นับตั้งแต่ศูนย์การค้า “สยามดิสคัฟเวอรี่” พลิกโฉมวงการค้าปลีกให้เป็นมากกว่าแหล่งช้อปปิ้ง แต่เป็น “ห้องทดลอง” เปิดพื้นที่ศูนย์การค้าจัดกิจกรรมมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคแล้ว กลยุทธ์ตลอดจนแคมเปญการตลาดก็เรียกว่าได้ “ฉีกกรอบ” และ “สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง” ให้เกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคมเปญสุดร้อนแรงคงหนีไม่พ้น “Meet The Dream Makers” ที่ผสานโอกาสครอบรอบ 2 ทศวรรษสยามดิสคัฟเวอรี่ จึงได้รวบรวมแรงบันดาลใจจาก 20 Dreamers จากหลากหลายวงการทั้งดีไซน์ แฟชั่น ท่องเที่ยว กาแฟ มาเสิร์ฟแก่คนที่มีความฝันสไตล์ต่างๆ ตามแบบฉบับของตัวเอง
ล่าสุด Meet The Dream Makers ได้เดินทางมาถึงธีม “Art & Design” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 31 พฤภาคมนี้ ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นกิจกรรมไม่ธรรมดา ชนิดที่เหล่าสาวก บรรดาขาช็อป แฟนๆ Product Design จะต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะงานนี้หากใครที่เข้าไปชมจะต้องเต็มอิ่มกับผลงานของแบรนด์ไทยสุดเจ๋งที่ได้ไปโชว์ศักยภาพไกลถึง “ระดับโลก”
อลังการณ์แค่ไหน BrandBuffet ขอเก็บบรรยากาศเรื่องราว Art & Design บางส่วนของงานมาเรียกน้ำย่อย โดยขอเริ่มต้นด้วยการเอาใจคนรักศิลปะและงานแฮนด์เมด เตรียมตัวเวิร์คช็อปเรียนรู้งานกระดาษ Washi กับกูรูตัวจริงส่งตรงจากแดนอาทิตย์อุทัย
กล่าวกันว่ากระดาษ Washi ถือกำเนิดขึ้นประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 700 ในเมือง Awa (Tokushima) สมัยนั้นเป็นกระดาษที่กลุ่มคนชั้นสูง นักบวช และซามูไรใช้กัน จากนั้น Washi ได้เฟื่องฟูไปทั่วประเทศ สืบจนถึงปัจจุบันมีตระกูลFujimori เป็นผู้สานต่อพัฒนาทักษะงานช่างฝีมือ องค์ความรู้ และภูมิปัญญาในการทำกระดาษสืบทอดมาถึง 8 รุ่น โดยมีMinoru Fujimori เป็นผู้ควบคุมกิจการของตระกูลตั้งแต่ปี 1945 พร้อมสืบทอดภูมิปัญญาดั้งเดิมของ Awa washi ไว้
เมื่อการใช้กระดาษ Washi เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากที่เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ก็เริ่มนำมาประยุกต์ในงานฝีมือและงานตกแต่ง โดยผลงานที่โดดเด่นก็คือการพัฒนาเทคนิคการย้อมครามกับกระดาษ Washi จากการคิดค้นของ มร.Mieko ทายาทรุ่นที่ 7 ของ Awagami Factory ตามมาด้วยเทคนิคการย้อมสีด้วยมือแบบต่างๆ งานกระดาษของ Awa Washi จึงได้รับยกย่องให้เป็น Traditional Craft Industry โดย Tokushima Prefectural Government และเป็นกระดาษคุณภาพสูงที่เหล่าศิลปินชั้นนำระดับโลก จนถึงช่างภาพ นักออกแบบ คนทำหนังสือ จนถึงคนเก็บรักษางานศิลปะนิยมใช้ เพราะการันตีคุณภาพ 100%
ทาง Awagami พยายามเชื่อมวัฒนธรรมของกระดาษ Washi เข้ากับไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย โดยการพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ มากขึ้น มีการจัดนิทรรศการ และจัดเวิร์คช็อปให้ผู้คนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้เรียนรู้เทคนิคการทำกระดาษแบบงานฝีมือที่ทรงคุณค่านี้
