โฆษณาที่อยากให้คนจดจำได้มักทำอะไรแรงๆ เล่นกับความรู้สึกหรืออารมณ์ของคนดู ซึ่งสุ่มเสี่ยงมากที่จะเกิดความรู้สึกในแง่ลบซะมากกว่า โดยเฉพาะโฆษณาที่เซ็กซี่หรือหยิบเรื่องเพศมาพูดเกินจำเป็น ล่าสุดมีผลสำรวจออกมาแล้วว่าส่งผลร้ายมากกว่าดี จากการวิจัยโดย John Wirtz ศาสตราจารย์สาขาการโฆษณา Uiversity of Illinois จากการรวบรวมข้อมูลจาก 78 ผลสำรวจที่พูดถึงการเอาเซ็กส์มาผูกกับงานโฆษณา
ผลวิจัยครั้งนี้ชื่อว่า ‘The effect of exposure to sexual appeals in advertisements on memory, attitude, and purchase intention results’ พบว่าโฆษณาที่พูดเรื่องเพศไม่ได้ช่วยทำให้คนจดจำแบรนด์ได้มากขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่ได้ช่วยทำให้คนซื้อสินค้าด้วย โดยศาสตราจารย์ Wirtz กล่าวว่า “เราพบว่าโฆษณาที่มีการหยิบเอาเรื่องเพศมาพูดเพื่อดึงดูดความสนใจนั้นส่งผลเป็น 0 ในแง่ของความจูงใจให้คนไปซื้อสินค้า และแทบะไม่ได้สร้างผลดีแก่แบรนด์เลย”
ยกตัวอย่างโฆษณายาลดความอ้วนแบรนด์หนึ่งที่ชื่อว่า Protein World หลังปล่อยโฆษณาออกมาในปี 2015 ก็สร้างความฮือฮาในแง่ลบมากมายจากการนำผู้หญิงใส่บิกินี่มาขึ้นป้ายแล้วบอกว่ามีหุ่นที่พร้อมแล้วสำหรับไปทะเล Beach body ready ทำให้โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลมีเดีย และโดนคอมเพลนจากสมาคมมาตรฐานการโฆษณา (ASA)
ทำให้ ASA เล็งเห็นถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของโฆษณาแนวเซ็กซี่ที่ไม่จำเป็นจึงเริ่มทำงานตรวจสอบงานที่หยิบเรื่องเพศมาพูดและทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำหรือไม่เหมาะสมทางเพศ รวมไปถึงบางแบรนด์เองก็เริ่มตื่นตัวกับเรื่องนี้ อย่าง Unilever ที่ทำแคมเปญต่างๆ ที่พยายามพูดเรื่องการไม่แบ่งแยกเพศตั้งแต่ปี 2016 และทำอย่างต่อเนื่อง
แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM