ทรูมันนี่ ผู้นำบริการด้าน fintech และอีเพย์เมนท์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รุกสร้างตลาดด้วยการแต่งตั้ง 6 ตัวแทนเป็นขุนพลจัดหาพันธมิตรรับชำระเงินผ่าน ทรูมันนี่ และอาลีเพย์ วอลเล็ท ตั้งเป้าขยายฐานร้านค้าที่รับบริการชำระเงิน จาก 12,000 ร้านค้าเป็นกว่า 100,000 ร้านทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพื่อผลักดันและส่งเสริมนโยบาย National E-Payment และ Thailand 4.0 หวังกระตุ้น Cashless LIfestyle
นางสาวสราญรัตน์ ศรีจิรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า “สังคมไทยตอนนี้ยังเป็นสังคมเงินสด (cash economy) เราต้องการผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสด (cashless lifestyle) อย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรมในประเทศไทย ให้ตรงกับพันธกิจของ ทรูมันนี่ ที่ต้องการสร้างโอกาสให้ทุกคน ได้เข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการขยายจุดรับชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรืออีวอลเล็ท คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราในปีนี้ โดยได้ตั้งเป้าไว้ที่ 100,000 จุดรับชำระทั่วประเทศ ผ่านตัวแทนจำนวน 6 ราย โดยตัวแทนของ ทรูมันนี่ ทั้งหมดจะเป็นคนกลางในการประสาน สรรหาร้านค้า ธุรกิจบริการที่ได้คุณภาพและตรงกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้ ทรูมันนี่ วอลเล็ท รวมถึงร้านค้าที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อการชำระผ่าน อาลีเพย์ วอลเล็ท”
นอกจากการขยายเครือข่ายธุรกิจร้านค้า ทาง ทรูมันนี่ ยังคงมองหาตัวแทนอย่างเป็นทางการ ที่มีศักยภาพในการเสาะหาธุรกิจร้านค้า เพื่อเข้ามาเป็นพันธมิตรในการให้บริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน ทรูมันนี่ และอาลีเพย์ วอลเล็ท สำหรับบริษัทที่ได้รับมอบประกาศนียบัตร การแต่งตั้งตัวแทนผู้จัดหาเครือข่ายในการรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย 6 บริษัท คือ:
– บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด
– บริษัท ฮวนยูจิ จำกัด
– บริษัท จีมู่ อินเตอร์เน็ต เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท เพย์วิง (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด
– บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด
“ร้านค้าสามารถมั่นใจได้ว่า ตัวแทนอย่างเป็นทางการทั้ง 6 จะเป็นตัวแทนในการสรรหาธุรกิจร้านค้าต่างๆ ที่มีคุณภาพ ให้กับทรูมันนี่ และอาลีเพย์ วอลเล็ท รวมทั้งการสร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงผลประโยชน์ที่ร้านค้าจะได้รับจากการเข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย การเพิ่มโอกาส ในการสร้างรายได้ให้ธุรกิจมากขึ้น และเป็นการช่วยผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสดอย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรมในประเทศไทย ที่เห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น” นางสาวสราญรัตน์กล่าว
ด้านนางสาวพิภาวิน สดประเสริฐ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย – ANT Financial Services Group ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อาลีเพย์ (Alipay) กล่าวว่า “อาลีเพย์เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์ดิจิทัลสำหรับผู้ใช้ชาวจีนทุกรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้อาลีเพย์เป็นประจำ (active users) มากกว่า 450 ล้านคน และในจำนวนนี้ มีผู้ใช้อาลีเพย์ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยปีละเกือบ 10 ล้านคน และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี การขยายเครือข่ายร้านค้าและบริการที่รับชำระเงินด้วยระบบอาลีเพย์ที่ชาวจีนมีความคุ้นชินและชื่นชอบอยู่แล้ว จึงเท่ากับเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับร้านค้า ไปสู่ฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีน ทาง Ant Financial Services Group ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตของร้านค้า และหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ SME ไทยมีโอกาสได้ทดลอง เรียนรู้ และพัฒนาไปสู่โลกดิจิทัล ตามหลักการ Thailand 4.0 ของรัฐบาลไทย ทางเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับทาง ทรูมันนี่ เราเห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเชื่อมั่นในศักยภาพและมาตรฐานทางด้านการให้บริการทางการเงินของ ทรูมันนี่ ซึ่งดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์การให้บริการอีเพย์เมนต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเชื่อมั่นว่านอกจาก ทรูมันนี่ จะช่วยร้านค้าให้เติบโตจากรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนผ่านอาลีเพย์ วอลเล็ทแล้ว ทรูมันนี่ ยังสามารถสร้างโอกาสให้ร้านค้าเพิ่มช่องทางการตลาดสู่ผู้บริโภคชาวไทย ผ่านทาง ทรูมันนี่ วอลเล็ท อีกด้วย”
ทั้งนี้ ร้านค้าที่สนใจร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อรับชำระเงินผ่านอาลีเพย์ และ ทรูมันนี่ วอลเล็ท สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อีเมล acquiringteam@ascendcorp.com