ตอกย้ำให้ภาพความเป็นที่ 1 ชัดเจนมากขึ้นไปอีก เมื่อทรูมูฟ เอช นำคู่จิ้น คู่ขวัญ อันดับ 1 ของประเทศ อย่าง ณเดชน์ – ญาญ่า มาประกบคู่เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดี และความประทับใจจากการเลือกใช้เครือข่ายคุณภาพของทรูมูฟ เอช กับเรื่องราวสุดฟิน “รักหมดใจ ใครๆ ก็ใช้” รวมทั้งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญทรูมูฟ เอช เครือข่ายที่ 1 ในใจคุณ จากปีที่ผ่านมาที่ประสบความสำเร็จในการใช้ ณเดชน์ เป็นตัวแทนของสัญญาณ 4G+ ของทรูมูฟ เอช ที่มีคุณภาพ เร็วแรง และครอบคลุมทั่วไทย
การนำคู่ขวัญอย่าง ณเดชน์ – ญาญ่า มาพรีเซ็นต์ในฐานะตัวแทนผู้ใช้งานจริง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่จะเลือกให้ความเชื่อถือผลิตภัณฑ์ใดๆ ต้องมาจากการมีประสบการณ์ในการใช้งานจริง หรือจากคนรอบข้างที่มีความน่าเชื่อถือ โดยณเดชน์ – ญาญ่า เป็นตัวแทนลูกค้าตัวจริงที่มีประสบการณ์ที่ดีจากการใช้ทรูมูฟ เอช เครือข่าย 4G ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศ รวมทั้งยังเป็นคู่ขวัญอันดับ 1 ที่คนทั้งประเทศรักและยกให้เป็นนักแสดงชาย – หญิง อันดับ 1 ของคนไทยนับเป็นมิติใหม่ในการทำตลาดของกลุ่มโทรคมนาคม หรือ Telco อีกด้วย
เรื่องราวในโฆษณาเน้น Emotional ที่ทำให้ดูแล้วต้องยิ้มตามไปกับความน่ารัก สดใสของทั้งคู่ โดยไม่ลืมที่จะสอดแทรกเรื่องคุณภาพสัญญาณที่สุดยอดของทรูมูฟ เอช ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพสัญญาณ จำนวนคลื่นที่มากที่สุด และความครอบคลุม ที่มากถึง 98% ของประชากรทั่วประเทศไทย ที่สามารถใช้ได้จริงในทุกอำเภอ ผ่านสถานการณ์ใกล้เคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ทำให้โดนใจและได้ใจคนทั้งประเทศ เพราะนอกจากจะมีผู้ใช้จริงในการเล่าเรื่องแล้ว ยังสามารถเข้าถึงผู้คนได้แบบ Mass จากการใช้ดาราคู่ขวัญอันดับ 1 ควบคู่ไปกับการสะท้อนภาพความเป็นเครือข่าย 4G อันดับ 1 ของประเทศไปพร้อมกัน
เนื้อเรื่องเล่าถึงการเดินทางของทั้งคู่ที่นัดกันไปเที่ยว แต่สถานการณ์ทำให้ต้องแยกกันเที่ยว ณเดชน์ขึ้นดอยไปเที่ยวอีสาน ส่วนญาญ่าลงใต้ไปพักผ่อนที่ทะเล ซึ่งแม้จะต่างคนต่างเที่ยวก็ไม่เหงาเพราะมีเครือข่าย 4G+ ของทรูมูฟ เอช เป็นเพื่อนตลอดทริป แถมมีกองเชียร์จากแต่ละภาคคอยส่งข่าวให้อีกฝ่ายเสมอ จนณเดชน์ต้องยอมแพ้ให้ความคิดถึงและห่วงใยที่มีต่อญาญ่า และตัดสินใจไปหาญาญ่าในที่สุด ทำให้เรื่องจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง โดยเบื้องหลังความสุขมาจากการที่คนไทยทุกภาค คอยอัพเดททั้งโทร ไลฟ์ แชท ได้แบบรวดเร็วทันใจ ผ่านทรูมูฟ เอช กลายเป็นที่มาของคำว่า รักหมดใจ ที่ใครๆ ต่างก็เทใจให้ทรูมูฟ เอช เครือข่ายยอดนิยมอันดับ 1 ที่คนไทยมั่นใจ ด้วย 4G+ ที่ดีที่สุด เร็วแรงระดับ 4.5G ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย
