Photo Credit : Facebook Kingpowerofficial
หลังจากปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ “คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ” ด้วยงบลงทุน 2,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเปิดให้บริการวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยระหว่างปรับปรุงได้จัดเตรียมพื้นที่ภายในโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ให้เป็น Pop-up Store เพื่อให้ลูกค้ายังสามารถช้อปปิ้งได้ต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวล่าสุด “คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เผยว่าหลังปรับปรุงคิง เพาเวอร์ รางน้ำ จะคล้ายกับศูนย์การค้า แต่ยังไม่ถึงกับเป็นศูนย์การค้าชัดเจน โดยมีร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น ทั้งร้าน Street Food ชื่อดังที่คนไทยรู้จัก 18 ร้าน เช่น ผัดไทยประตูผี, เป็ดดินแดง, รองเมืองเกาเหลา พร้อมอีก 5 ร้านดังเจ้าใหญ่ เช่น สมบูรณ์โภชนา, ร้านอาหารไทยนารา, ร้านนันซึเท ราเมน
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มความหลากหลายของแบรนด์เนมมากขึ้น โดยจะมีแบรนด์ที่มีจำหน่ายอยู่แล้วที่คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ มาเปิดช้อปที่สาขารางน้ำ ขนาดพื้นที่ 300 – 500 ตารางเมตรต่อช้อป เช่น Prada, Gucci, Valentino, Armani ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ระดับโลกเหล่านี้ ตัดสินใจเปิดช้อปที่สาขารางน้ำ เนื่องจากความสัมพันธ์ที่มีมายาวนาน 28 ปี และแบรนด์ระดับโลกให้ความเชื่อมั่นในคิง เพาเวอร์ว่าสามารถดึงลูกค้าเข้ามาช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่อง ทั้งคนต่างประเทศ ไม่ว่าจะคนจีน หรือนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ และคนไทย ที่ทุกวันนี้มีการเดินทางมากขึ้น
เมื่อปรับปรุงเสร็จ ภายในมี 3 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 จำหน่ายสินค้า Luxury Brand และแบรนด์เนม พร้อมทั้งมีพื้นที่ FIT Lounge รองรับคนต่างประเทศ ขณะที่ชั้น 2 เป็นโซนนาฬิกา, โซนสินค้าแฟชั่นหมวดต่างๆ เช่น สินค้ากีฬา และโซนน้ำหอม-เครื่องสำอาง
ต่อด้วยชั้น 3 ประกอบด้วย โซนจำหน่ายสินค้าไทย เช่น OTOP และเพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าที่มาช้อปปิ้ง จะมีวีดีโอฉายการทำงานหัตถกรรมของไทย เช่น ทอผ้าไหมไทย และสาธิตวิธีทำขนมให้ดู ณ จุดขาย เช่น ทองม้วน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นเรื่องราวผลิตภัณฑ์ของไทย ขั้นตอนการทำ, โซนจำหน่ายไวน์ – สุรา และโซนร้านอาหารที่รวบรวมร้านชื่อดัง และร้านรามายณะ พร้อมด้วยโรงละครอักษรา
Photo Credit : King Power
ขณะที่โดมชั้น 1 มีร้านสตาร์บัคส์ และร้านขนมต่างๆ ส่วนโดมชั้น 2 เตรียมไว้สำหรับลูกค้าคนไทยที่เป็นสมาชิกคิง เพาเวอร์
ทั้งนี้ ปัจจุบันลูกค้าของคิง เพาเวอร์ กลุ่มหลักยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีน คิดเป็นสัดส่วน 50% ตามมาด้วยกลุ่มคนไทย 15% ส่วนอีก 35% เป็นกลุ่มคนยุโรป และ AEC
ส่วนกรณี “ท่าอากาศยานไทย” หรือ “ทอท.” เตรียมจะเปิดประมูลโครงการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ขณะนี้ “คิง เพาเวอร์” มีความพร้อมเข้าประมูลเต็มที่ โดยคาดว่าผู้ที่ยื่นประมูลครั้งนี้ เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Lotte, Shilla, Central และ The Mall