ถ้าพูดถึงการ “ทำประกันชีวิต” สำหรับคนรุ่นใหม่อาจไม่ตระหนักมากนัก เว้นเสียแต่ว่า การมองหาประกันจะตอบโจทย์ “การลงทุน” ที่ให้ “ผลตอบแทนที่คุ้มค่า” การจ่ายเบี้ยประกันที่ต่ำ แต่ผลตอบแทนเยอะ ซื้อเพราะต้องการลดภาษี อีกหลากเหตุผลที่ซื้อ แต่ลืมโฟกัสถึงการวางแผน “ชีวิต” ใน “อนาคต” หรือบั้นปลายวัยเกษียณ
ขณะที่ “โจทย์” การทำตลาดประกัน อาจได้เห็นหลายแบรนด์พยายาม “Hard sale” ขายของแบบโต้งๆ โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่ “กรุงเทพประกันชีวิต” เลือกที่จะทำตลาดที่ “ฉีก” จากกรอบเดิมๆ ด้วยการปล่อย “ไวรัล” สุดคูล เรียกเรตติ้งจากโลก “ออนไลน์” ได้เป็นเทน้ำเทท่า
ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต “บีแอลเอ พร้อมเกษียณ” หรือ “BLA Unit Pension ได้นำ “อนาคต” ที่เป็นเรื่องไกลตัวของทุกคน มาทำให้ “ใกล้ตัว” ยิ่งขึ้น ผ่านหนังสั้นสุดจี๊ดโดนใจ นำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ “อนาคตที่ดี ต้องเริ่มที่วันนี้ หรือ Future is Now” เป็นสมการง่ายๆ ที่ชี้ให้เห็นว่า “อนาคต = วันนี้”
หนังสั้นได้เล่าเรื่องของ “คนวัย 30+” ที่ดูภายนอกเหมือนจะมีชีวิตที่ดี มีอาชีพการงานมั่นคง แต่กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จในเรื่องความรักในอดีต จนไม่กล้าจะเริ่มต้นใหม่ แต่ได้เจอจุดเปลี่ยนที่เป็นแรงกระตุ้นให้ลุกขึ้นมาทำภารกิจจีบสาวที่แอบชอบ โดยรวบรวมความกล้าเริ่มลงมือตั้งแต่ “วันนี้” เพราะถ้ารอ “พรุ่งนี้” หรืออนาคต โอกาสที่มีก็อาจจะหลุดลอยไป
“ของบางอย่างพลาดไปแล้ว พลาดไปเลย”
หนังสั้นดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการตอกย้ำแคมเปญ Future is Now บอกให้ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ บรรดา Gen Y หันมา “วางแผนชีวิต” มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวางแผนเพื่อชีวิตหลังเกษียณ
หากมองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนวัยทำงาน จะพบว่าการใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการใช้ชีวิตตรงหน้ามากกว่าจะคิดถึงอนาคต หรือไม่ก็ “ลืม” นึกถึงชีวิตอนาคต ลืมวางแผนการเงินไว้ใช้วัยเกษียณ ทั้งที่เรื่องนี้ “สำคัญมาก”
อีกทั้งเหล่า Gen Y นั้น โดยปกติจะเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวก็อายุปาเข้าไปเกือบ 30 ปี ต่างจากยุค 10-20 ปีก่อนมาก ที่การวางแผนชีวิตไม่ใช่เรื่องยากเหมือนปัจจุบัน ดังนั้น หากแบรนด์กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเริ่มมองเห็นประโยชน์ของการวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้ ตระเตรียมตัวเองให้พร้อมกับชีวิตวัยเกษียณย่อมดีกว่า
สะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ต้องการให้ผู้บริโภคเกิดการ Aware และกระตุ้นให้ตระหนักถึงการมีอนาคตในวัยเกษียณ โดยเชื่อมโยงเกิด Action เพราะอนาคตที่ดี ต้องเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้
แคมเปญการทำตลาดของกรุงเทพประกันชีวิตครั้งนี้ จึงไม่ได้มุ่งเน้นการสื่อสาร “ฟังก์ชันนอล” ของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก บอกให้รู้ว่ากรมธรรม์เป็นยังไง เบี้ยประกันเท่าไหร่ แต่พยายามใช้กลยุทธ์ Emotional marketing เข้าไปจับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ “อิน” เกิดการบอกต่อ (Word of Mouth) และแชร์เรื่องราวสนั่นโลกออนไลน์
ผลลัพธ์หลังหนังสั้นที่ถูกนำเสนอออกไปเกือบ 1 เดือน ปรากฎยอดชมกว่า 3 ล้าน view ส่วนยอด Reaction ทั้งคอมเมนต์ ไลค์ แชร์ รวมกันเกือบแสน นับว่าสร้าง “Engagement” ได้ดีทีเดียว
ที่สำคัญผู้บริโภคเริ่ม Aware ถึงการวางแผนชีวิตตัวเองตอนแก่ ตรงตามวัตถุประสงค์ของแบรนด์เป๊ะ และอาจมีคนที่ “อินจัด” จนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ตามมาย่อมเป็นได้
Future is Now นับว่าเป็นแคมเปญการตลาดที่เข้าใจโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
ยุคนี้ Hard sale แบบเดิมๆ ไม่ได้แล้ว แต่ต้อง Heart Sale ใช้ใจของแบรนด์แลกใจผู้บริโภคแบบนี้ถึงจะปัง!
เริ่มต้นวางแผนอนาคตดีๆ ให้ตัวเอง ทางออนไลน์ได้เลยที่ www.bangkoklife.com/online
หรือ โทร. 02 777 8888