หลังจากที่มีข่าวความร่วมมือระหว่าง “บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)” กับ “ฮันคิว เรียลตี้” (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่) “NICHE MONO สุขุมวิท–แบริ่ง” ถือเป็นโครงการแรกที่ทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งสองสร้างสรรค์ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยนำเอาแนวคิด Geo Fit+ ซึ่งทางฮันคิว เรียลตี้ พัฒนาขึ้นมาและใช้เป็นปรัชญาในการทำงานจนประสบความสำเร็จเอาชนะใจลูกค้าญี่ปุ่นมาแล้ว มาปรับใช้ให้สอดคล้องเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนไทย ตั้งแต่แนวคิดการออกแบบจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จนกลายเป็นความลงตัวทั้งเรื่องของไลฟ์สไตล์และการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพัก เพื่อชาร์จพลังให้กับชีวิตในโลกยุคดิจิทัล
“Life Charger” ความลงตัวของพื้นที่ชาร์จพลังชีวิต
สำหรับแนวคิดการออกแบบโครงการเริ่มต้นที่ “Life Charger” ความลงตัวของพื้นที่ชาร์จชีวิตคนเมืองยุคดิจิทัล สะท้อนออกมาในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดในย่านแบริ่ง ที่สร้างสรรค์ให้เป็นพื้นที่พักผ่อนชาร์จพลังให้ผู้อยู่อาศัยพร้อมลุยในวันทำงาน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ระบบเกลือยาวกว่า 88 เมตร มาพร้อมกับสระเด็ก Sunken Deck และโครงการมีห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครันบนพื้นที่กว่า 250 ตรม. ห้อง Boxing Room ปลุกพลังความแอคทีฟในตัวคุณ หรือจะเลือกชาร์จพลังแบบผ่อนคลายไปกับ Yoga Room ยังมี พื้นที่สวนที่ไม่ใช่พักผ่อนหรือมีเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวเท่านั้น แต่ใหญ่พอและพร้อมใช้ประโยชน์ได้จริงด้วยการออกแบบมาให้กลายเป็น Jogging Track ไปในตัว
หลังจากชาร์จพลังในร่างกายตัวเองแล้ว โครงการนี้ยังมี Sena Solar Station เพื่อชาร์จพลังให้กับรถ EV Charger เชื่อว่านี่คือทางเลือกของการเดินทางแห่งอนาคตเลยทีเดียว ทั้งนั้นการติดตั้งสถานีเอาไว้ในตอนนี้ นับเป็นวิสัยทัศน์ที่เตรียมพร้อมพื้นที่เอาไว้เพื่อความสะดวกในอนาคต
เชื่อมต่อทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิต
ในขณะที่มุมมองของการใช้ชีวิตและเชื่อมต่อกับสังคม ไม่ว่าจะเป็นโลกของการทำงาน และโลกของการพักผ่อน ก็ไม่ได้ตัดขาดออกจากภายนอก เพราะการเดินทางในโลเคชั่นนี้ทำให้ออกไปสู่สถานที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ที่ห่างออกไปเพียง 250 เมตร ที่สถานีแบริ่ง หรือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เพื่อเชื่อมต่อไป Airport Link ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็ใกล้กับทางด่วน บางนา-ตราด รวมทั้ง ทางด่วนเส้นบางพลี-สุชสวัสดิ์
บริเวณใกล้เคียง ยังเหมาะสำหรับการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ครบครัน อย่าง เซ็นทรัล บางนา และเมกา บางนา หรือโปรเจ็กท์ล่าสุด เดอะ บางกอก มอลล์ ที่เตรียมเผยโฉมแบบอลังการให้คนย่านนี้ได้สัมผัส ทั้งยังใกล้ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ทำให้เข้าร่วมงานอีเว้นท์ใหญ่ๆ ได้ตลอดปี นอกจากนี้บริเวณพื้นที่โครงการก็แวดล้อมไปด้วยโรงเรียนชั้นนำ และโรงพยาบาลครบครัน ดังนั้นไม่่ว่าจะเป็นวัยทำงาน, คนมีครอบครัว ก็พักอาศัยในโครงการนี้ได้อย่างพร้อมสรรพ ทั้งภายนอกและภายใน
คุ้มค่าทุกพื้นที่ ใส่ใจทุกรายละเอียด
แต่สิ่งที่เป็นไฮไลต์ที่สุดของ “NICHE MONO สุขุมวิท–แบริ่ง” ภายใต้ปรัชญา Geo Fit+ ก็คือ การออกแบบที่พักอาศัยรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับไลฟ์ไตล์ของผู้พักอาศัย
