Howard Schultz ผู้ก่อตั้ง Starbucks เชื่อว่า Bitcoin และ Cryptocurrency ต่างๆ จะยังไม่สามารถมาแทนที่เงินได้ “คุณคิดว่าอะไรจะสามารถเกิดขึ้นกับ Cryptocurrency เหล่านี้ได้บ้าง” Schultz ถามคำถามนี้แบบแกนๆ ในระหว่างที่เขามี Conference Call กับนักวิเคราะห์จาก Wall Street
เขายังกล่าวต่ออีกว่า “และที่ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะว่าผมกำลังพูดถึง bitcoin เพราะว่าผมไม่เชื่อว่า bitcoin จะกลายมาเป็นสกุลเงินหนึ่งได้ไม่ว่าจะในวันนี้หรือในอนาคต ผมกำลังพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ของ Blockchain และความเป็นไปของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ แต่จากนี้ไปอีกสักสองถึงสามปี”
Schultz ซึ่งลงจากตำแหน่ง CEO เมื่อปีที่แล้ว แต่ยังคงดำรงตำแหน่ง Executive Chairman แสดงความเชื่อมั่นว่า Starbucks นั้นไม่มีทางนำ Cryptocurrency มาใช้ หรือลงทุนใน Cryptocurrency เด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตามเขาก็กล่าวว่า Cryptocurrency บางส่วนสุดท้ายแล้วอาจจะสามารถนำมาใช้ตามกฎหมายได้
เขากล่าวต่อไปว่า “ที่ผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าเมื่อเราคิดถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า มันจะมีบางสกุลเงินดิจิทัล ที่อาศัยเทคโนโลยี Blockchain ได้รับความไว้วางใจและสามารถนำมาใช้ได้ตามกฎหมาย”
Starbucks เป็นผู้นำในเรื่องของการชำระเงินทาง Digital มาหลายปีแล้ว โปรแกรม My Starbucks Rewards ตอนนี้มีสมาชิกถึง 14.2 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และสมาชิกเหล่านี้มียอดใช้จ่ายเป็น 37% ของยอดขายในสหรัฐ ในขณะที่การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือนับเป็น 11% กล่าวกันว่า Starbucks มีเงินหมุนเวียนในระบบนี้มากถึงขนาดอาจจะมีมากกว่าเงินฝากของธนาคารบางแห่งซะอีก
ระหว่างที่เขากำลังวิเคราะห์สถานการณ์ของ bitcoin ในขณะเดียวกันสตาร์บัคส์เองก็มีผลประกอบการที่ไม่น่าพอใจนักของไตรมาสแรก Sara Senatore นักวิจัยจากบริษัทวิจัย Bernstein กล่าวว่า “จุดสำคัญเคยเป็นเรื่องของการเร่งการเพิ่มจำนวนสมาชิก My Starbucks Rewards แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทดแทนจำนวนลูกค้าทั่วไปของ Starbucks ที่ลดลงได้”
ที่มา : businessinsider