สำหรับความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนมาจากองค์ประกอบหลากหลาย แต่กว่าที่หลายคนจะประสบความสำเร็จกับชีวิตได้ต้องผ่านกระบวนการคิดและวางแผนที่ดีอย่างเป็นขั้นเป็นตอน หรือกล่าวได้ว่าถ้าหากมีแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมความสำเร็จ ก็จะดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้เร็วขึ้น
การดำเนินชีวิตถือเป็นอีกกุญแจสำคัญที่จะไขประตูสู่ความสำเร็จ โดยในยุคนี้ก็มีเครื่องมือ (tools) ต่างๆเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการ และช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ ทั้งยังคอนโทรลกับสิ่งต่างๆให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้ ในปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่พวกเขาวางไว้โดยเฉพาะการประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ทั้งนี้ มีตัวอย่างไอคอนของคนยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวที่จะสะท้อนมุมมองความคิดตลอดจนการเติมเต็มไลฟ์สไตล์แปลกใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง
สตาร์ทอัพปั้นบริการหนุนดื่มไม่ขับ
อภินรา ศรีกาญจนา ผู้ร่วมก่อตั้ง U Drink I Drive บริการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนเมือง ที่ช่วยลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ อภินรา คือทายาทของบริษัท เอเชียประกันภัย ที่พิสูจน์ศักยภาพของเธอด้วยการปลุกปั้นธุรกิจ Startup ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนสายปาร์นี้ คือ U Drink I Driveซึ่งเป็นรูปแบบบริการพนักงานขับรถส่วนตัว ที่จะพาทั้งลูกค้าและรถส่วนตัวกลับไปยังบ้านของลูกค้า โดยชูหัวใจความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นหลักและเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบัน
“เชื่อไหมว่าด้วยนิสัยและทัศนคติคนไทยบางคนชอบมองว่าเมาแล้วขับรถกลับบ้านเองได้เป็นเรื่องเท่ แต่จากสถิติประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการโดนคนเมาขับรถชนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก จึงมองว่าเราควรจะทำอะไรซักอย่างเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ใช่รอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนแล้วประกันค่อยเข้าไปดูแล เราเลยคิดว่าควรเพิ่มทางเลือกให้กับคนเมืองเหล่านี้ ด้วยอะไรที่ทำให้เค้ารู้สึกปลอดภัยและก็ไม่ได้ทำให้เค้ารู้สึกเชยด้วย ซึ่ง U Drink I Drive น่าจะเป็นบริการที่เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี โดยเราอาจเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ของคนเมืองไม่ได้ แต่เราสามารถเพิ่มทางเลือก ด้วยบริการที่ทำให้ชีวิตพวกเค้าดีกว่าหรือปลอดภัยกว่าได้” อภินรา กล่าว
สำหรับการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ คือการให้บริการและดูแลความปลอดภัยให้ลูกค้าอย่างครบครันโดยใช้ธุรกิจประกันของครอบครัวเป็นเหมือนสปริงบอร์ดต่อยอดออกมาในรูปแบบใหม่ ซึ่งลักษณะการให้บริการของ U Drink I Drive มีพนักงานขับรถหญิงเพื่อความอุ่นใจของกลุ่มลูกค้าผู้หญิง และการให้บริการที่พรีเมียมระดับลิมูซีน ทั้งมารยาทการขับรถ การเปิดประตูรถบริการน้ำดื่มและผ้าเย็น โดยทุกๆ อย่างในช่วงแรกได้ลงไปดูแลเองทั้งหมดทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงคุณภาพและความเอาใจใส่ของการบริการและเกิดความประทับใจมากที่สุดน
“เพราะเราอยู่ในใจกลางเมือง อยู่บนพื้นที่ ที่ได้เห็นพฤติกรรมที่หลากหลายของคนเมืองก่อน นั่นคือโอกาสที่เราจะหยิบมาต่อยอดเป็นบริการใหม่ๆ”
ขณะที่ปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้เพราะมีโอกาสได้เข้าถึงแก่นแท้ของคนเมืองอย่างแท้จริงมาตลอด โดยอาศัยจากการที่เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในใจกลางเมืองใหญ่ จึงได้สังเกตและเก็บรายละเอียดความต้องการของผู้บริโภคมาพัฒนาการบริการที่สามารถตอบโจทย์ของหลายๆคนได้ ในปัจจุบันได้ขยายไลน์ธุรกิจเป็น U Sit I Drive ให้บริการ Drivers On Demand เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะขับรถพาลูกค้าไปโรงพยาบาล ไปร้านอาหารที่หาที่จอดยาก เอารถของลูกค้าไปล้างให้ ดังนั้นความสำเร็จที่เห็นจึงเกิดจากการดึงเอา Insight จากสิ่งรอบตัว เข้าไปใส่ในธุรกิจนั่นเอง
