ในปัจจุบันการทำงานขององค์กรในโลกยุคดิจิทัลสามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยอาศัยการเสริมฟังก์ชั่นนวัตกรรมการทำงานในด้านต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ตลอดจนเสริมการทำงานอย่างชาญฉลาด (work smart) ให้กับองค์กรมากขึ้น
ทั้งนี้ อุปกรณ์ หรือดีไวซ์ (device) ที่ใช้ในการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าหากอุปกรณ์ดังกล่าวมีฟังก์ชั่นที่ดี และยิ่งมีฟีเจอร์พิเศษที่เสริมประสิทธิภาพการใช้งานได้ดีขึ้นได้ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อโลกการทำงานในยุคดิจิทัล เช่น ระบบทัชสกรีนหรือหน้าจอสัมผัส ระบบสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือเพื่อความปลอดภัยในการเข้าใช้งานดีไวซ์ปากกาที่ใช้ตรวจแก้ไขการทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ฯลฯ
นอกจากนี้ ในยุคที่ข้อมูล (Big data) เป็นฐานสำคัญของการนำข้อมูลต่างๆ มาใช้วิเคราะห์ควบคู่กับการทำงานก็สำคัญอย่างยิ่ง การดึงข้อมูลที่องค์กรได้เก็บรวบรวมไว้มาใช้ในแต่ละครั้งก็จะต้องเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าใช้งานมากขึ้น รวมถึงป้องกันการรั่วไหล หรือการโจมตีข้อมูลต่างๆ สู่ภายนอกองค์กร ซึ่งถ้าหากไม่มีระบบความปลอดภัยที่ควบคุมดีพอก็จะเกิดความเสียหายแก่องค์กรนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลความลับภายในองค์กรที่รั่วไหล ข้อมูลทางธุรกิจที่ใช้ในการแข่งขันกับคู่แข่งที่ในบางครั้งก็ไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ ตลอดจนทำให้ความน่าเชื่อถือของระบบการทำงานองค์กรลดลง ดังนั้นการลงทุนดีไวซ์ ที่มีฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ที่ดีเสริมการทำงานระดับมืออาชีพจึงคุ้มค่าอย่างมากกับการทำงานในยุคนี้ ถือเป็นการลงทุนในระยะยาวที่คุ้มค่า
ล่าสุด ไมโครซอฟท์ ได้แนะนำ ดีไวซ์ ที่ช่วยเสริมการทำงานแบบมืออาชีพ 2 รูปแบบ ประกอบด้วย กลุ่มพรีเมียม และกลุ่มอเนกประสงค์ โดยแนะนำอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก Windows 10 Pro ที่ตอบสนองการใช้งานแบบโปร หรือมืออาชีพ ซึ่ง Windows 10 Pro นี้จะสามารถทำงานได้ดีและเต็มประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมทันสมัย เหมาะสำหรับการทำธุรกิจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการระบบความปลอดภัยเพราะมีระบบ Security ดูแลข้อมูลตลอดเวลา นอกจากนี้ Windows 10 Pro ยังมีการอัพเดทการทำงานให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา สามารถเลือกใช้งานกับดีไวซ์ต่างๆ เช่น แล็ปท็อป ทูอินวัน ออลอินวัน โดยมาพร้อมคุณสมบัติแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน มีตัวประมวลผลที่เร็วกว่า และหน้าจอความละเอียดสูง
Device กลุ่มพรีเมี่ยม
ดีไวซ์ กลุ่มนี้ มีฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยหลากหลาย เช่น Windows Hello ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ โดยอุปกรณ์ที่น่าสนใจนำไปใช้ควบคู่ เช่น Lenovo X1 Yoga หรืออุปกรณ์ที่ช่วยระบุตัวตนด้วยระบบสแกนนิ้วมือ ก็สามารถเลือกใช้ Acer Switch 5 บน Windows 10 Pro
นอกจากนี้ ยังมีดีไวซ์พรีเมียมที่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยคุณสมบัติ ทั้งระบบสแกนนิ้วมือ (fingerprint) และพิมพ์รหัส (pin-pad) ร่วมกัน รวมถึงการปกป้องความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มรูปแบบด้วยระบบ ‘Sureview’ หรือหน้าจอที่สามารถป้องกันบุคคลรอบข้างไม่ให้เห็นข้อมูลบนหน้าจอได้อีกด้วย เช่น HP Elitebook 840 G4 และ HP Elitebook X360 ที่มีฟีเจอร์ Office Intelligence สามารถล็อคหน้าจอเครื่องโดยอัตโนมัติได้ผ่านการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นบนมือถือ เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการล็อกเครื่องมือผู้ใช้งานอยู่ห่างจากโน้ตบุ๊ค ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยของข้อมูลได้เป็นอย่างดี