อีกหนึ่งเครื่องยืนยันถึงความแข็งแรงของทรูมูฟเอช ในการเป็นเครือข่าย 4G ยอดนิยมของคนไทยก็คือ ยอดผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 5.4 ล้านราย ในปี 2016 ซึ่งทั้งในแง่รายได้และเลขหมายใหม่ที่ขยับขึ้นเหล่านี้ แสดงถึงความมั่นใจที่ผู้บริโภคคนไทยให้ความมั่นใจต่อทรูมูฟ เอช รวมทั้งการได้รับรางวัลการันตีคุณภาพต่างๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรางวัล “ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ 4G ที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ทั่วประเทศ) 2 ปีซ้อน” จากการสำรวจของนิตยสาร Marketeer ในปี 2558 – 2559
ล่าสุดกับรางวัล “เครือข่าย 4G ที่ดีที่สุดในประเทศไทย” จาก nPerfสถาบันทดสอบคุณภาพอินเตอร์เน็ตของเครือข่ายระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2003 สามารถทดสอบได้ทั้งอินเตอร์เน็ตบ้าน (Fixed Broadband Internet) และโมบายอินเตอร์เน็ต (Mobile Broadband Internet) โดยจุดเด่นของ nPerf คือสามารถให้ผลทดสอบอย่างละเอียดทั้งในแง่ความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลด (Speed) ค่าความหน่วงเวลา (Latency) และทดสอบเชิงคุณภาพของบริการ (Quality of Service) เช่น คุณภาพในการเปิดเว็บ (Browsing Test) คุณภาพการสตรีมมิ่งวิดีโอ (Streaming Test) ซึ่ง nPerf ถือเป็นเครื่องมือวัดประสิทธิภาพ (Performance) เครือข่ายที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งานจริง และมีความน่าเชื่อถือสูงสุดในขณะนี้ ต่างจากเครื่องมือ Speed Test อื่นๆ ที่ใช้กันในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เพราะข้อจำกัดจากผู้ให้บริการทำให้รูปแบบการทดสอบไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานจึงไม่สามารถบ่งชี้คุณภาพสัญญาณเครือข่ายได้อย่างแท้จริง โดยแอพพลิเคชั่น nPerf ยังได้รับการยอมรับและใช้งานมากที่สุดในยุโรปและบราซิลอีกด้วย
ปัจจุบันเครือข่ายของทรูมูฟ เอช มีครบทุกคลื่นความถี่ ตั้งแต่ 900/ 850/ 1800/ 2100 MHz มีแบนด์วิดท์ที่กว้างที่สุดในไทยด้วยจำนวน 55 MHz ทำให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากกว่า จากการใช้เทคโนโลยี 3 Carrier Aggregation (3CA) หรือการนำคลื่นความถี่หลากหลายแบนด์มารวมกัน เสริมด้วยเทคโนโลยี 4×4 MIMO เพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการอัพโหลด/ดาวน์โหลดสูงที่สุด จึงให้บริการด้วยความเร็วสูงที่สุด โดยร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีเครือข่ายชั้นนำระดับโลกในการทดสอบระบบส่งสัญญาน 5G และทดสอบเทคโนโลยี Massive MIMO 32T 32R ในระบบ FDD กับความเร็วแรงระดับ 5G ของจริง ในสภาวะแวดล้อมจริงเป็นครั้งแรกในไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย รวมทั้งเตรียมมุ่งหน้าสู่ยุค 5G เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการใช้งานของคนยุคใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างสมบูรณ์
สัมผัสประสบการณ์ความฟินจากเรื่องราวของคู่จิ้นอันดับ 1 ที่จะมาถ่ายทอดความเป็นที่ 1 ด้านเครือข่ายสัญญาณคุณภาพและเครือข่ายยอดนิยมของคนไทยอย่างทรูมูฟ เอช ได้พร้อมกันแล้ววันนี้ ใครยังไม่ได้ดู…ไปดูกันเลย