ถ้าหากว่าติดตาม “ฟุตบอล” โดยเฉพาะ ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ไม่ว่าเป็นการไปชมเกมในสนาม หรือสอดส่องตามโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ จะพบว่า ตอนนี้ผู้ที่ให้ความสนใจกีฬาชนิดนี้ไม่ได้มีแต่ผู้ชายอีกต่อไปแล้ว แต่มีทั้งผู้หญิง วัยรุ่น เด็ก ไปจนถึงคนที่อายุ หรือแม้แต่ชาวต่างชาติก็ยังมี
“ฟุตบอล” กิจกรรมโชว์ไลฟ์สไตล์
คุณรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป ทีมเมืองทองยูไนเต็ด ระบุว่า “เฉลี่ยลีกของเอเชียมีผู้ชม 5,000 คนต่อนัด เมืองทองฯ มีผู้ชม 9,000 คน ในขณะที่สนามเราจุได้ 13,000 คน และมีผู้ติดตามในเฟซบุ๊ก มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแฟนอยู่ 2.2 ล้านคน ในระยะ 5-6 ปีหลังมานี่ วงการฟุตบอลเติบโตแบบก้าวกระโดด”
ประกอบกับนโยบายของ “Nikon” เองที่ในระดับโลกและระดับเอเชียก็ให้ความสำคัญกับ การเข้าสนับสนุนรายการแข่งขันฟุตบอลสำคัญๆ อยู่แล้ว ความร่วมมือระหว่างแบรนด์กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ “นิคอน” และเมืองทองยูไนเต็ดจึงเกิดขึ้น
คุณวีระ เฉลียวปิยะสกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การขับเคลื่อนครั้งนี้ของนิคอนไม่ใช่แค่ Sport Marketing แต่เป็น Lifestyle Strategy เพราะฟุตบอลสมัยนี้ไปไกลกว่าแค่เรื่องกีฬาแล้ว เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มีผู้ชมหลากหลาย และเราก็เลือกทีมเบอร์ 1 ของประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพ ทำให้ทำกิจกรรมทางการตลาดได้ง่าย”
“ในวันที่ 25 กรกฏาคมนี้ จะเป็นวันที่แบรนด์นิคอนครอบรอบ 100 ปี ซึ่งในระยะหลังก็มีแบรนด์จำนวนไม่มากนักที่มีอายุถึงขนาดร้อยปี นอกเหนือจากแคมเปญในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้ออกภาพยนตร์โฆษณามาแล้วนั้น แต่ละประเทศก็จะมีกิจกรรมของตัวเอง ซึ่งนิคอน ประเทศไทย ก็คิดว่าสิ่งที่เราจะทำต้องเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า รวมทั้งเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ส่วนหนึ่งจึงออกมาเป็นความร่วมมือกับเมืองทอง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นิคอนประเทศไทยเข้าเป็นสปอนเซอร์ทีมสโมสรฟุตบอล”
Win–Win–Win–Win
ดีลที่เกิดขึ้นนี้ก่อให้เกิดผลดีกับทั้ง 4 ฝ่ายใน Eco-System ของวงการกีฬาปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุน, ทีมกีฬา, ผู้สื่อข่าว และแฟนบอล
“นิคอน” ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ได้ประโยชน์จากการทำกิจกรรม ซึ่งก่อให้เกิดผลดี 2 ทาง ด้านหนึ่งต่อยอดภาพลักษณ์ ความเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพตัวจริงของมืออาชีพ โดยจัดกิจกรรม เช่น เวิร์คช็อปถ่ายภาพ ซึ่งนิคอนจะนำผู้เชี่ยวชาญมาสอนเทคนิคต่างๆ สำหรับการถ่ายภาพในสนามฟุตบอล ซึ่ง BrandBuffet ไปแอบฟังมานิดหน่อยต้องบอกว่าทริคเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ ที่จะทำให้ภาพที่ออกมามีสีสัน และเก็บแอ็คชั่นได้ดั่งใจ คนที่ถ่ายรูปเก่งในรูปแบบอื่นๆ ก็อาจจะตกม้าตายในสนามบอลได้เลย ถ้าลืมคิดเรื่องของแสงที่ตกกระทบกับสนามหญ้าสีเขียว, เสื้อนักฟุตบอล และแสงสปอตไลท์ อีกทั้งรายละเอียดเชิงลึกของกล้องนิคอนแต่ละรุ่น ที่เทพตัวจริงเขาแม่นเป๊ะเรื่องการปรับจูนกล้องตระกูลพี่นิกร