แนะคาร์บอนไฟเบอร์หนุนน้ำหนักเครื่องเบา
ขณะเดียวกัน ดีไวซ์รุ่นพรีเมี่ยมที่ผลิตจากวัสดุพรีเมี่ยมคาร์บอนไฟเบอร์ยังทำให้น้ำหนักเครื่องเบาเหมาะสำหรับการพกพาใช้ในการทำงานตามสถานที่ต่างๆ โดยที่เห็นในตอนนี้ก็มีหลากหลายตัวเลือก เช่น Dell Latitude 12 7000 รุ่น 7275 และ Dell Latitude 13 รุ่น 7370 ที่มี Power Companion เหมาะสำหรับการพกพาเพราะมีคุณสมบัติเป็นทั้งแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คและแบตสำรองใช้งานกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ รวมถึงดีไวซ์เจเนอเรชั่นใหม่ HP Elite Slice ที่เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแต่ประสิทธิภาพสูงสุดแบบแยกส่วนหรือ Modular PC ระดับองค์กร
ดีไวซ์เอนกประสงค์
ตอบโจทย์ใช้งานหลากหลาย
สำหรับดีไวซ์แบบเอนกประสงค์ ก็มีหลากหลายคุณสมบัติ ที่ตอบสนองความต้องการใช้งานของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี โดยยังคงเรื่องระบบการทำงานที่มีความปลอดภัยของ Windows 10 Pro ที่ใช้กับดีไวซ์ที่น่าสนใจ เช่น Dell Latitude 3480 ที่มีระบบความปลอดภัย Dell Data Protection เหมาะกับการงานธุรกิจ โดยมีคุณสมบัติแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 13.5 ชั่วโมง หรือใช้บน Acer TravelMate P249 ที่มาพร้อมกับความปลอดภัยการทำงานด้วย Trusted Platform Module และ Acer ProShield
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกอื่นๆ เช่น Acer TravelMate X349 ที่มาพร้อมกับ Capacitive Sensor Finger Print Design ให้ความปลอดภัยสูงสุดและตอบสนองต่อการสแกนนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังมี HP Pro 440 G4 ที่มาพร้อม HP BIOSphere firmware ecosystem ที่มีการอัพเดทแบบอัตโนมัติพร้อม security checks ซึ่งเป็นชุดเฟิร์มแวร์ระดับแถวหน้าของวงการที่ช่วยปกป้อง BIOS จากการจู่โจม และคุ้มครองระบบและข้อมูลเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งยังมีดีไวซ์ที่สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบและทำงานได้อย่างคล่องตัว ตัวอย่างเช่น Dell AIO 3050 ที่มีระบบมัลติทัชสกรีน สั่งงานได้ด้วยปลายนิ้ว ทีละหลายจุด รวมถึง HP 280 G2 พีซีที่รองรับระบบการสั่งพิมพ์งานแบบไร้สายด้วย HP ePrint ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย และ Dell Vostro 3468 ที่มีหน้าจอลดแสงสะท้อน และมีช่อง DVD ช่วยให้การคัดลอกไฟล์สะดวก ตลอดจนยังมีดีไวซ์ที่มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวกใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น Lenovo ThinkPad 13 จอภาพขนาด 13.3 นิ้ว เหมาะต่อการพกพา และมีขนาดความบาง เพียง 19.8 มิลลิเมตร น้ำหนักเครื่องเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น
ขณะเดียวกันยังมีแล็บท็อป Lenovo ThinkPad Yoga 260 ที่พับได้ 360 องศา และสามารถเสริมออฟชั่นด้วย ThinkPad® Pen Pro ที่จะช่วยให้งานเขียนง่ายและสะดวกมากขึ้น ส่วนผู้ที่ชื่นชอบ Dell ก็ยังมีตัวเลือกรุ่น Dell XPS 13 ตัวเครื่องผลิตด้วยอะลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบหลัก มีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา หรือตัวเลือกที่มุ่งเน้นการใช้งานคีย์บอร์ดให้สะดวก เช่น Acer Swift 1 มีคีย์บอร์ดเรืองแสงใช้งานง่ายในที่แสงน้อย HP Probook 640 HP BIOSphere และ Lenovo ThinkPad E470 ที่มีคีย์บอร์ดแบบกันน้ำ ตลอดจน Lenovo ThinkPad E470 ที่มีกล้องวิดีโอความละเอียดสูง และไมโครโฟนแบบตัดเสียงรบกวน ทำให้การประชุมทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น