ทุกวันนี้ “Digital Media”กลายเป็นสื่อกระแสหลักที่แบรนด์ไม่อาจปฏิเสธได้ โดยปัจจุบันแพลตฟอร์มที่เป็นช่องทางหลัก ยังคงเป็น “Social Media” ควบคู่กับการทำ SEO บนแพลตฟอร์ม Search Engine
แต่เคยสังเกตไหมว่า ?!? ทุกครั้งที่เราใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะมีโฆษณาหลั่งไหลเข้ามามากมาย เชื่อว่าคนส่วนใหญ่แทบจำโฆษณาต่างๆ ไม่ได้เลย นี่จึงทำให้การอาศัยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ หรือ Search Engine เพียงอย่างเดียว ในการเป็นช่องทางสื่อสารของแบรนด์ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ฉะนั้นหัวใจสำคัญของ“การสื่อสารการตลาด” ในโลกยุคดิจิตอล จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง “ผสมผสาน” การใช้สื่อแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้อง ถูกจังหวะ กลมกลืน สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของแบรนด์ที่กำหนดไว้
“AdPocket” บุกเบิก “Lock-Screen-Ads” สื่อดิจิตอลแนวใหม่
หนึ่งในแพลตฟอร์มสื่อดิจิตอลที่กำลังมาแรง และนับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในต่างประเทศ และไทย คือ แอปพลิเคชั่น“Lock-Screen-Ads”ที่เปลี่ยนหน้าจอสมาร์ทโฟนให้เป็น “โฆษณา” โดยขณะนี้ในประเทศไทย มีผู้ที่ให้บริการแอปพลิเคชั่น“Lock-Screen-Ads” เพียงรายเดียว คือ “AdPocket” แอปพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการAndroidล่าสุดมีผู้ดาวน์โหลดใช้งานมากถึง 2,000,000 คน และมีผู้ลงโฆษณากว่าร้อยราย
เหตุผลที่ทำให้สื่อดิจิตอลแนวใหม่นี้ เป็นที่ตอบรับทั้งจากผู้ลงโฆษณา และผู้ใช้งาน เนื่องจากทุกวันนี้ชีวิตประจำวันของคนอยู่กับโทรศัพท์มือถือตลอด 7 วัน เกือบ 24 ชั่วโมง จนกลายเป็น “First Screen” แทนที่คอมพิวเตอร์ไปแล้ว ยิ่งในประเทศไทยมีสมาร์ทโฟนมากถึง 49 ล้านเครื่อง คนไทยใช้สมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 6.2 ชั่วโมงต่อวัน
นั่นหมายความว่า “AdPocket” เป็นสื่อที่อยู่ใกล้ตัวผู้บริโภคมากกว่าสื่อประเภทอื่น และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุม (High Reach) ทำให้ “ผู้ลงโฆษณา” เห็นผลตอบกลับจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว หลังจากแมสเสจของแบรนด์สินค้าหรือบริการถูกสื่อสารออกไป
ประกอบกับคุณลักษณะของสื่อประเภท Lock-Screen-Ads “โฆษณา” ได้กลายเป็น Wall Paper ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้แอปพลิเคชั่น ทำให้โฆษณานั้นๆ สามารถสร้าง Full Engagement กับผู้บริโภคได้ 100%
เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ใช้แอปพลิเคชั่น “AdPocket” โดยเฉลี่ยจะเปิดหน้าจอมือถือ ประมาณ 47 ครั้งต่อคนต่อวัน ทำให้ทุกครั้งที่ผู้บริโภคหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใช้ ย่อมเห็นและเกิดการจดจำโฆษณานั้นๆ ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึง “โฆษณา” ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ หากไม่มีการนำเสนอที่น่าสนใจ และมีพลังดึงดูดมากพอ โดยธรรมชาติของมนุษย์มักจะ “ปฏิเสธ” โฆษณานั้นๆ แต่สำหรับ “AdPocket” เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบมาให้ “ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น” ได้รับประโยชน์จากการใช้งานด้วยเช่นกัน
