“เผ่าพันธ์ุที่จะสืบดำรงต่อไปได้ ไม่ใช่เพราะแข็งแรงที่สุด หรือฉลาดที่สุด แต่เป็นเผ่าพันธ์ุที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ดีที่สุด” ชาลส์ โรเบิร์ต ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยา ผู้ค้นพบทฤษฎีวิวัฒนาการสมัยใหม่และหลักการคัดเลือกโดย ธรรมชาติ
แต่ในมุมเอเจนซี โดยเฉพาะดิจิทัลเอเจนซี ในฐานะผู้นำพาไอเดียใหม่ๆ ให้วงการธุรกิจ ได้ก่อนใคร หากไม่ปรับตัวให้เกิดการพัฒนา ก็จะกลายเป็นผู้ตามและสูญหายไป ตามกาลเวลาในไม่ช้า
แม้ว่าวันนี้มีเดียในโลกออนไลน์ (Digital Media) จะเป็นคำตอบ จูงใจให้แบรนด์ต่างๆ ปันงบในสัดส่วนที่มากขึ้นจนเกือบจะเท่ากับส่วนสื่อเดิม (Traditional Media) อย่างทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ ที่แม้ยังคงมีสัดส่วนมากกว่า แต่ก็มีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
เพราะข้อดีของสื่อออนไลน์นั้นสามารถเลือกสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำกว่า
แต่ใช่ว่าเมื่ออยู่ในเทรนด์ อยู่ในทิศทางที่ถูกที่ควรแล้ว ดิจิทัล เอเจนซีจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย…เพราะกระแสนั่นๆ เปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ รวมทั้งการแข่งขันในวงการตลาดก็ดุเดือดอยู่ทุกวัน
หนึ่งในดิจิทัล มีเดีย เอเจนซีสัญชาติไทยที่น่าจับตา ทั้งด้านการเติบโตทางธุรกิจ และ ผลงานที่สร้างชื่อ นั่นคือ Spore Bangkok ที่ขยายผลไอเดียจากดิจิทัล ครีเอทีฟเอเจนซี
อย่าง CJ Worx ด้วยการใช้ดิจิทัลมีเดียได้ตรงจุดบรรลุเป้าหมาย ให้แบรนด์ต่างๆ ประสบความ สำเร็จมากมาย ที่ล่าสุดคว้ารางวัลจากเวที Spike Asia 2017 ทั้ง Independent Agency Of The Year 2017 และรางวัลCountry Agency Of The Year 2017 และรางวัล Grand Prix 3 รางวัล , Gold 4 รางวัล , Silver 2 รางวัล , Bronze 3 รางวัล ถือว่า กวาดรางวัลมากที่สุด ในงาน แม้จะคว้ารางวัลมามากมายแค่ไหน กว่า 6 ปีที่คร่ำวอดถึงวันนี้ก็ต้องเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์…
การปรับยุทธศาสตร์ดิจิทัล มีเดีย ของ Spore Bangkok ถือเป็นการปรับตัวจากการ ตกผลึกประสบการณ์มาแล้ว โดยผลลัพธ์สร้างการเปลี่ยนแปลงให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 200% คุณจิณณ์ เผ่าประไพ Managing Director จากบริษัท CJ Worx และ Spore Bangkok เผย ยุทธศาสตร์ในการปรับตัวครั้งนี้คือ…
“Fusion Media 4.0” ที่มีเดียจะไม่ใช่แค่มีเดียแบบเดิม และมีเดียทุกส่วน จะสัมพันธ์กัน ไม่แยกส่วนจากกัน อาทิ เว็บจะไม่ใช่เพียงแค่เว็บไซต์เป็นการสื่อสารทางเดียวเท่านั้น จะต้องสามารถรองรับอีคอมเมิร์ซได้ด้วย”
กลยุทธ์ Fusion Media 4.0 ที่คุณจิณณ์ ยืนยันจากประสบการณ์ของ Spore Bangkok ที่มีการปรับกลยุทธ์นี้ที่ผ่านมาพบว่า สามารถสร้างยอดขาย ให้พุ่งขึ้นกว่า 200% จาก 4 ปัจจัย ได้แก่…
1. Performance Media คือ การใช้พลังของดิจิทัล มีเดียชนิดต่างๆทั้งใน Facebook, Google และอีกหลากหลายช่องทาง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ทั้งการสร้างการจดจำ รวมถึงยอด การซื้อ-ขายสินค้าและบริการแบบวัดผลลัพธ์ได้เป็น Performance ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยไม่มีหว่านแต่เจาะถึงกลุ่มลูกค้าตัวจริง
2. Influencer Hub เป็นการใช้พลังของบุคคลในแวดวงออนไลน์ที่หลากหลาย โดยมี ฐานพลังแฟนคลับติดตามจำนวนมาก จากเดิมที่เป็น Macro Influencer ดาราเซเลบคนมีชื่อเสียง
และจำกัดอยู่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น มีการปรับไปในทิศทาง Micro Influencer ที่อาจไม่ดังมาก แต่มีความเฉพาะทาง มีความน่าสนใจสำหรับกลุ่มต่างๆ มากขึ้น เน้นความสัมพันธ์กับแบรนด์ ต่างๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นการโฆษณาเกินไป ซึ่งอาจรวมถึงกูรูผู้เชี่ยวชาญ ในแต่ละสาขาเฉพาะด้าน
“ไม่เพียงแต่ Influencer เฉพาะ ในไทยเท่านั้น แต่ Spore BKK ยัง สามารถให้คนพิเศษจากทั่วโลกมาร่วมแคมเปญได้อีกด้วย อย่างที่พาคุณซูบิน Influencer ด้านการทานจากเกาหลี มาสร้างกระแสให้กับ KFC ด้วยวิธี Facebook LIVE จนเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ทำให้ทุกเพจด้านการตลาดกล่าวขวัญถึงแคมเปญนี้ ขณะเดียวกันคนก็แห่ไปทานไก่ทอด เพราะทนแรงกินไก่ทอดโชว์ของซูบินไม่ไหว”
3. Responsive Digital PR คอนเทนต์ที่สื่อสาร ไม่เพียงแต่ครบถูกข้อความ และเหมาะสม กับกลุ่มเป้าหมายที่อยากสื่อสารเท่านั้น แต่คอนเทนต์ที่ดีคือ ต้องดึง Insight Consumers
มาดึงดูดให้เสพคอนเทนต์ โดยที่คนออนไลน์รู้สึกว่า เนื้อหาเหล่านี้ใกล้ชิด กับคนอ่าน อ่านแล้ว ได้ประโยชน์ จนเร้าให้เกิด Engagement หรือการอยากมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะไลค์ คอมเมนต์ แชร์ หรือบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการตลาด ดังนั้นคอนเทนต์ จึงต้องสร้าง Engagement
ไม่ใช่แบรนด์ทอล์คเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว
4. Persuasive Buying Platform คือ พื้นที่การขายสินค้าสมัยใหม่ ปรับหน้าเว็บไซต์ ให้เป็นมากกว่าเป็นพื้นที่ของแบรนด์อย่างเดียว แต่ต้องสื่อสารได้สองทาง รวมถึง สามารถเป็น แหล่งซื้อขายสินค้าได้เลยในทันที โดยต้องเชื่อมโยงกันระหว่างโซเชียล ทั้งระบบ และยังสามารถ แชร์คอนเทนต์ที่ชอบจากเว็บไซต์ของแบรนด์เข้าไปในโซเชียล มีเดียได้ด้วย
“ที่ผ่านมาในอดีตเว็บไซต์ เว็บบอร์ดเคยเป็นแหล่งค้าขายสินค้า แต่ก็ได้หายไปในยุคหนึ่ง ก่อนหน้านี้ แต่ปัจจุบันประเทศไทย กลับเข้าสู่ยุค E-Commerce อีกครั้ง การขายของหน้าร้าน จึงกลายเป็นหน้าร้านเชิงดิจิทัล ในพื้นที่ของของเว็บไซต์แบรนด์ด้วย”
Fusion Media 4.0 เป็นอีกหนึ่งการปรับตัวของดิจิทัล มีเดีย เอเจนซีที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ธุรกิจในยุคไทยแลนด์ 4.0 แต่สิ่งที่น่าจับตาต่อไปอีกคือ เมื่อโลกดิจิทัลหมุนเร็ว Spore BKK จะปรับตัวอย่างไรอีกในอนาคตท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจที่เชือดเฉือนกันเป็นหน่วยวินาที แต่แนวคิดในครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่า “การปรับตัวที่ ถูกทิศทางและเหมาะสม” และ Spore BKK ก็พร้อมปรับตัวอยู่เสมอ