Entrance Hall – การออกแบบตู้เก็บรองเท้าที่ปรับระดับความสูงของชั้นได้ตามความขนาดความสูงของ รองเท้า และเพิ่มรูระบายอากาศเพื่อลดกลิ่นอับอีกด้วย บริเวณเดียวกันยังมีชั้นวางแบบไม่ปิดฝา ใช้วางของที่่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กุญแจ คีย์การ์ด จึงต้องเห็นชัดหยิบง่ายสะดวกมือ อีกทั้งยังใส่ใจในรายละเอียดที่ถูกมองข้าม โดยออกแบบพื้นที่ด้านล่างให้ใช้เก็บไม้กวาด ที่ตักผง เครื่องมือทำความสะอาดที่เมื่อแรกย้ายเข้าไม่มีใครคิดถึง แต่จำเป็นอย่างยิ่งเมื่ออยู่อาศัยจริง และใครๆ ก็มักมองข้าม
Living Room – โซฟาที่ถูกออกแบบมาเฉพาะตัว Armchair สามารถเปิดขึ้นมาเพื่อเก็บรีโมทได้ เมื่อเวลาไม่ใช้งานก็ไม่รก หรือหาไม่เจอ แต่เมื่อจะใช้งานก็อยู่ใกล้ ส่วนฐานก็ใช้ซ่อนแมกกาซีนได้อีก ทีเด็ดที่สุดก็คือตัวโซฟา ปรับให้กลายเป็น Sofa Bed นอนได้เลย
Kitchen – ถือว่าคิดมาเพื่อพ่อบ้าน-แม่บ้าน มือใหม่อย่างแท้จริง เมื่อเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดคราบน้ำมันได้ง่าย ทั้งพื้น Top ครัว นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบชุดครัวที่ออกแบบชั้นวางจานอย่างลงตัว สามารถดึงชั้นวางจานลงมาจากตู้เหนืออ่างเพื่อเก็บจานชาม และรองน้ำหยดให้อยู่ในอ่างน้ำไม่เลอะเทอะเค้าเตอร์ครัว
Bedroom – เตียงนอนที่มีพื้นที่เก้บของใต้เตียง เพิ่มความเป็นระเบียบให้กับห้อง ซ่อนสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ให้ห้องทีพื้นที่ใช้สอยเพิ่ม ส่วนตู้เสื้อผ้าปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตาม lifestyle พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากกว่าด้วย ชั้นปรับระดับได้ ไม่ว่าเสื้อเชิ้ตตัวสั้น ชั้นเก็บเนคไท หรือที่แขวนกางเกงสำหรับคุณผู้ชาย หรือเข็มกลัด ผ้าพันคอ สำหรับคุณผู้หญิง ก็สามารถเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบและหยิบใช้ได้ง่าย
1 ห้องนอน 28 ตร.ม. ห้องที่มาพร้อมกับ Sky working zone ปลดสมองให้ปลอดโปร่งกับมุมทำงานวิวขอบฟ้าในห้องส่วนตัว
1 ห้องนอน 31 ตร.ม. ห้องสามารถปรับฟังก์ชั่น combine พื้นที่ห้องเพื่อเพิ่มพื้นที่มากกว่า ตามไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ
1 ห้องนอน 34.9 ตร.ม. ห้องสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อพื้นที่ที่มากกว่า ห้อง Relax Corner ที่สามารถจิบกาแฟยามเช้า เป็นห้องทำงาน หรือปรับเพิ่มพื้นที่รับแขกมากขึ้น
2 ห้องนอน 48ตร.ม. พื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำส่วนตัวที่ใช้งานพร้อมกันทั้ง 2 ฟังก์ชั่น (โซนเปียก และ โซนแห้ง)
ทั้งหมดนี้ทำให้ “NICHE MONO สุขุมวิท–แบริ่ง” กลายเป็นพื้นที่ชาร์จพลังให้กับผู้อยู่อาศัย ในยุคดิจิทัล ฉลาด ช่างเลือก รู้จักเปรียบเทียบข้อมูล เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุด และขายในรูปแบบ Fully-Furnised เพื่อทำให้ลูกบ้านได้ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ได้คุ้มค่าสมกับความตั้งใจของเสนาฯ มากที่สุด และเป็นความสุขที่ยั่งยืนของผู้อยู่อาศัย
ราคา แบ่งเป็น
1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28-31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.3 ล้านบาท
1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท
และ 2 ห้องนอน 48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,275 ยูนิต พร้อมร้าน 7-11 และ TOM N TOMS COFFEE ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจ “NICHE MONO สุขุมวิท–แบริ่ง” จะเปิด Pre-sales วันที่ 30 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป โดยขายแบบ Fully Furnished และผ่อนเพียงเดือนละ 8,000 บาท เพื่อรับสิทธิพิเศษส่วนลด 50,000 บาท สามารถลงทะเบียน ได้ที่นี่ http://sena.co.th/register/niche-mono-sukhumvit-bearing หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 1775#70