โดยทันทีที่ผู้ใช้หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้ เมื่อปลดล็อคหน้าจอมือถือ ก็จะเห็นโฆษณา และถ้าสไลด์ไปทางซ้าย เพื่อเข้าไปมีส่วนรวมกับโฆษณา จะทำให้ผู้ใช้ได้รับแต้มสะสม และแลกเป็นเงินสด โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ผ่านแอปพลิเคชั่นTrue Wallet หรือใช้เป็นค่าโทร ค่าเน็ต จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เติมเงินในเกมซื้อของใน 7-11 และสิทธิพิเศษต่างๆ ดังนั้น การใช้แอปพลิเคชั่นนี้ จึงเปรียบเสมือน“การหยอดกระปุกทุกวัน”
ดังนั้น คนที่ดาวน์โหลด “AdPocket”เพราะเห็นประโยชน์จากการใช้งานแอปพลิเคชั่นนี้ สะท้อนได้ว่าผู้ใช้ยินดีในการ “เปิดรับ” และ “สนใจ” โฆษณาต่างๆ ที่จะปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของเขา
“ด้วยความที่ AdPocket เป็นแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้รบกวนผู้ใช้ เพราะโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วจึงทำให้ฐานผู้ใช้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบัน User หลักของเรา เป็นกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้สนใจเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว เรียนรู้เทคโนโลยีได้เร็ว ประกอบกับกลุ่มวัยรุ่นเล็งเห็นประโยชน์ของแอปพลิเคชั่นนี้ ที่ทำให้เขาสามารถหาเงินค่าขนมได้ จากการสะสมแต้ม
เมื่อฐานผู้ใช้ขยายมากขึ้นต่อเนื่อง จะเชื่อมโยงไปสู่ฝั่งผู้ลงโฆษณา ที่เห็นศักยภาพของ AdPocket ทำให้ทุกวันนี้ผู้ลงโฆษณากับเรา ไม่ได้ลงแค่ครั้งเดียว แต่ลงซ้ำ เพราะมีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงผู้บริโภค” คุณอลิศรา ดำรงค์พานิช, Mobile Marketing Director เล่าถึงศักยภาพของ “AdPocket”
เผยเหตุผล ทำไมนักโฆษณา – นักการตลาดไม่ควรมองข้าม AdPocket!
ไม่เพียงแต่เป็นสื่อดิจิตอลที่สร้าง Win-Win Situation ให้กับทั้งผู้ลงโฆษณาและผู้ใช้งานแล้ว ความโดดเด่นอีกประการของ “AdPocket” คือ มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้ได้อย่างเจาะลึกและละเอียดทำให้สามารถ Customize โฆษณาได้เฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายตามที่ผู้ลงโฆษณาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเพศ อายุ จังหวัด เลือกระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และเลือกวัน เวลา ทำให้แบรนด์สินค้าและบริการสื่อสารแมสเสจได้ถูกกลุ่มเป้าหมาย ถูกจังหวะ ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
รวมทั้งยังสามารถวิเคราะห์ได้ถึงความสนใจของผู้ใช้ถึง 12 หมวดหมู่ไม่ว่าจะเป็น เกม ไอที/เทเลคอม/อิเล็กทรอนิกส์ การเงิน ท่องเที่ยว อาหาร บันเทิง แฟชั่น/ความสวยความงาม ยานยนต์ ช้อปปิ้ง กีฬา/พักผ่อน การตกแต่งบ้าน/ลิฟวิ่ง และความสนใจเกี่ยวกับเด็ก
นอกจากนี้ “AdPocket”ยังตอบโจทย์ 4 วัตถุประสงค์หลักด้านการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือ
1.Quick Awarenessสำหรับสินค้าใหม่ที่ต้องการทำให้ผู้บริโภครู้จัก และสินค้าทำโปรโมชั่น การลงโฆษณากับ “AdPocket”ช่วยสร้างการรับรู้ได้เร็ว และกระตุ้นให้เกิด Action ทันที
2.Play Store Chart Boosting สำหรับแอปพลิเคชั่นของแบรนด์สินค้า – บริการต่างๆ ที่ต้องการสร้างการรับรู้และทำให้แอปพลิเคชั่นของตนเอง ได้รับความยอดนิยม มียอดดาวน์โหลดติดอันดับต้นๆ ของ Play Store