สิทธิพิเศษสุดๆ ก็คือในแมตช์จะมีกิจกรรมพิเศษพาผู้ใช้นิคอน เข้าไปถ่ายรูปข้างสนามฟุตบอล เอสซีจี เมืองทอง ซึ่งมาตรฐานของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย และ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปเดินถ่ายรูปข้างสนาม ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องผ่านการอบรม และทำตามกฎอย่างเคร่งครัด อยู่ในจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น ห้ามเดินเข้า-ออก ระหว่างเกม แต่นี่คืออีกหนึ่งความท้าทายที่ช่างภาพตัวจริงขอไปลองสัมผัสประสบการณ์เก็บภาพข้างสนามฟุตบอล ด้วยอุปกรณ์ที่นิคอนจัดเต็มนำเอาเลนส์ที่เหมาะสมให้ทดลองใช้ ถือเป็นโอกาสดีที่หาไม่ได้ง่ายนัก
อีกด้านคือสร้างกระแสการรับรู้กับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่เป็นแฟนของฟุตบอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ ลีก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมแจกของรางวัล เช่น ตั๋วเข้าชม, ของที่ระลึก ให้ชื่อของนิคอนค่อยๆ แทรกซึมในใจของแฟนบอล
ในมุมของ ทีมเมืองทองฯ นอกเหนือจากจะได้งบสนับสนุนทีมแล้ว ยังมีรูปสวยๆ ที่นำไปใช้ในสื่อต่างๆ ของสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โซเชี่ยลมีเดีย” ที่กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญ ทีมฟุตบอลทั้งในประเทศไทย และสโมสรชั้นนำในต่างประเทศพัฒนาเรื่องการสื่อสารในสื่อนี้ไปไกลอย่างมาก เพราะนี่คือช่องทางที่จะสร้างฐานแฟนคลับ รูปภาพสวยๆ คลิปวิดีโอเบื้องหลังที่โชว์กิจกรรมที่ปกติแฟนบอลไม่ได้เห็น กิจกรรมพิเศษนอกสนาม ถูกผลิตกลายเป็นคอนเทนท์เอาใจแฟนบอลทุกระดับ นักฟุตบอลสมัยนี้ไม่ใช่แค่นักกีฬา แต่มีความเป็น ซุป’ตาร์ และนักฟุตบอลเมืองทองฯ อย่าง เจ้าตังค์-สารัช อยู่เย็น หรือ เจ-ชนาธิป ซึ่งชอบถ่ายรูปกันอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะใช้กล้องแบรนด์อื่นกันมาก่อน แต่เมื่อได้จับ นิคอน ก็เปลี่ยนใจย้ายค่ายกันยกใหญ่ และถ้ารูปที่ต้องการคุณภาพสูงก็มักจะมี Nikon D750 ติดมืออยู่ตลอด แถมตอนนี้ดูเหมือนจะเห่อกล้องใหม่ ลงรูปใน IG กันรัวๆ เลยทีเดียว
แต่การจะเลือกสปอนเซอร์ให้เข้ากับทีม เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบด้าน บิ๊กเป้-รณฤทธิ์ อธิบายว่า “ก็ต้องดูว่าทีมยังขาดสปอนเซอร์ด้านไหน ซึ่งเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นิคอนมาสนับสนุน เพราะเป็นสิ่งที่เรายังขาดอยู่ เดิมทีมประชาสัมพันธ์ของเราก็ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้พร้อมขนาดนี้ และไม่ใช่แค่เรื่องอุปกรณ์ นิคอน ยังส่งผู้เชี่ยวชาญมาอบรมให้อีก พออุปกรณ์ดี มีความมั่นใจ ก็มีเวลาเอาไปครีเอทผลงานดีๆ นิคอนยังดูแลปรับปรุง Press Room ให้เรา ทำให้สื่อมวลชนทำงานง่ายขึ้น ผมเองก็เป็นสื่อมวลชนมาก่อน รู้ดีว่าส่วนมาก ช่างภาพก็เอาแต่ทำงานไม่ค่อยได้ดูแลอุปกรณ์ของตัวเอง มีนิคอนมาช่วยทำความสะอาดอุปกรณ์กล้องให้ก็ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญคือ นิคอน เป็นผู้สนับสนุนกีฬาระะดับเอเชียหลายรายการ อย่างถ้วย AFC ทำให้เราทำงานง่ายขึ้นอย่างเรื่องป้ายสปอนเซอร์ข้างสนามเวลามาแข่งที่สนามของเรา เพราะผู้สนับสนุนสอดคล้องเป็นรายเดียวกันอยู่แล้ว”
สำหรับ ผู้สื่อข่าว หลังจากนิคอนเข้ามาเป็นผู้สนับสนุน ก็มีการปรับปรุงของแถลงข่าวให้ดีขึ้น และมีรูปนักฟุตบอลแอ็คชั่นต่าง ๆ สับเปลี่ยนอยู่ตลอด รวมทั้งการเปิดมุม NPS- Nikon Professional Service ซึ่งในแมตช์สำคัญๆ จะมีบริการทำความสะอาดอุปกรณ์กล้องนิคอนโดยผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงให้ยืมเลนส์ที่เหมาะสมกับการถ่ายภาพกีฬา ขอเพียงมาลงชื่อติดต่อไว้ก่อน นับเป็นการเดินเกมที่ชาญฉลาดของนิคอน เพราะได้ภาพลักษณ์เรื่องของความเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงของการถ่ายภาพ ในเมื่อฟุตบอลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมที่รวดเร็ว ว่องไว และอยู่ห่างไกลจากนักเตะขนาดนี้ ช่างภาพยังเก็บภาพมาได้ รูปอื่น ๆ ก็ไม่ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว สำหรับกล้องนิคอน
ผู้ชม ได้เสพรูปและวิดีโอดี ๆ จากสโมสรอย่างเต็มอิ่มกว่าที่เคย แม้ว่าบางครั้งไม่ได้เข้าชมเกมด้วยตัวเอง แต่ก็สัมผัสบรรยากาศได้เต็มอรรถรสมากขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่นิคอนได้สิทธิ์ เช่น การเล่นเกมชิงบัตรในแมตช์ที่ตั๋วหายาก หรือโอกาสที่จะได้เข้ามาถ่ายภาพเกมร่วมกับช่างภาพระดับมืออาชีพแบบเกาะติดขอบสนามซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
กระแสโซเชี่ยลมีเดีย ดันกระแสกล้อง Pro “โต”
ความนิยมของ “ฟุตบอล” ส่วนหนึ่งก็มาจากสื่อออนไลน์ ที่ทำให้เรื่องของฟุตบอล ผลการแข่งขัน บทวิเคราะห์ ไฮไลท์เด็ด แพร่หลายมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่นเดียวกับพฤติกรรมการถ่ายรูปของคนรุ่นใหม่ จากเดิมที่มีผู้วิเคราะห์ว่า “สมาร์ทโฟน” จะทำให้กล้องดิจิทัล ถูกลดบทบาทลง เพราะโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ่ายเสร็จแต่งภาพ และโพสต์ขึ้นโซเชี่ยลมีเดียอวดชาวโลกได้เร็วทันใจ
แต่ความจริงแล้ว โซเชี่ยลมีเดียและสมาร์ทโฟน กลับทำให้ยอดขายของกล้องดีขึ้นต่างหาก กล่าวคือ ปีที่แล้ว นิคอนมียอดขายกล้อง DSLR ในแง่ของจำนวนลดลงเกือบ 10% แต่ในแง่ Value กลับเพิ่มขึ้น 15% เพราะกล้อง DSLR ระดับไฮเอนด์เป็นตัวผลักดัน
“สมาร์ทโฟนทำให้เกิดพฤติกรรมการถ่ายรูปเพิ่มขึ้น และเมื่อถ่ายรูปไประยะหนึ่งก็จะเกิดความต้องการภาพที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งผลักดันให้ Cycle ของกล้อง เปลี่ยน กล้อง DSLR อย่างรุ่น D750 ผลิตมาเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย ต่างประเทศก็งงว่าทำไมในประเทศไทยถึงเติบโตนัก ยิ่งเวลามีเทรนด์ถ่ายรูปอะไรที่โด่งดังขึ้นมาสักอย่าง เช่น ถ่ายแสงเหนือ ช่วงนั้นกล้องคุณภาพสูงๆ จะยิ่งได้รับความสนใจ และเมื่อคนถ่ายรูปมาแล้วโพสต์ใน โซเชียลมีเดีย คนที่ได้เห็นก็อยากจะไปตามรอย ทำให้การท่องเที่ยวและการถ่ายรูปได้รับความสนใจมากขึ้นมาก เช่นเดียวกับฟุตบอลที่แฟน ๆ ก็อยากจะถ่ายรูปนักฟุตบอลที่ตัวเองชื่นชอบ ยิ่งในการแข่งขันถ้วย AFC แชมเปี้ยน ลีก ที่ผ่านมามีช่างภาพไทยที่ถ่ายภาพ และโซเชี่ยลมีเดีย Official ของ AFC นำไปโพสต์ต่อ ก็ยิ่งกระตุ้นให้แฟนๆ อยากถ่ายภาพมากขึ้น” ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวงการกล้อง
หมายเหตุ: ภาพประกอบในบทความนี้ทั้งหมด ถ่ายทำด้วยกล้อง Nikon ดังนี้
NikonD5 – 300 f4
Nikon D3s – 14-24 f2.8 nano
Nikon D3s- 24-70 F2.8 nano
และรูปจาก Instagram jaychanathip