หลังจากที่มีข่าวเครือไทยเบฟฯ การเข้าซื้อกิจการสาขาของ KFC ในประเทศไทย ที่เดิมอยู่ภายใต้การบริหารของ “บริษัท ยัม เรสเตอรองท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)” จำนวนประมาณ 240 สาขา โดยทาง ยัม เรสเตอรองท์ จะทำหน้าที่ดูแลเฟรนไชส์เท่านั้น จนเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาว่า ไทยเบฟฯ ซึ่งมีธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ Est อยู่แล้ว จะผลักดันเครื่องดื่มของตัวเองเข้ามาขายในร้านสาขาดังกล่าวหรือไม่ หรือจะต้องเป็นดีลที่ตกลงกันในระดับ Global ซึ่งเดิมทาง KFC จำหน่ายเครื่องดื่ม Pepsi ล่าสุดเพื่อความชัดเจน สยบข้อสงสัยทุกประการ ทางเป๊ปซี่ และเคเอฟซี ได้ควงคู่กันออกมาประกาศการต่อสัญญาให้บริการเครื่องดื่มเป็นเวลา 5 ปี
ทั้งนี้ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด โดย นายโอเมอร์ มาลิค กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มได้ตอกย้ำการเป็นพันธมิตรระดับโลกอย่างเป็นทางการโดยประกาศต่อสัญญากับ “เคเอฟซี” ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน นำโดย นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนจากแฟรนไชส์ นางกิตติยาภรณ์ กุลไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ แบรนด์เคเอฟซี บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด และนายแอนดรูว์ นอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เพื่อให้บริการเครื่องดื่มน้ำอัดลมในเครือ ทั้งเป๊ปซี่ มิรินด้า และเซเว่น-อัพ กับลูกค้าของร้านเคเอฟซีทั้ง 601 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงสาขาที่จะเปิดเพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมดำเนินกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกันตลอดระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2560 – 2564)
ปัจจุบันร้านเคเอฟซีในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 601 สาขา* แบ่งเป็นสาขาของ บริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 247 สาขา สัดส่วน 41% บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด 224 สาขา สัดส่วน 37% และ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด 130 สาขา สัดส่วน 22%