ดึงความรู้ – ประสบการณ์สานงานครอบครัว
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง CEO Agrifood Ltd.ที่เริ่มต้นจากการติดลบ 100 ล้าน สู่การเป็นผู้ผลิตน้ำมันรำข้าวอันดับ 5 ของโลก เริ่มก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจการเกษตรด้วยการสานต่อความฝันของคุณพ่อ จากความตั้งใจที่จะให้ “ข้าว” สินค้า Heritage ของไทยเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก จนปัจจุบันได้กลายเป็นผู้ผลิตชั้นนำในตลาดน้ำมันรำข้าวใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ และเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยจากประสบการณ์ที่เขาเคยได้ใช้ชีวิตเรียนหนังสือและฝึกงานอยู่ในต่างประเทศตั้งแต่เด็กจนโต จึงได้เห็นมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อคุณค่าของวัตถุดิบในท้องถิ่นที่นำมาสร้างมูลค่า เกิดเป็นโอกาสการสร้างคุณค่าของธุรกิจประเภทนี้ และเพิ่มมูลค่าให้กับรำข้าวไทย
“ผมมีความเชื่อมั่นในคุณค่าของข้าวไทย และอยากให้มันเป็นสินค้าที่คนรุ่นใหม่ก็เห็นความสำคัญด้วย” พิธา กล่าว
ในช่วงที่เขาอายุเพียง 25 ปี ไม่ได้เริ่มจากศูนย์แต่เริ่มจากติดลบ 100 ล้านแต่จากการที่ผมได้ศึกษาทำให้ได้รู้ว่าวัตถุดิบที่มีอยู่ภายในประเทศพร้อมกว่าต่างประเทศมาก และในเมืองไทยขณะนั้นยังไม่มีใครรู้จักน้ำมันรำข้าว รวมถึงนวัตกรรมการสกัดน้ำมันรำข้าวก็มีน้อยราย คู่แข่งก็เลยมีน้อยรายเช่นกัน จึงมองเห็นว่าสิ่งที่ครอบครัวทำอยู่มีมูลค่า และเห็นว่าเทรนด์โลกกำลังต้องการสิ่งที่จะทำ นั่นคือเทรนด์ของการดูแลสุขภาพ ดังนั้น ถ้าหากรู้จักสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างภาพลักษณ์ สร้างความแตกต่าง ให้กับวัตถุดิบที่มี เชื่อว่าธุรกิจก็สามารถไปได้ จึงเลือกเอาธุรกิจของคุณพ่อของเขามาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ เพราะขนาดของตลาดอาหารเพื่อสุขภาพทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท ทำให้มูลค่าของสินค้าจากน้ำมันรำข้าวสูงขึ้นไปหลายเท่าตัว
“ผมเชื่อว่าแม้ว่าเรารู้แค่สิ่งเล็กๆ แต่ถ้าเรารู้จริง สิ่งนั้นมันก็จะพาเราก้าวข้ามขีดจำกัดออกไปได้”
พิธา กล่าวอีกว่าโดยส่วนตัว เขาชื่นชอบและให้คุณค่ากับความเป็นHeritage หรือ ความละเมียดละไม เป็นศิลปะที่มีคุณค่าที่เหนือกาลเวลา เป็นพิเศษ แม้สไตล์การตกแต่งที่พัก ทั้งยังชื่นชอบเสน่ห์แบบสไตล์โคโลเนียลตลอดจนต้องมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผสมผสานกันไปด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายตามไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ซึ่งเชื่อว่าทั้งสองอย่างบวกกันมันจะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก
ไลฟ์สเปซกรุยทางสร้างความสำเร็จ
สำหรับ “ไลฟ์ วัน ไวร์เลส” คอนโดมิเนียม พื้นที่ชีวิตแห่งการสร้างความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ อีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่พิถีพิถันทุกขั้นตอนการออกแบบ บนเอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวสไตล์ Modern Thai Colonial และเป็นโครงการหนึ่งเดียวบนถนนวิทยุ ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางการใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่ครบครันทั้งธุรกิจและไลฟ์สไตล์ท่ามกลางบรรยากาศความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปีที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกที่ทรงคุณค่า สะท้อนความเป็น Heritage อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังผสมผสานความสะดวกสบายด้วยพื้นที่ส่วนกลางครบครันทั้ง Co-Working Space และ Wireless Social Club พร้อมชีวิตดิจิตอลที่รองรับด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ทำให้ “Life One Wireless” เป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง บนที่สุดของทำเล ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในมหานคร ซึ่งจะเปิดจองรอบพรีเซล ในวันที่ 29 ก.ค. นี้
ทั้งนี้ สามารถติดตามตัวตนของหลากหลายความสำเร็จ บนพื้นที่ที่เข้าใจและสร้างมาเพื่อรองรับความสำเร็จของคนยุคใหม่ และยังมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลในชีวิตจริงอื่นๆอีกมากมาย ที่ www.platformofsuccess.com
[Advertorial]