นับตั้งแต่ปี 1997 ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย ที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น โดยตัวเลขขณะนั้นอยู่ที่ 7.2 ล้านคน จากนั้นมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2559 ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 32.6 ล้านคน เมื่อรวมกับนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศแล้ว มีรายได้ มีรายได้รวม 2.51 ล้านล้านบาท ขณะที่ในปีนี้ ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างประเทศ 34.4 ล้านคน และคาดว่าจะมีรายได้รวมการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2.7 ล้านล้านบาท
จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า “การท่องเที่ยว” เป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาพัฒนาการของภาคการท่องเที่ยวในไทย นอกเหนือจากด้านทรัพยากรธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์อันมีเสน่ห์ของไทยแล้ว ได้มีการเติมสิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลกที่มี “ความครบวงจร”
“International Entertainment Destination” ประตูบานใหม่การท่องเที่ยวไทย
หนึ่งใน “แม่เหล็ก” ที่ถูกเติมเข้ามา และมีพลังดึงดูดทั้งชาวต่างประเทศให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย รวมทั้งกระตุ้นคนไทยให้ท่องเที่ยวในประเทศ คือ “ความบันเทิง” ที่วันนี้เป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดย “โชว์ ดีซี คอร์ป” ได้สร้าง “โชว์ ดีซี” (SHOW DC) ศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแห่งแรกของไทย บนถนนพระราม 9 ที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทย และมาเลเซีย ด้วยงบลงทุนกว่า 9,500 ล้านบาท
ในที่สุด หลังจากใช้เวลาก่อสร้างกว่า 4 ปี หรือ 1,708 วัน วันนี้ได้เปิดตัว “โชว์ ดีซี” สุดยิ่งใหญ่ โครงการที่ถูกเนรมิตให้เป็น “International Entertainment Destination” ศูนย์กลางด้านความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดในเอเชีย (Entertainment Tourism Hub) ภายใต้สโลแกน “Everyday is SHOW day”
“เรามองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในหลายประเทศ เช่น ในลาสเวกัส จากเมืองทะเลทราย พัฒนาเป็นเมืองคาสิโน และปัจจุบันเป็น Family Destination หรือสิงคโปร์ ตอนนี้เป็น Lifestyle Entertainment ส่วนที่เกาหลี รัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิงมากมาย
ขณะที่ประเทศไทย จากนโยบายการท่องเที่ยวของภาครัฐ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Holiday Destination, MICE Destination, Sport Destination, Health & Wellness Destination และ Shopping Destination ที่ประสบความสำเร็จ สามาถดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่ประเทศไทยได้จำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยวได้มหาศาล
เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นที่มาของ “โชว์ ดีซี” ที่พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐ เพื่อเปิดมิติใหม่ของการท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเราเชื่อว่าความบันเทิง จะเป็น Key Element สำคัญสำหรับการท่องเที่ยว จึงต้องการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ความเป็น “International Entertainment Destination” ที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นจุดหมายปลายทางด้านความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ที่นักท่องเที่ยวปรารถนาที่จะมาเยือน” คุณชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ฉายศักยภาพการท่องเที่ยวไทย และที่มาของโครงการโชว์ ดีซี
เจาะลึก 7 มหัศจรรย์ ครบครันความบันเทิง – อาหาร – ช้อปปิ้ง
“โชว์ ดีซี” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ บนถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นโลเกชั่นใจกลางเมือง สะดวกต่อการเดินทาง โดยพื้นที่ภายในอาคาร 180,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 55% Entertainment, 25% ร้านอาหาร และ 20% เป็นร้านค้าสำหรับช้อปปิ้ง
นอกจากนี้ยังเป็น A Variety of World Class Venue ที่มีพื้นที่จัดงานทั้งภายในและภายนอกกว่า 40,000 ตารางเมตร สามารถรองรับการจัดกิจกรรมความบันเทิง และไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร มากกว่า 1,000 งานตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตระดับโลก โชว์ระดับเวิลด์คลาส การจัดสัมมนาและการจัดประชุมนานาชาติ งานแสดงสินค้า กิจกรรม Fan Meeting กับดาราศิลปินชื่อดัง กิจกรรม Sport Entertainment รวมถึงกิจกรรมความบันเทิงอีกมากมาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้มาใช้บริการ คือ คนไทย 50% และ ชาวต่างชาติ 50% พร้อมทั้งตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละ 10 ล้านคน
ไม่เพียงเท่านี้… “โชว์ ดีซี” ยังมีความน่าสนใจอีก 7 อย่าง ที่จะทำให้สถานที่แห่งนี้สมกับการเป็น International Entertainment Destination อย่างแท้จริง ประกอบด้วย
1. K–District และ BANGKOK TOURIST TERMINAL (ชั้น 1)
เมืองเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศเกาหลี จำลองบรรยากาศของย่านช้อปปิ้งในกรุงโซลที่มีชื่อเสียงอย่าง เมียงดง ทงแดมุน และฮงแด มาไว้ที่นี่ พบกับสินค้าเกาหลีทั้งแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ไลฟ์สไตล์ ความงาม และอาหาร ตามแบบฉบับเกาหลีแท้ๆ
นอกจากนี้ยังมี K-Celebrity Street Food ที่แรกในโลก ที่เหล่าศิลปิน ดารา เซเลบริตี้แดนกิมจิเลือกมาเปิดร้านอาหารของตัวเองเพื่อแฟนๆ ชาวไทย อาทิ ร้านราเมนสไตล์เกาหลี ‘PSY-RAMEN’ ของศิลปิน ไซ(PSY) กังนัมสไตล์, ร้าน AFTER THE RAIN ของดาราหนุ่ม เรน, และ ร้าน BY GRACE ของดาราสาวยูอึนเฮ (นางเอกซีรีส์สุดฮิตเรื่อง Coffee Prince), ร้าน BUGSY DOG ของดาราหนุ่ม ชเวซีวอน, ร้าน KIM’S FULLHOUSE ของดาราหนุ่ม คิมซองซู, ร้าน SAMSICOCO ของดาราหนุ่ม ลีโซจิน ร้าน SEUNG GI’S MILL ของดาราหนุ่ม ลีซึงกิ ฯลฯ
ขณะเดียวกันมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและการเดินทางครบวงจรแห่งแรกของอาเซียน (BANGKOK TOURIST TERMINAL) ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยการบริการที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นที่ฝากกระเป๋าเดินทาง ห้องอาบน้ำ เคาน์เตอร์รับจองและจำหน่ายบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี BANGKOK BUS TERMINAL ศูนย์กลางการเดินทางที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. Fashion District และ LOTTE DUTY FREE (ชั้น 2–3)
ครบครันทั้งร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่น อาทิ H&M, COTTON ON, GIORDANO, WACOAL และตื่นตาตื่นใจกับ “LOTTE DUTY FREE” ร้านค้าปลอดภาษีอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ใหญ่และหรูหราที่สุด บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ให้ได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงสินค้าไทย โดยพร้อมเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2560
3. Toys “R” Us และ Play District (ชั้น 3)
เอาใจน้องๆ หนูๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปร้านค้าปลีกของเล่นจากToys “R” Us จากสหรัฐอเมริกา และคอกีฬา ผู้รักการออกกำลังกาย ต้องไม่พลาดกับร้าน Nike Factory Store ใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร มีสินค้าหลากหลายเทียบเท่าสโตร์ในเมืองชั้นนำของโลก
4. Thai Thai Market (ชั้น 4)
อลังการกับ Thai Thai Market ที่สุดของการรวมของฝากจากทุกภาคทั่วไทย ทั้งอาหาร ผลไม้ตามฤดูกาล อาหารแปรรูป ขนม สมุนไพร เครื่องเทศ เครื่องปรุงรส รวมถึงหัตถกรรมฝีมือประณีต อาทิ ผ้าไหม ผ้าทอ รูปสลักไม้ งานประติมากรรม ฯลฯ และที่แรกในโลกกับห้องทานทุเรียน เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในรสชาติของทุเรียน ราชินีแห่งผลไม้ไทย
5. Himmapan Avatar (ชั้น 4)
สุดยอดการแสดงรูปแบบใหม่ที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยสมัยใหม่ ในมุมมองแบบ 360 องศา หรือ “360 All-Dimensional Fantasy Live Show” ครั้งแรกในประเทศไทย
6. Asian Food District (ชั้น 5)
ศูนย์รวมอาหารคาวหวานรสชาติดั้งเดิมจากหลากหลายประเทศในทวีปเอเชีย ทั้งอาหารไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ฯลฯ
7. Ong Bak Live และ YG Republique (ชั้น 6)
จากความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ “องค์บาก” ที่สร้างความโด่งดังให้ศิลปะการต่อสู้ของไทยมาแล้วทั่วโลก สู่การแสดงเล่นจริง เจ็บจริง ทุกฉาก ไม่มีสตั๊นท์ สุดอลังการหนึ่งเดียวที่สะกดทุกสายตาผู้ชม “องค์บาก ไลฟ์”
ภายในชั้นเดียวกันยังได้พบกับ “YG Republique” เอ็นเตอร์เทนเมนต์ พาร์ค – อาณาจักรอาหารและความบันเทิงสไตล์ K-POP ขนานแท้ แห่งแรกในเอเชีย ตั้งอยู่บนพื้นที่มหึมาขนาด 3 ไร่ ในคอนเซ็ปต์ “Dine-Drink-Dance” (ทาน-ดื่ม-แดนซ์) พร้อม Rooftop View ที่สามารถเห็นความสวยงามของกรุงเทพฯ ได้รอบทิศทาง โดย YG Republique ประกอบไปด้วยร้านอาหาร, ร้านปิ้งย่างบาร์บีคิวสไตล์เกาหลี, ผับ, คลับ, ร้านขายของที่ระลึก รวมถึง Café ของศิลปินสุดฮอตอย่าง Big Bang
“เราตั้งใจทำให้ “โชว์ ดีซี” เป็นกุญแจดอกเล็กๆ ที่จะเปิดประตูประเทศไทยไปสู่มิติใหม่ของการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเมืองไทยเป็นศูนย์กลางของ Entertainment Tourism Hub ที่ดีที่สุดในเอเชีย” คุณชยดิฐ กล่าวทิ้งท้ายถึงพันธกิจของอภิมหาโปรเจคนี้