3.Easy Engagement แบรนด์ที่จัดกิจกรรมการตลาด เมื่อลงโฆษณากับ “AdPocket”มีผู้ใช้ที่เห็นโฆษณาอย่างแน่นอน จึงสามารถสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์ กับผู้ใช้ได้ดีกว่าการสร้าง Engagement บน Landing Page หรือจัดกิจกรรมบนสื่อสังคมออนไลน์
4.Drive Direct Sale หรือ Coupon ผู้ลงโฆษณาเอาสินค้าและบริการ มาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มของ “AdPocket” โดยนำเสนอราคาพิเศษ หรือมีข้อเสนอที่ดึงดูดใจผู้ใช้ตัดสินใจซื้อทันที โดยใช้แต้มที่สะสมสั่งซื้อสินค้า หรือกรณีเป็นคูปอง นำคูปองไปใช้ที่สาขาของแบรนด์สินค้าและบริการนั้นๆ ถ้าแบรนด์ไหนมีกลยุทธ์ เมื่อผู้บริโภคคนนั้นไปที่สาขา จะสามารถเพิ่มโอกาสการขายต่อเนื่องจากการใช้สื่อ AdPocket
“AdPocket” ไม่ใช่มีแต่โฆษณาเท่านั้น แต่ยังมีคอนเทนต์สาระบันเทิงจากหลากหลายพันธมิตรธุรกิจ เช่น Ookbee comic, เปิดรับข่าวสารทั้งไทยและทั่วโลกจากสำนักข่าว INN, คลิป D.I.Y จาก C channel บทความสาระน่ารู้ในวงการแฟชั่นจาก Spice, Pepper, Ladyissue และข่าวสารวงการเกมกับ Online station
“การลงโฆษณากับ AdPocket เราจึงสามารถให้คำแนะนำ และช่วยลูกค้าวางแผนตั้งแต่ต้นได้ เพราะด้วยพื้นฐานของเรา มาจากดิจิตอล เอเยนซี ที่มีองค์ความรู้ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดดิจิตอล ประกอบกับเรามีทีมการตลาดที่เชี่ยวชาญด้านสื่อดิจิตอล และมีเทคโนโลยี Lock-Screen-Ads ที่รองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันประสิทธิภาพของ AdPocket อยู่ในเกณฑ์สูง เพราะเราเป็น First Screen ทำให้โอกาสที่ผู้ใช้จะเข้ามา Interact กับโฆษณาสูงกว่าแบนเนอร์ออนไลน์ทั่วไป ซึ่งมี CTR (click through rate) ประมาณ 0.2% หมายความว่าการแสดงผล 1,000 ครั้ง มีคนคลิกดู 2 ครั้ง แต่สำหรับ AdPocket มี CTR อยู่ที่ 10% ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานมาก”
ขยายฐาน “กลุ่มคนทำงาน”– มุ่งตอบโจทย์ “ยอดขาย” ให้ลูกค้า
หลังจากเปิดตัวมาได้ 1 ปี คุณอลิศรา เล่าถึงเป้าหมายต่อไปในปี 2560 ว่า เราจะขยายฐานผู้ใช้งานให้มีความเป็นแมสมากขึ้น โดยเน้นกลุ่มคนทำงาน ควบคู่กับการทำ Customization เพื่อให้โฆษณา และคอนเทนต์สาระบันเทิงต่างๆ ที่นำเสนอตรงความต้องการและไลฟ์สไตล์คนผู้ใช้งานคนนั้นๆ
นอกจากนี้ เราจะผลักดันกลุ่ม Direct Sale หรือ Coupon ให้เป็นหัวหอกหลัก เพราะในที่สุดแล้ว การสื่อสารการตลาดและการขาย ต้องตอบโจทย์ด้านยอดขาย ดังนั้น AdPocket จะเข้ามาช่วยผลักดัน Performance ด้านยอดขายให้กับแบรนด์สินค้าและบริการที่มาลงโฆษณากับเรา
“ใน 3 – 5 ปีข้างหน้า เราอยากเป็นทางเลือกหนึ่งของการลงโฆษณาบนมือถือ ที่อยู่เคียงข้าง Facebook, LINE เพราะการสื่อสารการตลาดในยุคนี้ ลูกค้าไม่ได้ลงสื่อแพลตฟอร์มเดียว แต่ลงสื่อผสมผสาน เนื่องจากโปรดักส์แต่ละตัวมีกลยุทธ์ คุณลักษณะ และวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายไม่เหมือนกัน
ผู้ลงโฆษณาต้องเลือกใช้เครื่องมือสื่อสารให้เหมาะสม เพราะเครื่องมือแต่ละตัว มีความพิเศษ และความโดดเด่นแตกต่างกัน อย่าง AdPocket เป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้คนมากที่สุด เข้าถึงง่าย สะดวก และรับรู้ผลเร็ว ดังนั้นนักโฆษณา นักการตลาด ควรผสมผสานการใช้สื่อแต่ละแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน”