สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) ฉลองก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 ในประเทศไทย พร้อมด้วย New Store Format กับการเปิดตัวแฟลกชิพใหม่แห่งแรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย Starbucks Siam Square One Flagship ที่ศูนย์การค้าสยาม สแควร์วัน พื้นที่ใจกลาง กทม. พร้อมสร้างความต่างจากสาขาอื่น ด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่มแบบเอ็กคลูซีฟ ที่มีให้บริการเฉพาะในสาขานี้เท่านั้น คุณเมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) กล่าวถึงการเลือกเปิดสาขาแฟลกชิพใหมครั้งนี้ที่สยาม สแควร์ วัน เนื่องจากเป็นศูนย์รวมและจุดนัดพบของคนเมืองซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของสตาร์บัคส์ ทำให้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น รวมทั้งโอกาสในการขยับทาร์เก็ตไปสู่กลุ่มใหม่เพิ่มเติม จากเดิมที่โฟกัสในเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ มาสู่เจนเนอเรชั่นวาย และกลุ่มมิลเลนเนียลเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ อีกด้วย
“กลุ่มวัยรุ่นให้ความสำคัญกับการมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ ตรงกับ Core Value ของสตาร์บัคส์ในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีและวัฒนธรรมในการดื่มกาแฟ ด้วยกาแฟคุณภาพระดับพรีเมียม จากแหล่งผลิตเมล็ดกาแฟทั่วทุกมุมโลก พร้อมการครีเอทเครื่องดื่มที่เข้ากับเทศกาลต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งเมนูเอ็กคลูซีฟที่มีเฉพาะสาขานี้ ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกสนาน ไม่จำเจ”
สำหรับความแตกต่างจากสาขาอื่นๆ ของแฟลกชิพต้นแบบของร้านสตาร์บัคส์แห่งนี้ ประกอบด้วย
– ร้านมี 3 ชั้น พื้นที่กว่า 430 ตร.ม. เป็นสาขาแห่งที่ 321 ของไทย รวมทั้งออกแบบในสไตล์ Eco Friendly ผสมผสานการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นและคอนเทมโพรารี่ ตามแบบฉบับ Starbucks Reserve™ เน้นโทนสีธรรมชาติ ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย กับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง ผ้า และกากกาแฟรีไซเคิล
– ขนมหวานสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากอาฟเตอร์ยู อาทิ ชิบูย่าฮันนี่ โทสต์ และช็อคโกแลตบราวนี่ พร้อมไอศครีมวนิลา มาสร้างสรรค์เมนูขนมหวานต่างๆ อาทิ เบอร์-รี่ครัมเบิลแพนเค้ก บานอฟฟี่ครัมเบิลแพนเค้ก และอัฟโฟกาโต หรืออาหารเช้าและกลางวันง่ายๆ ให้คุณอิ่มท้อง อาทิ แซนด์วิชเปิดหน้า3 เมนู ได้แก่ แซลมอนรมควันครีมชีส มะเขือเทศและมอสซาเรลล่าชีส และทูน่า
– เพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยทางเข้าทีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสถานีสยาม โดย ชั้นแรก จะเป็นสตาร์บัคส์บาร์ที่ใช้เครื่องชงกาแฟรุ่นพิเศษ ในการแข่งขันบาริสต้าแชมป์เปี้ยนชิพระดับโลก ด้วยนวัตกรรมที่ช่วยรักษาอุณหภูมิของเครื่องให้คงที่ ชั้นที่สอง เป็นเคาน์เตอร์ Starbucks Reserve™ Experience Bar ให้ลูกค้าได้รื่นรมย์กับสุดยอดของกาแฟหายากรสชาติเยี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก ผ่านกรรมวิธีการชงแบบพิศษจากคอฟฟี่มาสเตอร์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยการปรับพื้นที่ชั้นบนสุดทั้งหมด เพื่อรองรับลูกค้าได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
การขับเคลื่อนของสตาร์บัคส์นี้ เพื่อต้องการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ โดยเพิ่มประสบการณ์การดื่มกาแฟ ขณะเดียวกันก็เพิ่มทางเลือกที่หลากหลายขึ้นในเมนูขนม ซึ่งก็เลือกเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ขนมที่คนไทยชื่นชอบอย่าง After You และเชื่อว่าการจับมือกันใครครั้งนี้สร้าง win-win situation ให้กับทั้ง 2 แบรนด์เลยทีเดียว