันทุกสาขา”
ผุดบริการสั่งซื้อยางออนไลน์ เช็คสินค้า จองสาขาล่วงหน้า
นอกจากนี้ ยังมีช่องทางออนไลน์ให้บริการติดต่อแก่ผู้ใช้บริการผ่าน Facebook “Grip Thailand” และ เว็บไซต์ www.gripthailand.com โดยลูกค้าผู้ใช้บริการที่สั่งซื้อยางรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์จะได้รับสิทธิพิเศษ คือ สามารถกำหนดวันเปลี่ยนยาง เลือกขนาดยาง และเช็คสินค้าที่ต้องการได้แบบเรียลไทม์ว่ายังมีสินค้าอยู่ในสต็อกหรือไม่ ตลอดจนสามารถเลือกสาขาที่ต้องการจะนำรถเข้าไปใช้บริการและชำระค่าบริการผ่านออนไลน์ได้
ล่าสุด “กริพ” ยังได้เพิ่มเกมรุกทางด้านการตลาดออนไลน์ ผ่านการปล่อยไวรัลคลิปสร้างการรับรู้ไปยังผู้คนและเจ้าของกิจการร้านยางเล็ก ๆ โดยได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่สะท้อนถึงการดำเนินงานของร้านยางรถยนต์เล็กๆ ในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่มีรายได้จากผู้ใช้บริการในชุมชน แต่ก็ไม่ได้มีรายได้หมุนเวียนจากลูกค้าแต่ละรายมากนัก เพราะยางเส้นหนึ่งแม้ว่าจะซ่อมแล้วก็อยู่ได้นานเป็นปีๆ ดังนั้น “กริพ”จึงคาดหวังที่จะเข้ามาช่วยยกระดับร้านยางรายย่อยเหล่านี้ให้เป็นศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร เป็นผู้ให้บริการในชุมชนที่เข้าใจคนของชุมชนจริงๆ และมีโอกาสรับรายได้เพิ่มมากขึ้น