การขยับตัวครั้งสำคัญของอินบิสโก้ (ประเทศไทย) จากผู้ผลิตและจัดจำหน่ายลูกอมรสกาแฟโกปิโก้ที่จำหน่ายมาอย่างยาวนาน ได้ส่งสินค้าใหม่ “โกปิโก้ คอฟฟี่” (Kopiko Coffee) บุกตลาดกาแฟพร้อมดื่มในไทยเจาะกลุ่มเป้าหมาย “ระดับแมสชาวแรงงาน” มีให้เลือก 2 รสชาติเข้มและกลมกล่อมหอมกลิ่นกาแฟแท้คุณภาพพรีเมียมเพราะใช้เมล็ดพันธุ์กาแฟที่ปลูกในดินภูเขาไฟในอินโดนีเซีย แหล่งวัตถุดิบผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมของโลกแต่ขายในราคามาตรฐานเพียง 13 บาท เชื่อมั่นสร้างการรับรู้ในแบรนด์ใหม่ไม่ยากเพราะชื่อโกปิโก้เป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว
นางมัลลิกา อิทธิสกุลชัยผู้จัดการทั่วไปบริษัท อินบิสโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดกาแฟพร้อมดื่มมีความน่าสนใจแม้ว่าในภาพรวมจะมีแบรนด์ใหญ่เบอร์หนึ่งและสองครองตลาดอยู่แล้วรวมกันเกือบ 90% ก็ตาม เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการที่เปลี่ยนไปเร็ว และกลุ่มผู้บริโภคมีหลายระดับจึงเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ใหม่ที่จะเข้าไปทำตลาด และการที่อินบิสโก้ขยับตัวเข้ามาในตลาดนี้เพราะมั่นใจว่า ความแข็งแกร่งในภาพลักษณ์ของผู้ผลิตลูกอมกาแฟแท้โกปิโก้ ซึ่งติดตลาดมาอย่างยาวนานแล้ว สามารถสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายของสินค้าใหม่รับรู้และเข้าใจถึงคุณภาพและรสชาติกาแฟแท้ๆ ชั้นดีในรูปแบบของกาแฟพร้อมดื่มได้อย่างชัดเจน
นางมัลลิกา กล่าวว่า ตลาดกาแฟพร้อมดื่มมีมูลค่าราว 12,000 ล้านบาท มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงเพราะมีแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาช่วงชิงเค้กก้อนนี้อยู่ตลอดเวลา การที่แบรนด์ “โกปิโก้” ตัดสินใจขยายไลน์ผลิตสินค้าจากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกอม เวเฟอร์ แครกเกอร์และของขบเคี้ยว มาอยู่ในตลาดกาแฟพร้อมดื่มเพราะมั่นใจว่าโกปิโก้มีจุดแข็งมากพอทั้งจากชื่อเสียงของลูกอมที่รู้จักกันทั่วประเทศและยังมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนขนาด แพ็คเกจและราคา
การพัฒนาสินค้าใหม่ในครั้งนี้ โกปิโก้ใช้จุดเด่นเรื่องรสชาติและกลิ่มหอมของกาแฟแท้คุณภาพระดับพรีเมียมมาสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันโดยในช่วงแนะนำสินค้าใหม่สู่ตลาดครั้งแรกในปีนี้โกปิโก้ คอฟฟี่ พัฒนา2 รสชาติเข้มข้นแบบตัวจริง คือ รสเข้ม และ รสกลมกล่อม การใช้ชื่อรสชาติเช่นนี้เพื่อให้มีความชัดเจนสำหรับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มมีการแข่งขันผลิตรสชาติใหม่ออกมาค่อนข้างมาก มีการใช้ชื่อพันธุ์เมล็ดกาแฟและชื่อประเภทเครื่องดื่มกาแฟเป็นจุดขายของรสชาติ ซึ่งในความเป็นจริงจากข้อมูลวิจัยตลาดของโกปิโก้พบว่า ผู้บริโภคต้องการกาแฟพร้อมดื่มที่ให้รสชาติจริงของกาแฟเข้มข้นและมีกลิ่มหอมของกาแฟแท้เท่านั้น และชื่อเสียงของแบรนด์โกปิโก้ถือเป็นข้อบ่งชี้สำคัญถึงรสชาติกาแฟแท้ที่ตลาดต้องการ