และครั้งนี้ ที่ ODS ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ก็พร้อมแล้วกับการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้คนรักงานคราฟท์และงานศิลปะได้เรียนรู้เทคนิคและภูมิปัญญาการทำกระดาษแบบฉบับญี่ปุ่นที่เก่าแก่และดั้งเดิม จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงอย่าง“Awagami” ซึ่งนอกจากจะได้เจาะลึกกับการทำกระดาษดังกล่าว ผู้สนใจยังสามารถเลือกซื้อเลือกหาวัสดุสำหรับทำงานคราฟท์สไตล์ญี่ปุ่น รวมทั้งชุด Orizome-shi kit กลับไปทำเองที่บ้าน เพียงเข้าไปที่ป็อปอัพสโตร์ของ Awagami ที่ ODS ได้ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับกิจกรรมเวิร์คช็อปเอาใจอาร์ทเลิฟเวอร์จะมีทั้ง ‘ORIZOME-SHI’ DEMO and WORKSHOP กับ Mieko Fujimori of Awagami Papermill, Japan ในวันที่ 13 – 14 พฤษภาคม 2560 ที่ ODS ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ และกิจกรรม“The Space Between: Artworks on Awagami Paper” โดย Craig Anczelowitz ศิลปินชาวนิวยอร์ก ที่จัดแสดงผลงานในต่างประเทศมาแล้วมากกว่า 20 ปี และด้วยความที่เคยร่วมงานกับศิลปินระดับปรมาจารย์ ซึ่งได้ซึมซับเรื่องต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น อาทิ ศิลปะ หัตถกรรม การออกแบบ และปรัชญา นำมาถ่ายทอดลงบนกระดาษแฮนด์เมดจาก Awagamij วันนี้ถึง 31พฤษภาคม 2560 เป็นต้น
สัมผัสงาน Art ระดับโลกจากญี่ปุ่นกันแล้ว ลองเปิดประสบการณ์กับงาน Design ระดับโลก กันบ้าง
พูดถึงงานดีไซน์ เหล่าเทพดีไซเนอร์แห่งแวดวงตกแต่ง นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน สไตล์ลิตส์ ตลอดจนสื่อมวลชนสายออกแบบ ต้องนึกถึงเทศกาลออกแบบที่ “ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” อย่าง “Milan Design Week” ประเทศอิตาลี กิจกรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1961
แต่ละปี Milan Design Week จะกลายเป็นแหล่งรวมพลนักออกแบบนำผลงานร่วมจัดแสดงกว่า 2,000 แบรนด์ จาก156 ประเทศ และมีผู้เข้าชมจากทั่วโลกมากกว่า 300,000 คนต่อปี
เวทีแห่งนี้แจ้งเกิดนักออกแบบชื่อดังมาแล้วนับไม่ถ้วน และ Milan Design Week จึงกลายเป็นเทศกาลในฝันอันดับหนึ่งของนักออกแบบทั่วโลกที่อยากจะมีโอกาสเข้าร่วมจัดแสดงสักครั้งหนึ่งในชีวิต
แต่วันนี้คุณไม่ต้องไปไกลถึงมิลาน อิตาลี เมื่อสยามดิสคัฟเวอรี่ นำเสนอคอนเซ็ปต์ ‘Thai To Milan Exhibition’ มาให้ทุกคนได้ชิดขอบเวที พร้อมชวนทุกคนไปรู้จักกับ 4 Dream Makers ดีไซเนอร์ไทยที่ทำฝันตัวเองให้เป็นจริงกับการได้เป็นส่วนหนึ่งใน Milan Design Week มาแล้ว ได้แก่ Thinkk Studio, Studio 248, Trimode และ Fem by Aor Sutthiprapha
Thinkk Studio
Trimode
Studio 248
Fem by Aor Sutthiprapha
พวกเขาเหล่านี้ จะมาบอกเล่าแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ และวิธีการสานฝันให้เป็นจริงในหนทางของนักออกแบบไทยให้ก้าวไปยืนอยู่บนเวทีนานาชาติ
นอกจากนี้ ภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ยังมีกลุ่มสินค้าอีกหลากหลายประเภทที่ได้รับรางวัล Good Design Award, DEmark Award and Reddot Design Award ที่การันฝีมือของนักออกแบบไทยสู่เวทีโลกด้วย โดยสินค้าระดับรางวัลเหล่านี้ได้แทรกอยู่ทุกชั้นรอคุณมาค้นหา
ว่าแล้ว ก็อย่ามัวให้ความฝันตกหล่น รีบไปตามหาแรงบันดาลใจตักตวงเรื่องราวดีๆ ด้าน Art & Design “ระดับโลก” ที่สยามดิสคัฟเวอรี่กันได้ด้วยตัวเองกันเถอะ
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/siamdiscovery/