วงการค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรดกำลัง “หิวเทคโนโลยี” อย่างมาก ดูได้จากล่าสุดที่ Walmart ร้านค้าปลีกเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ประกาศตั้งโครงการ “Store No. 8” บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startups Incubator)
โครงการนี้ ทางวอลมาร์ทไม่ได้แค่เปิดเป็นแผนกหนึ่งในบริษัท แต่ถึงกับแยกไปเปิดออฟฟิศในย่าน Silicon Valley เพื่อดึงดูดทั้งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีไอเดียไฮเทค วิศวกรไอที และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ ให้มาเปิดกิจการหรือทำงานด้วย
และนอกจากบริษัทยักษ์อย่างวอลลมาร์ทจะพร้อมลงทุนให้ผู้ประกอบการที่มีไอเดีย มีซอฟต์แวร์ หรือมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆแล้ว ก็ยังจะยินดีต้อนรับนักลงทุน Venture Capital และกองทุนอื่นๆในซิลิคอนวัลลีย์ให้มาร่วมลงทุนด้วย
นอกจากนี้วอลมาร์ทไปติดต่อกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อให้วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีมาช่วยพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก โดยเน้นไปที่ระบบขนส่งสินค้าอัตโนมัติ, ระบบหุ่นยนต์, VR, AR, Machine Learning และปัญญาประดิษฐ์ AI
งานนี้ชี้ให้เห็นว่ายักษ์ค้าปลีกโลกกำลัง “กระหาย” หาเทคโนโลยีใหม่ๆ และโมเดลการทำงานที่สอดรับกับอนาคต มาใช้กับทั้งหน้าร้านค้าและช่องทางออนไลน์ของตัวเองอย่างเร่งด่วน
ซึ่งผู้บริหารวอลลมาร์ทประกาศว่าบริษัทมีทั้งหน้าร้านจริงที่ยิ่งใหญ่มานาน และมีทั้งหน้าร้านออนไลน์ประสานกันอยู่ ต่างจากคู่แข่งที่มักจะเน้นไปด้านเดียว
แต่เมื่อต้องการความไฮเทคที่ตอบโจทย์โดนใจผู้บริโภค จะแค่ตั้งแผนกใหม่แล้วรับสมัครพนักงานในที่เดิมๆ ก็คงยากจะได้อะไรใหม่ๆ ออกมา จึงเป็นเหตุผลที่ออกไปหา “startup model” ถึงถิ่นซิลิคอนวัลลีย์ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแหล่งรวมทุกอย่างที่ tech startup ต้องมีแบบครบวงจร ตอบโจทย์ทั้ง ecosystem จริงๆ และการที่ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ระดับนี้บุกเข้าสู่วงการสตาร์ทอัพอย่างเต็มรูปแบบก็น่าจะสะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ Retail 4.0 ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมอย่างเด่นชัดขึ้น
แปลและเรียบเรียงโดย: Somkid Anektaweepon