TPLAS 2017 งานจัดแสดงเฉพาะทางเพื่ออุตสาหกรรมพลาสติกและยางที่จะจัดขึ้นเป็นเวลาสี่วัน ระหว่างวันที่ 20 – 23 กันยายน เป็นงานจัดแสดงสินค้าชั้นนำที่นำเอานวัตกรรมและโซลูชั่นระดับโลก รวมไปถึงเครื่องจักรและเครื่องมือทันสมัยจากหลากหลายบริษัทที่มีชื่อเสียงทั่วโลก โดยงานจะจัดแสดงสินค้าแบบครบวงจรสำหรับภาคส่วนพลาสติก ตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงผู้ผลิตเครื่องจักร ทำให้งานจัดแสดงนี้เป็นงานที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ผลิต และผู้บริโภคจากอุตสาหกรรมพลาสติกและยางให้เป็นงานระดับภูมิภาคที่ต้องเข้าเยี่ยมชม
ทีพลาส เป็นงานจัดแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง โดยในครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้จัดแสดงสินค้า 250 บริษัท จาก 20 ประเทศ และพาวิลเลี่ยนประจำชาติและกลุ่มประเทศจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน รวมไปถึง จีน และเยอรมันที่จะเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าครั้งนี้เป็นครั้งแรก
เพื่อส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจ ไทยแลนด์ 4.0 ทีพลาสจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมอุตสาหกรรรมที่สำคัญทั้ง 10 ภาคส่วน ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์เพื่ออนาคต สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ยานอวกาศ รวมไปถึง พลังงานชีวภาพและเคมีชีวภาพ ทีพลาสจะเป็นผู้บุกเบิกภาคส่วนที่มีศักยภาพในประเทศไทย รวมทั้งอุตสาหกรรมพลาสติกและยางที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาค โดยนำเสนอห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมพลาสติก ตั้งแต่วัตถุดิบ ไปจนถึงผู้ผลิตเครื่องพลาสติก ผู้ทำหน้าที่ผสมและดัดแปลงวัตถุดิบ ผู้จัดจำหน่าย และผู้บริโภค
ด้วยนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ระบบเศรษฐกิจได้รับการกระตุ้นจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโอกาสมากมายให้แก่นักลงทุนจากต่างประเทศ รวมไปถึงการเสริมความแข็งแกร่งด้านความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทในอุตสาหกรรมพลาสติกและยางของภูมิภาค
“ทีพลาส 2017 จะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์ม และศูนย์กลางตลาดสำหรับบริษัทในประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านเครื่องมือที่ทันสมัยซึ่งจะช่วยส่งเสริมพวกเขาให้ก้าวทันยุค ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมทั้งเพิ่มผลิตผลและยกระดับคุณภาพให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะส่งผลต่อประเทศไทยในการพัฒนาสู่การเป็นประเทศอัจฉริยะ” มร. แกรน๊อต ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย
การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างภาคส่วน สำหรับห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลาสติกและยาง
ทีพลาส 2017 จะจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย
ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นของบริษัทด้านห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลาสติกในประเทศไทย ที่กำลังมองหาเทคโนโลยีและโซลูชั่นใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยสนับสนุนกระบวนการทำงานเมื่อต้องเจอกับโครงสร้างใหม่ๆ ทั้งหมดนี้จะถูกนำมาจัดแสดงที่งาน ทีพลาส 2017 โดยเน้นไปที่ 6 ภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์ พลาสติกชีวภาพ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ ไลฟ์สไตล์ และบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีเทรนด์ของอุตสาหกรรมพลาสติกคอมโพสิตที่มีอัตราการเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่น การจัดแสดงยังรวมไปถึงโซลูชั่นด้านนวัตกรรม และวัสดุสำหรับกระบวนการผลิตของส่วนประกอบที่มีคณภาพต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 4.0 นำมาซึ่งความทันสมัย และยกระดับขีดความสามารถของกระบวนการผลิตและผลิตผลของระบบเศรษฐกิจให้กับอุตสาหกรรมพลาสติกและยางของประเทศไทย
นายดนู โชติกพนิช นายกสมาคมไทยคอมโพสิท กล่าวว่า “พลาสติกคอมโพสิทซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือเบาแต่แข็งแรง เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในภาคส่วนยานยนต์ การบิน อิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ และส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ การพัฒนาระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนคอมโพสิทจะทำให้สามารถผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาระดับคุณภาพ ต่อยอดสู่ คอมโพสิท 4.0 ต่อไป”
ทีพลาส 2017 เป็นอีกหนึ่งเวทีเพื่อสร้างเครือข่ายสำหรับบริการจับคู่ทางธุรกิจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยสร้างสัมพันธ์ที่เหมาะสมระหว่างผู้ขาย และพัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจในระดับประเทศสำหรับห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลาสติกและยาง ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรนานาชาติหลากหลายองค์กรที่ดำเนินธุรกิจตามแนวคิด อุตสาหกรรม 4.0 โดย ทีพลาส 2017 จะยังเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อให้บริษัทท้องถิ่นได้มีโอกาสพัฒนาธุรกิจในระดับโลกโดยจะมีการประเมินกลยุทธ์ และเป็นแหล่งรวบรวมการอัพเกรดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รวมไปถึงกลยุทธ์การพัฒนาตลาดจากทั่วโลก
ประเทศไทย ผู้นำด้านฐานการผลิตของภูมิภาค
ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านฐานการผลิตพลาสติกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีความสามารถด้านโครงสร้าง และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการพลาสติกและยางที่เพิ่มขึ้นสำหรับตลาดการส่งออกของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในระดับภูมิภาค เอเซียนถือเป็นตลาดกำลังพัฒนาที่มาพร้อมกับโอกาสที่สำคัญทางด้านผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบสำเร็จรูป และส่วนประกอบพลาสติกที่มีความซับซ้อน ด้วยความได้เปรียบจากสภาพภูมิประเทศ ประเทศไทยยังเป็นที่รู้จักในนามของ “ประตูสู่เอเชีย” และได้รับประโยชน์จากสถานที่ตั้งซึ่งเป็นประเทศที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันเฉียงใต้ และเอเชียใต้ อีกทั้งยังมีแผนการลงทุนสำหรับโครงการใหญ่อย่าง โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
เพื่อส่งเสริมกับโครงการต่างๆในประเทศ ทีพลาสจะเป็นงานจัดแสดงที่รวบรวมเทคโนโลยี นวัตกรรม เครื่องจักร เครื่องมือ ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ล่าสุด สำหรับภาคส่วนพลาสติกและยาง และจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ให้บริการครบวงจรที่ตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี ทีพลาส 2017 จะยังเป็นแพลตฟอร์มการพบปะสำหรับอุตสาหกรรมและเครือข่าย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ ถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมในปัจจุบันและอนาคต
นายจิรุตถ์ อิศรางกูณ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่า ครั้งนี้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหม่ของ ทีพลาส 2017 สืบเนื่องมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะงานจัดแสดงสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยางในภูมิภาค นอกจากนี้งานจ้ดแสดงยังได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ชมที่มีคุณภาพและตรงตามเป้าหมาย”
“การสนับสนุนงานจัดแสดงอย่าง ทีพลาส ถือเป็นจุดประสงค์หลักของ สสปน. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา และช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนงานจัดแสดงและธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม ด้วยโครงการต่างๆ อาทิ แคมเปญสื่อสารประเทศไทย THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” นายจิรุตถ์ กล่าวเสริม
งานที่ร่วมจัดพร้อมกันภายในงาน T-PLAS 2017
ภายในงาน ที-พลาส 2017 นอกจากจะมีการจัดแสดงสินค้าแล้ว ยังมีการสาธิตผลิตภัณฑ์และให้บริการเคลื่อนที่ การนำเสนอด้านเทคนิค การสัมมนานำโดย 6 ผู้เชี่ยวชาญในวงการพลาสติกและยาง รวมทั้งการสัมมนาในหัวข้อต่างๆ อาทิ การให้ความรู้เพื่อกระบวนการผลิตอย่างมืออาชีพจากภาคการออกแบบแม่พิมพ์พลาสติกภายใต้หัวข้อ การออกแบบแม่พิมพ์และปัญหาสำหรับการใช้ซอฟต์แวร์ในกระบวนการฉีดพลาสติกจำลอง และ การสัมนาวิเคราะห์และแก้ไขปัญหากรรมวิธีการเป่าพลาสติขึ้นรูป ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย ซึ่งการสัมมนาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคล่าสุดและนวัตกรรมก้าวหน้าในวัสดุพลาสติก การออกแบบ และการกระบวนการผลิต
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน กรุณาเยี่ยมชมเวบไซด์ของเรา ที่ www.tplas.com