นับว่าเป็นเซอร์ไพร์สใหญ่ที่โค้ก เปิดตัว “Diet coke” ซีรี่ส์ใหม่ที่นับจากนี้จะไม่ได้มีแค่รสชาติน้ำโคล่า ที่เราคุ้นเคยกันอย่างเดียวแล้ว แต่จะมีรสชาติและสีสันให้เลือก ถึง 5 รสชาติ ประกอบด้วย Diet Coke Ginger Lime, Diet Coke Feisty Cherry, Diet Coke Zesty Blood Orange, Diet Coke Twisted Mango และรสดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปีนับตั้งแต่ Diet Coke ถือกำเนิดขึ้นเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติเท่านั้น การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมกับกระป๋องดีไซน์ใหม่ แลดูผอมเพรียว หรือที่เรียกว่า Sleek can โมเดิร์นกว่าเดิม ด้วยขนาดความจุ 12 ออนซ์ โดยสินค้าทั้งหมดจะเริ่มต้นวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาช่วงกลางเดือนมกราคมนี้
ความพยายามในครั้งนี้ของโค้กก็เพื่ออยากจะใกล้ชิดกกับผู้บริโภครุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น สังเกตุได้จากการตั้งชื่อแต่ละรสชาติให้มีความสนุกสนาน เช่น “feisty cherry” หรือ “zesty blood orange” โดยรสชาติเหล่านี้ผ่านการเทสต์มาแล้วว่าถูกปากวัยรุ่น จึงมีทั้งรสชาติที่จัดจ้าน รวมทั้งผลไม้ที่แปลกกว่ารสชาติน้ำอัดลมทั่วไปอีกระดับหนึ่ง รวมทั้งผลักดัน Diet Coke ซึ่งมีความหวานน้อยกว่าสูตรปกติ เอาใจคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และถึงแม้ว่าอเมริกันชนจะหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้นแต่ที่นั่นก็ยังเป็นตลาดใหญ่ของโค้กอยู่ ด้วยอัตราบริโภค Diet Coke 20,000 กระป๋อง/ ขวด ทุกๆ 1 นาที
ส่งผลให้ในสหรัฐอเมริกา Diet Coke ยังเป็นเจ้าตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมเซกเมนต์ Diet Soda ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 26.3% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบอัตราการเติบโตกลับพบว่า ลดลง 3.7% จากการรายงานของ Nielsen ในขณะที่ Diet Pepsi เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่ายอดลดลงถึง 8%
Rafael Acevedo, the group director ที่ดูแลโปรดักท์ Diet Coke ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ กล่าวว่า “เราต้องการทำให้แบรนด์ของเรามีความเป็นออริจินัล และเชื่อมโยงกับผู้คนมากขึ้น กลุ่มคนมิลเลนเนี่ยลมีความกระหายในประสบการณ์ใหม่ๆ มาขึ้นกว่าเดิม เราอยากตอบสนองความต้องการนั้นอย่างเหมาะสม”
หลังจากนี้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็คงจะได้เห็นแคมเปญโฆษณาทั้งภาพยนตร์โฆษณา สื่อเอาท์ดอร์ และสื่อดิจิทัล ที่จะมาโปรโมทรสชาติใหม่ของ Diet Coke ซึ่งน่าจะเป็นแคมเปญที่จัดหนักเลยทีเดียว และตั้งตาคอยต่อไปว่ารสชาติใหม่ๆ เหล่านี้จะเปิดตัวในเมืองไทยเมื่อไหร่
same great flavor. new insta-worthy can. #DietCoke pic.twitter.com/chlFwxpJ07
— Diet Coke (@DietCoke) January 10, 2018
เบื้องหลังของสินค้าตัวนี้ โค้ก ระบุว่าใช้เวลาถึง 2 ปีในการวางแผนและทดสอบผลิตภัณฑ์กับผู้บริโภคราว 10,000 คน จนมั่นใจ ก่อนหน้านี้ช่วงกลางปี โค้กได้เปิดตัว Coca-Cola Zero Sugar ซึ่งมาแทน Coke Zero แบบเดิม นับว่ากระแสสุขภาพและเครื่องดื่มที่หลากหลายซึ่งเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค สร้างความท้าทายให้กับบริษัทระดับตำนานแห่งนี้ จนต้องออกมาขับเคลื่อนครั้งใหญ่