นันยางเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งด้านผลิต วางแผนระยะ 5 ปี งบลงทุน 30 ล้านบาท พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใน-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งทุ่มงบ 70 ล้านบาท เตรียมพร้อมรับมือการตลาดบูมช่วงเปิดเทอมส่งสินค้าครอบคลุมทุกเซกเมนต์ นักเรียน-นักศึกษา จัดแคมเปญเอาใจผู้บริโภคและ ขยายตลาดออนไลน์ ตั้งเป้าเติบโต 5% และคงความเป็นผู้นำตลาดธุรกิจรองเท้านักเรียน
นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด ปัจจุบันตลาดในกลุ่มรองเท้านักเรียนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่งผลให้กระบวนการผลิตสินค้ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว ดังนั้นนันยางได้วางแผนจัดการด้านการผลิตระยะเวลา 5 ปี (2559-2563) สำหรับการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตยิ่งขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการด้านการขายและการกระจายสินค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ทันต่อความต้องการ โดยงบประมาณที่ใช้อยู่ที่ 30 ล้านบาท
“ทั้งนี้โรงงานนันยางมีกำลังการผลิตประมาณ 30,000 – 50,000 คู่ต่อวัน ซึ่งยังคงรับรองการผลิต ณ ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้นันยางยังรักษามาตรฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ตามที่นันยางนั้นทำมาโดยตลอด รวมถึงยังได้พัฒนาประสิทธิภาพของพนักงาน เพื่อรองรับการผลิตที่มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมที่มียอดจำหน่ายสูงสุด เราสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างแน่นอน” นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล กล่าว
ด้านนายจักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่าในปี 2559 นันยางยังคงความเป็นผู้นำตลาดด้านธุรกิจรองเท้านักเรียนของไทย โดยยอดขายเติบโตประมาณ 6% ผลจากกระแสตอบรับของ ‘นันยาง ชูการ์’ และยอดขายของรองเท้าผ้าใบรุ่น 205-S ซึ่งถึงเป็นสินค้าหลักของนันยาง รวมถึงรองเท้าแตะตราช้างดาว ทั้งนี้ในปี 2560 นันยางได้ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 5%
สำหรับในปีนี้นันยางได้วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อคงความผู้นำตลาดด้านธุรกิจรองเท้านักเรียน โดยได้จัดกลุ่มสินค้าอย่างลงตัว ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด และตามความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงกระจายสินค้าไปยังร้านค้า และช่องทางการขายต่าง ๆ ที่มีความพร้อมในการรับมือกับกระแสการจำหน่ายในช่วงปิดเทอม ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่มียอดจำหน่ายดีที่สุด พร้อมเน้นด้านการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มบริโภคเป้าหมาย ผ่านแคมเปญ ‘นันยาง ทุกก้าว คือตำนาน’ รวมทั้งการจัดโปรโมชั่น ณ จุดขาย ในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย อาทิ ร้านรองเท้าใกล้บ้าน โมเดิร์นเทรด
และการขายผ่านออนไลน์ อย่างไรก็ตามนันยางจะไม่มีการปรับราคาสินค้า ตามกระแสต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องการช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองซึ่งมีรายจ่ายในช่วงก่อนเปิดเทอมค่อนข้างมาก ด้วยการใช้งบการตลาดรวม 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 25% โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 42%
“ภาพรวมตลาดธุรกิจรองเท้านักเรียนในปีที่ผ่านมาอาจจะชะลอตัว แต่นันยางเชื่อว่าในปีนี้ภาพรวมตลาดจะมีภาวะที่ดีขึ้นจากปัจจัยบวกในหลายๆ ด้าน อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น รวมถึงการจับจ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่คึกคักมากนัก ส่งผลให้ผู้ปกครองมีเงินที่จะจับจ่ายในการซื้ออุปกรณ์การเรียน ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ ต่อเนื่องไปจนเปิดเทอม คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-5 % ซึ่งนันยางเองได้เตรียมสินค้าเพื่อรองรับการขายในช่วงปิดเทอมและตลอดทั้งปีไว้อยู่แล้ว” นายจักรพล จันทวิมล กล่าว
โดยนันยางมีสินค้ารองเท้า จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย 1.รุ่น 205-S เป็นสินค้าหลักที่ครอบคลุมตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนทั้งหมด รวมถึงมีการเพิ่มสินค้ารุ่น BIG FOOT เบอร์ 47-49 สำหรับเท้าขนาดพิเศษ 2.รุ่น Have Fun สำหรับนักเรียนประถม อายุ 6-9 ปีโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงต่อเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน 3.รุ่น Sugar รองเท้าผ้าใบสำหรับผู้หญิง ที่สร้างกระแสยอดจำหน่ายดีเกินเป้าที่ตั้งไว้ และ4.รุ่น 121-N สำหรับนิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัยและสายอาชีพ ทั้งนี้นันยางจะทำตลาดในกลุ่มมากขึ้นในปีนี้