หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศสนับสนุนการใช้ QR Code มาตรฐานในการใช้จ่าย จะเห็นได้ว่ามีการตอบรับที่ดีจากภาคประชาชนและสถานบันการเงิน กสิกรไทยช่วงชิงความได้เปรียบในฐานะเบอร์หนึ่งในตลาดและมีฐานลูกค้าใช้ K PLUS ซึ่งเป็นโมบายแบงกิ้งเบอร์ 1 ที่มีผู้ใช้มากกว่า 6 ล้านราย ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่น K PLUS SHOP ไว้รองรับการใช้จ่ายด้วย QR Code ผ่านโมบายแบงกิ้งและ e-Wallet เจ้าต่างๆ
ในสมรภูมินี้ กสิกรไทยเลือกที่มั่น 3 จุดยุทธศาสตร์ ได้แก่ สยามสแควร์ ตลาดนัดจตุจักร และแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ที่มีร้านค้ารวมกันมากกว่า 10,000 ร้านค้า อีกทั้งยังตรงกับกลุ่มเป้าหมายของ K PLUS SHOP คือร้านค้าขนาดย่อมที่มียอดรับโอนไม่เกิน 50,000 บาท/รายการ โดยหลังเปิดตัวเพียง 1 สัปดาห์ก็มีร้านค้าตอบรับเลือกใช้ K PLUS SHOP แล้วมากกว่า 2,000 ร้านค้า และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมกับ After You แบรนด์ร้านขนมชื่อดัง จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้จ่ายด้วยการสแกน QR Code ผ่าน K PLUS หรือที่เรียกว่า “ยิงปิ๊บ จ่ายปั๊บ” ครบ 200 บาท/ใบเสร็จ รับฟรี เครื่องดื่ม Strawberry Frappe หรือ Ice Matcha Latte 1 แก้ว สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัดที่สาขาสยามสแควร์วัน ซึ่งนี่จะเป็นการสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายผ่าน QR Code ที่น่าประทับใจ เพราะทำให้ลูกค้าเห็นถึงความสะดวกรวดเร็ว และความปลอดภัยของการจ่ายเงินด้วย QR Code
คุณพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เล่าว่า ทุกวันนี้ผู้คนมีความคุ้นชินกับการใช้โมบาย แบงกิ้งเป็นอย่างดี กสิกรไทยเองก็มีผู้ใช้ K PLUS ถึง 6 ล้านราย แค่ครึ่งปีแรกก็มีการทำรายการผ่าน K PLUS มากกว่า 1,260 ล้านรายการ ดังนั้น โจทย์หลักในครั้งนี้ จึงเป็นการสร้างพฤติกรรมการใช้จ่ายด้วยการสแกน QR Code ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ ธนาคารจึงเลือกที่จะเจาะกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น และการเดินทางสาธารณะอย่างวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพราะร้านค้าเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย ดังนั้นการนำร่อง K PLUS SHOP กับร้านค้ากลุ่มนี้ จะสามารถสร้างความคุ้นเคยกับการใช้จ่ายผ่านการสแกน QR Code ได้เป็นอย่างดี
กสิกรไทยเชื่อว่าคนไทยจะตอบรับการใช้จ่ายผ่าน QR Code เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว เพราะช่วยลดปัญหาเรื่องการต้องพกเงินสดจำนวนมาก หรือการหาตู้ ATM ไม่เจอยามฉุกเฉิน ในด้านร้านค้าก็สะดวก เพราะไม่ต้องเตรียมเงินทอน รวมถึงไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ในการรับชำระด้วย QR Code ของ K PLUS SHOP ธนาคารเองได้ตั้งเป้าจำนวนร้านค้าที่ใช้งาน K PLUS SHOP ที่ 200,000 ร้านค้า และคาดว่าจะมีมูลค่าธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน K PLUS SHOP ไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้
จากนี้ ธนาคารกสิกรไทยวางแผนขยายการให้บริการ QR Code ของธนาคารให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น การเชื่อมต่อระบบหลังบ้านของ K PLUS SHOP ให้ใช้งานร่วมกับ Alipay และ WeChat Pay ได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการค้าขายให้กับผู้ประกอบการชาวไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 9 ล้านคน
ที่สุดแล้ว การก้าวสู่สังคมไร้เงินสดของประเทศไทยคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป เพราะกสิกรไทย ได้สนับสนุนนโยบายนี้อย่างเต็มที่มาโดยตลอดตั้งแต่พร้อมเพย์ การติดเครื่อง EDC การกระตุ้นการใช้บัตรเดบิต จนมาถึงการใช้จ่ายผ่าน QR Code ซึ่งบริการต่างๆ ของกสิกรไทยเน้นให้ใช้ง่าย สะดวก และปลอดภัย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและมากยิ่งขึ้น โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือการสร้าง “ความประทับใจในมือคุณ” ให้กับลูกค้าทุกคน
#ยิงปิ๊บจ่ายปั๊บ #KPLUSXAfterYou #KPLUS