HomeCreativity“Money Fight” ระหว่าง Floyd Mayweather และ Conor McGregor แบรนด์ไหนได้ แบรนด์ไหนเสีย

“Money Fight” ระหว่าง Floyd Mayweather และ Conor McGregor แบรนด์ไหนได้ แบรนด์ไหนเสีย

แชร์ :

 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การชกระหว่าง Floyd Mayweather Jr. แชมป์โลกไร้พ่าย และ Conor McGregor แชมป์ MMA นับคู่มวยหยุดโลก ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Money Fight” เพราะการชกคู่นี้เกิดขึ้นมาได้เพราะเงินล้วนๆ ไม่มีเข็มขัดแชมป์จากสมาคมใดๆ ทั้งสิ้น(ถึงจะมีเข็มขัดที่สั่งทำพิเศษเพื่องานนี้ก็เถอะ) แต่ด้วยค่าจ้างมหาศาลที่ถ้าฝั่ง Mayweather น่าจะได้รายได้ถึง 400 ล้านเหรียญ และด้าน McGregor น่าจะได้ประมาณ 100 ล้านเหรียญ ทำให้การชกมวยคู่นี้กลายเป็นพื้นที่ของการสร้างแบรนด์และเอนเตอร์เทนเมนต์รูปแบบใหม่ไปเลย

เริ่มจากตัวอีเว้นท์นี้เอง ที่ปั่นกระแสตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคม ด้วยตระเวนเดินสายจัดงานแถลงข่าว โดยรวมแล้วก็ 4 ครั้งในเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น ลอสเองเจลลีส ลอนดอน แต่ละครั้งที่จัดงานแถลงข่าวทั้งคู่ฟาดปากถากถางกันและกันอย่างดุเดือด นอกจากนี้ยังมีแอ็คชั่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตั้งใจนั่งยกเท้าขึ้นบนโต๊ะ หรือเดินไปลูบหัวกันก็มี เรียกได้ว่าถ้าไม่เตี๊ยมกันมาก่อนคงซัดกันเวทีถล่มไปแล้ว

และเมื่อมาถึงการถ่ายทอดสดที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 26 สิงหาคมนี้(ตามเวลาที่ลาสเวกัส) การชกมวยคู่นี้ก็น่าจะเก็บค่าลิขสิทธิ์จาก pay-per-view ได้มากกว่าเมื่อครั้ง Mayweather ชกกับ  Manny Pacquiao เมื่อเดือนพฤษภาคม 2015 ซึ่งในครั้งนั้นทำเงินไปมากถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังไม่รวมกับค่าบัตรเข้าชมที่ราคาหน้าบัตรเริ่มต้นตั้งแต่ 1,400 เหรียญแบบไกลลิบ จนถึงริงไซต์ 17,000 เหรียญ และแน่นอนว่าถ้าราคาตั๋วผีก็กระโดดไปอีกไม่รู้กี่เท่า

ว่าด้วยเรื่องสปอนเซอร์ส่วนตัวของนักชกทั้งสอง ทั้งคู่มีฐานแฟนในโซเชี่ยลมีเดียรวมกัน 55 ล้านราย โดยทางฝั่งของ Conor Mcgregor มีแฟนมากกว่า ดังนั้นจึงเป็นที่มาของผู้สนับสนุน อย่างเช่น

Beats by Dre ที่เล่าเรื่องว่าเป็นตัวช่วยให้ Conor McGregor มีสมาธิก่อนขึ้นชก ซึ่งเพียงปล่อยภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวออกมาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ก็มีผู้ชมทะลุ 2 ล้านวิวภายใน 3 วัน

https://www.youtube.com/watch?v=nRKeamyoTsQ

– เครื่องดื่ม Monster กับแคมเปญ #IAmTheBeast

#IAmTheBeast – Representing @MonsterEnergy since day 1! #ad

A post shared by Conor McGregor Official (@thenotoriousmma) on

– สงสัยว่า Conor McGregor จะยิ้มสวยฟันขาวหรือยังอย่างไรก็ไม่รู้ อีกสินค้าหนึ่งที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์เขาก็คือ ยาสีฟัน hismileteeth

Do you get your toothpaste delivered? @hismileteeth #hismile #teethwhitening #toothpaste #ad

A post shared by Conor McGregor Official (@thenotoriousmma) on

ในขณะที่ Floyd Mayweather Jr. อาจจะมีเสน่ห์น้อยกว่า Mcgregor จนทำให้แบรนด์ใช้เขาในฐานะพรีเซนเตอร์ไม่มากนัก แต่ในแมตช์ที่ผ่านมาของเขากับแมนนี่ ปาเกียวก็มีผู้สนับสนุนในรูปแบบอื่นๆ เช่น Burger King ยอมจ่ายถึง 1 ล้านเหรียญเพื่อส่ง King มาเดินร่วมขบวนทีมงานของ Mayweather เพื่อขึ้นเวที รวมทั้ง FanDuel ที่มีป่ายติดอยู่ที่กางเกงขึ้นชก ครั้งนี้ก็ต้องรอดูว่าเมื่อถึงเวลาขึ้นชกจริง จะมีผู้สนับสนุนในลักษณะนี้โผล่มาบ้างไหม

 

ในประเทศไทยมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง WorkPoint Entertainment ช่อง 23 ซึ่งระยะหลังก็ให้ความสำคัญกับคอนเทนท์กีฬาและมวยมากขึ้น นอกจากนี้ยังถ่ายทอดสดผ่านทาง LINE Today ซึ่งก็น่าจะทำให้เกิดการทดลองใช้งานของฐานผู้ชมรายใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ชาย ซึ่งปกติคอนเทนท์ใน LINE TV เน้นหนักไปทางซี่รี่ส์หรือรายการเอนเตอร์เทนเมนท์ ทำให้โดนใจผู้ชมผู้หญิงมากกว่า งานนี้ก็จะช่วยสร้างพฤติกรรมการดูกีฬาผ่านทางไลน์ไปด้วย

 

แบรนด์ที่เสียหายจากการชกมวยของคู่นี้ก็คือ HBO ที่จัดมวยคู่เอกอีกคู่ระหว่าง Gennady Golovkin กับ อดีตแชมป์โลก Canelo Alvarez ซึ่งนับเป็นคู่มวยที่มีคนสนใจมากที่สุดอีกคู่หนึ่ง แต่พอโดนมวยคู่ Mayweather กับ McGregor ซึ่งกระแสแรงกว่าตัดหน้าไปแบบนี้ ก็น่าจะทำให้คนเห่อคู่หลังน้อยลง จนถึงขั้นที่ว่ากันว่า HBO อาจจะไม่สามารถเก็บเงินค่ารับชมได้ตามเป้าเลยทีเดียว

 

Source

Source


แชร์ :

You may also like