‘โกปิโก้ คอฟฟี่’ ใช้เมล็ดพันธุ์นำเข้าจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเมล็ดกาแฟชนิดพิเศษซึ่งปลูกในดินจากภูเขาไฟโทราจา ในเขตเซเลเบสใต้ ประเทศอินโดนีเซียแถบนี้เป็นดินที่อุดมด้วยแร่ธาตุดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพดี ให้รสกาแฟเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของกาแฟแท้ กระบวนการผลิตพิถีพิถันมากเพราะคัดเฉพาะเมล็ดกาแฟคุณภาพดีที่ผ่านกระบวนการคั่วแล้วส่งเข้ามาสกัดในโรงงานอินบิสโก้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัตถุดิบที่ใช้จึงมีความสดใหม่ มีความหอมและรสชาติเทียบเท่ากาแฟสด อร่อยโดยไม่ต้องปรุงแต่ง
การออกแบบแพ็คเกจจิ้งของโกปิโก้ คอฟฟี่ ยังส่งให้สินค้ามีความโดดเด่น เพราะการใช้บรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติก PET ฝาเกลียว ขนาดบรรจุเต็มขวด 240 มล. ถือเป็นปริมาณมากกว่าถึง 33% เมื่อเทียบกับขนาดกาแฟพร้อมดื่มทั่วไปที่มีขนาดบรรจุภัณฑ์ 180 มล. จำหน่ายในราคาเดียว 13 บาท และการใช้ฝาเกลียวยังให้ความสะดวกในการเปิดดื่มง่าย หากดื่มไม่หมดในคราวเดียวยังปิดฝาเกลียวเก็บกาแฟไว้เติมความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ต่อ พร้อมลุยงานได้เต็มที่
“อีกปัจจัยสำคัญของการเปิดตลาดสินค้าใหม่คือ การจัดจำหน่าย เพื่อกระจายสินค้าให้ถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย อินบิสโก้เลือกใช้บริการการจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท เดอเบล จำกัด บริษัทชั้นนำด้านการกระจายสินค้าทั่วประเทศโดย โกปิโก้ คอฟฟี่ เลือกใช้ช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าสะดวกซื้อใกล้บ้านและในสถานีบริการน้ำมัน ร้านค้าปลีกท้องถิ่นและร้านค้าส่ง รวมทั้งเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจุดวางจำหน่ายโกปิโก้ คอฟฟี่ กาแฟพร้อมดื่ม ที่ทุกคนจะหาซื้อได้ง่ายที่สุด” นางมัลลิกา กล่าว
สำหรับแผนการตลาดเปิดตัว ‘โกปิโก้ คอฟฟี่’ ใช้พรีเซ็นเตอร์คนดังถึง 3 คนคือ พระเอกมาดเข้ม ‘เวียร์– ศุกลวัฒน์’ เป็นตัวแทนภาพลักษณ์สินค้ากาแฟพร้อมดื่มรสชาติเข้มข้นถึงใจ อีกหนึ่งหนุ่มเป็นคนสายเข้มพันธุ์ดุแรงไม่ถดถอย ‘ตอง – กวินทร์’ผู้รักษาประตูฟุตบอลทีมชาติไทย สะท้อนภาพลักษณ์ของ ‘โกปิโก้ คอฟฟี่’ ชัดเจนว่าเป็นกาแฟพร้อมดื่มรสเข้มเต็มพิกัดกาแฟแท้ อร่อยแบบไม่ต้องปรุงแต่ง และพรีเซ็นเตอร์คนดังอีกหนึ่งสาวสวย‘ขวัญ – อุษามณี’ การเลือกสามพรีเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียง มีภาพลักษณ์ชัดเจนสามารถสะท้อนบุคลิกแบรนด์และภาพลักษณ์ของสินค้าได้ตรงส่งผลให้การสร้างการรับรู้ในแบรนด์สำหรับสินค้าใหม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว