เทรนด์แฟชั่นนับเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่จะนำไปต่อยอดและพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้จัดกิจกรรมระดมสมองสังเคราะห์เทรนด์แฟชั่นและวัตถุดิบ โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและอุตสาหกรรมแฟชั่น นักออกแบบสินค้าแฟชั่น และสมาคมในอุตสาหกรรมแฟชั่น มาร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูล ตลาด ความต้องการ รวมทั้งมีการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น เจ้าของแบรนด์สินค้าแฟชั่นที่มีชื่อเสียงของไทย ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษาด้านแฟชั่น จนได้บทสรุปเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นประจำฤดูกาล Spring Summer 2018 ของไทย 4 เทรนด์ด้วยกัน ซึ่งจะจัดแสดงให้ผู้สนใจเข้าชมที่นิทรรศการแนวโน้มแฟชั่นปี 2018
สำหรับเทรนด์แฟชั่นทั้ง 4 ประกอบด้วย เทรนด์แรก Ordinary East นำเสนอแนวคิดจากความเป็นชาติพันธุ์ตะวันออก การย้อนกลับสู่ความเป็นชาติตะวันออก การดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย การไม่ปรุงแต่ง การอยู่กับธรรมชาติ ให้ความสาคัญกับการสัมผัส มีความเหนือกาลเวลา ดีไซน์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง สีที่ใช้เป็นสีโทนร้อน เช่น กลุ่มสีเหลือง ส้ม แดง กลุ่มสีเอิร์ธโทน และใช้สีทอง เงิน เทาอ่อนเป็นสีพื้นฐาน
เทรนด์ที่สอง Asian Resonation มีการหวนรำลึกถึงอดีต ความเป็นวัฒนธรรมของชนชาติอาเซียน การมองหาตัวตนของชนชาติอาเซียน ความแข็งแรง อัตลักษณ์ต่างๆ ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปหลังจากได้รับอิทธิพลจากภายนอก การผสมผสานของชาติพันธุ์จนไม่สามารถแยกเชื้อชาติได้ สีที่ใช้เป็นกลุ่มสีแดง เหลือง ส้ม เน้นด้วยสีกลุ่มอินดิโก้ น้ำเงิน ฟ้า คราม และใช้สีขาว ดำ เทา เป็นสีพื้นฐาน โดยแบ่งกลุ่มสีชัดเจนระหว่างชายและหญิง
เทรนด์ที่สาม Generation Art เป็นเทรนด์ที่มีการผสมผสานระหว่างเจนเนอเรชั่นเด็กและผู้ใหญ่ การกระตุ้นความน่าสนใจด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีความแปลกใหม่ งานศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การเพิ่มนวัตกรรมให้งานศิลปะมีความทันสมัยและดูเท่ ความไม่ยึดติดกับแบรนด์ยึดติดกับกระแส มีการใช้สีในกลุ่มสีชมพู เหลือง ส้ม แดง ม่วง ฟ้า และมีสีดำ เทา ทอง เป็นสีพื้นฐาน
เทรนด์ที่สี่ Man-Made Utopia เน้นการให้ตนเองเป็นศูนย์กลาง การสร้างโลกในอุดมคติ การปรุงแต่ง การศัลยกรรม การเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งรอบตัวให้เข้ากับตัวเอง การสร้างสรรค์ธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวด้วยฝีมือมนุษย์ การลวงตา ความไม่จริง การปรับเปลี่ยนตลอดเวลา การใช้สิ่งตรงข้ามในการนำเสนอ สีที่ใช้เป็นกลุ่มสีสังเคราะห์ ส้มอิฐ ม่วง น้ำตาล ชมพู มีกลุ่มสีเอิร์ธโทน น้ำตาล ดำ เทา เป็นสีพื้นฐาน เน้นด้วยสีคราม และฟ้าอ่อน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ข้อมูลเทรนด์ที่จะนำเสนอในนิทรรศการแนวโน้มแฟชั่นปี 2018 นับว่ามีความน่าสนใจและจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการแฟชั่นเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นอกจากเทรนด์แฟชั่นแล้ว ในนิทรรศการนี้จะนำเสนอผลการวิจัยและความต้องการของตลาด 2 ประเทศ คือ ไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประเทศไทย และกรมอุตสาหกรรมการผลิต กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น โดยได้มีการนำผลวิจัยไปพัฒนาออกมาเป็น Functional Textile หรือสิ่งทอที่มีคุณสมบัติสำหรับการใช้งานเฉพาะด้าน
“Functional Textile จะช่วยตอบสนองผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการที่แตกต่างกันจากพื้นฐานภูมิอากาศที่ต่างกัน หรือลักษณะอาชีพต่างกัน ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก มีการคิดค้นสำเร็จแล้วหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งทอสำหรับผลิตเครื่องแบบของผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนซึ่งได้มีการพัฒนาเนื้อผ้าให้ระบายอากาศได้ดี สิ่งทอสำหรับผลิตชุดกีฬากลางแจ้งที่มีการใส่สารป้องกันยูวี หรือเติมสารให้ความชุ่มชื้น หรือสิ่งทอสำหรับผลิตถุงเท้าสำหรับผู้ที่ต้องยืนเป็นเวลานาน เช่น พยาบาล ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี เป็นต้น โดยการจัดแสดง Functional Textile ครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Sport Ware, Uniform, Inner Ware และ Home Textile ซึ่งผู้ประกอบการในวงการแฟชั่นไม่ควรพลาดหากกำลังมองหาสิ่งทอที่มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อนำไปออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ของตนเองมีการใช้งานที่แตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายทั่วไป เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี” นางมาลี กล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการแนวโน้มแฟชั่นปี 2018 และ Functional Textile ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ “STYLE” ระหว่างวันที่ 17-21 ตุลาคมนี้ ที่ฮอลล์ 98-104 ไบเทค บางนา