หากดูผิวเผินแล้วตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันในประเทศไทยค่อนข้างเรียบๆและการแข่งขันไม่รุนแรงมากนัก แต่ความเป็นจริงกลับเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ ทั้งขนาดตลาดที่ใหญ่กว่า ผู้เล่นหน้าใหม่ และ เทคโนโลยีทำให้พฤติกรรมการใช้กระดาษมีแนวโน้มลดลง
จากข้อมูลของ IDC ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารโดยรวมในปี 2016 มีการหดตัวลงกว่า 13% โดยมียอดขาย 40,721 เครื่อง ลดลงจากปี 2015 ที่มียอดขาย 47,067 เครื่อง และเพิ่งจะฟื้นกลับมาขยายตัวเกือบ 3% ในปี 2017 ที่ผ่านมา โดยมียอดขายรวมไตรมาส 1- 3 จำนวน 32,279 เครื่อง ซึ่งริโก้ (RICOH) บริษัทผู้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสัญชาติญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกว่า 40 ปี ในนาม บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด ยังสามารถรักษาความเป็นเจ้าตลาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่นและยาวนานหลายปี
5 หัวใจสำคัญที่ทำให้ RICOH ยังเป็นเจ้าตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน
เข้าใจลูกค้า คือ หัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน
คุณพรชัย วรอังกูร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและบิสซิเนสโซลูชัน บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้ “ริโก้” (RICOH) สามารถครองแชมป์มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันในไทยเป็นที่หนึ่งได้อย่างต่อเนื่อง คือ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริงด้วยการสำรวจตลาด การทำงานร่วมกันของฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์และส่วนงานการตลาดที่ได้สัมผัสกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด การให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าในทุกระดับตั้งแต่เอสเอ็มอีไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงการศึกษาเชิงลึกและให้ความสำคัญกับการทำตลาดแนวตั้ง (Vertical Market) ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและรูปแบบการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มนั้นๆ อย่างชัดเจน และถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจของริโก้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเติบโตด้านรายได้และการทำกำไรแบบยั่งยืน รวมถึงการขยายฐานธุรกิจออกไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ถึง 3 ของปีที่ผ่านมา ริโก้มีส่วนแบ่งการตลาด 34% หรือคิดเป็นถึง 1 ใน 3 ของตลาดรวมทั้งหมดในประเทศไทย แบ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสี 38% และเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันขาวดำ 31%
ตอบสนองรูปแบบการทำงานของออฟฟิศยุคใหม่
นอกเหนือจากชื่อเสียงด้านคุณภาพของตัวเครื่องและคุณภาพของบริการหลังการขายที่ลูกค้าต่างให้ความไว้วางใจเพราะริโก้ให้บริการเองโดยตรงในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ริโก้ยังได้ออกเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันรุ่นใหม่ๆ ที่มีหน้าจออัจฉริยะ Smart Operation Panel ซึงทำงานคล้ายกับแท็บเล็ตเป็นรายแรกในตลาด โดยมีเมนูคำสั่งต่างๆ ที่ใช้งานง่ายหน้าตาคล้ายเมนูบนสมาร์ทโฟน และสามารถเชื่อมต่อเพื่อสแกนและพิมพ์เอกสารจากสมาร์ทโฟนได้โดยตรงผ่านการสแกน QR Code, NFC และ Bluetooth ซึ่งลูกค้าในธุรกิจต่างๆ ได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากสามารถตอบสนองรูปแบบการทำงานของออฟฟิศยุคใหม่ที่ทุกอย่างอยู่บนสมาร์ทโฟน ตัวอย่างเช่น กลุ่มแอปพลิเคชันใหม่ที่เรียกว่า Ricoh EZ Plus ที่ประกอบไปด้วยถึง 13 แอปพลิเคชันสำคัญสำหรับองค์กรหรือบริษัท เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากของงานเอกสาร รวมไปถึงสร้างสรรรค์เอกสารได้ง่ายขึ้น เช่น EZ Receipt Scan ที่ช่วยให้สามารถสแกนเช็ค ใบเสร็จ หรือต้นฉบับที่มีขนาดเล็กหลายฉบับพร้อมกันได้ในครั้งเดียว โดยแยกไฟล์ที่สแกนให้เป็นหนึ่งต้นฉบับต่อหนึ่งไฟล์โดยอัตโนมัติแล้วส่งไปยังอีเมลหรือโฟลเดอร์ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาในการสแกนต้นฉบับทีละฉบับ
ทิ้งห่างคู่แข่งด้วยบริการ RemoteConnect Support
ในส่วนของบริการหลังการขาย สร้างความแตกต่างด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ที่คู่แข่งรายต่างๆ ยังไม่มี คือ RemoteConnect Support การช่วยเหลือลูกค้าทางไกลอัจฉริยะ ที่พนักงาน Callcenter ของริโก้สามารถมองเห็นหน้าจอเครื่องของลูกค้าได้ทันที (ลูกค้าที่มีรุ่นที่มีหน้าจออัจฉริยะ Smart Operation Panel) เพื่อตรวจสอบสาเหตุของปัญหาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
* บริการดังกล่าวไม่รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์เครื่อง การเข้าถึงหน้าจอของลูกค้าต้องได้รับรหัสผ่านจากลูกค้าก่อน
รักษาคุณภาพมาตรฐานด้วยการขายตรงและให้บริการหลังการขายเอง
เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานทั้งด้านการขายและการให้บริการ ริโก้จึงมีเฉพาะช่องทางการขายตรงสำหรับการขายเครื่องถ่ายเอกสารเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลสินค้าที่ถูกต้องและคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกเครื่องที่เหมาะกับการใช้งานของลูกค้าจากพนักงานขายของริโก้ที่ได้รับการอบรมข้อมูลสินค้ามาโดยเฉพาะ นอกจากนั้น ริโก้ยังให้บริการหลังการขายด้วยทีมวิศวกรของริโก้โดยตรงในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ดีและได้รับบริการที่มีมาตรฐาน
เสริมความแข่งแกร่งด้วยการเป็น Digital Workplace Solution Provider
คุณพรชัยยังเล่าถึงทิศทางการเติบโตของริโก้ในอนาคตอีกว่า “นอกเหนือจากการเป็นผู้นำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารแล้ว ริโก้ยังมีโอกาสในการเติบโตในตลาดองค์กรอีกมาก เช่น การเป็นที่ปรึกษาให้แก่ธุรกิจต่างๆ ในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านงานเอกสารของสำนักงาน (Managed Print Service – MPS) การขยายธุรกิจในกลุ่มการพิมพ์เพื่อการพาณิชย์ด้วยเครื่อง Production Printing การให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจร (IT Services) การให้บริการออกแบบ ติดตั้ง และดูแลระบบกล้องวงจรปิด (Video Serveillance System) รวมถึงการให้บริการด้านการสื่อสารของสำนักงานด้วยเครื่องโปรเจ็คเตอร์ กระดานอัจฉริยะ และอุปกรณ์ Unified Communication System ทั้งหมดนี้ เป้าหมายสูงสุดคือการเป็น Digital Workplace Solution Provider ซึ่งริโก้สามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตโดยไม่ต้องกังวลงานเรื่องหลังบ้าน และโฟกัสงานด้านธุรกิจได้อย่างเต็มที่”
สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและบริการของริโก้เพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-088-2158 หรือ naruthon.sri@ricoh.co.th