เวลานี้ “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กลายเป็นจุดหมายสำคัญของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน หลังจากก่อนหน้านี้ “Alibaba” เบอร์หนึ่งในตลาดการค้าออนไลน์จีน เผยแผนการลงทุนในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เริ่มจากการซื้อ “Lazada” เพื่อเจาะตลาดอาเซียน กระทั่งต่อมาได้เลือกมาเลเซีย เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าในตลาดภูมิภาคนี้ และความเคลื่อนไหวล่าสุดวางแผนเปิด Data Center ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียช่วงไตรมาส 1 ของปี 2018
ไม่เพียงแต่ “Alibaba” ที่โฟกัสภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกัน “JD.com” อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากแดนมังกร ที่เข้าไปปักธงในอินโดนีเซียแล้ว ก็วางแผนบุกหนักตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน
Richard Liu ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “JD.com Inc” อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน ที่มีขนาดธุรกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก Alibaba เผยยุทธศาสตร์ธุรกิจเตรียมลงทุนในประเทศไทยช่วงปลายปี 2017 โดยจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะต่อไปจะขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ เช่น เวียดนาม, มาเลเซีย
นอกจากการมองหาตลาดใหม่นอกประเทศจีน ที่ผ่านมา “JD.com” ได้เดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ท่ามกลางสมรภูมิรบที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค, อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ, ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงขยายไปสู่ธุรกิจ Data, Cloud และการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์
การลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับ “Alibaba” รวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เพราะการแข่งขันของโลกธุรกิจนับจากนี้ การมี Big Data และสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ถูกต้อง แม่นยำ จะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กรนั้นๆ