HomeBrand Move !!ใครว่า “น้ำเปล่า” แตกต่างไม่ได้ “สิงห์” สะสมแต้มแลกของผ่าน LINE ต่อไปนี้ถึงหน้าเชลฟ์ต้องหยิบ และต้องต่อเนื่อง

ใครว่า “น้ำเปล่า” แตกต่างไม่ได้ “สิงห์” สะสมแต้มแลกของผ่าน LINE ต่อไปนี้ถึงหน้าเชลฟ์ต้องหยิบ และต้องต่อเนื่อง

แชร์ :


เพราะว่าการแข่งขันในตลาดน้ำดื่ม เป็นอะไรที่สร้างความแตกต่างได้ยาก ทั้งเรื่องรสชาติ ภาพลักษณ์ และช่องทางการจัดจำหน่าย เมื่อถึงหน้าเชลฟ์ ผู้บริโภคอาจจะเปลี่ยนใจได้ทุกเวลา ดังนั้น “สิงห์” ซึ่งต้องการยึดบัลลังค์น้ำเปล่าให้ได้อย่างเด็ดขาด หลังจากขับเคี่ยวกับ “คริสตัล” อย่างดุเดือด จนปี 2017 ที่ผ่านมามีส่วนแบ่งการตลาดเท่ากันที่ 21% (ข้อมูลจากสิงห์)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

CRM ยุคใหม่ต้อง Mobile

ดังนั้นสิ่งที่สิงห์ทำก็คือ การใช้ Digital CRM ผ่าน LINE เป็นเครื่องมือ วัตถุประสงค์เพื่อทำให้ผู้บริโภคเมื่อถึงหน้าชั้นวาง เลือกหยิบสิงห์ แทนที่น้ำดื่มยี่ห้ออื่น และไม่ใช่แค่โปรโมชั่นชั่วคราว แต่ต้องยั่งยืน สิ่งที่ “สิงห์” ทำคือ บิ๊กแคมเปญ “SINGHA REWARDS” กระตุ้นให้ผู้บริโภคแอด Official Account แล้วกรอกข้อมูลลงทะเบียน หลังจากนั้นเมื่อซื้อน้ำดื่มสิงห์ก็นำรหัสใต้ฝามาคีย์ใส่เข้าไปใน Official Account ดังกล่าวเพื่อรับของรางวัล ซึ่งต้องนับว่าการชิงโชคของฝาชาเขียวทั้งหลาย ได้ Educate ผู้บริโภคมาระดับหนึ่งแล้ว หน้าตา UX ของ Official Account ในส่วนของการกรอกรหัสก็นับว่าไม่ยากเกินไป

โดยการจะรับรางวัลได้มี 2 รูปแบบ 1.แลก (Redeem) สินค้าไปเลย โดยกลุ่มสินค้านี้จะเป็นอาหาร, ขนม หรือเครื่องดื่มจากร้านที่ได้รับความนิยม อีกทั้งยังมีบัตรเติมเงินโทรศัพท์ กับคะแนนไลน์พ้อยท์ 2. ลุ้นรับรางวัล โดยของรางวัลที่นำมาเป็น Lucky Draw จะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้นมาระดับหนึ่ง กำลังเป็นที่ต้องการของคนรุ่นใหม่ แต่หาซื้อไม่ได้ง่ายๆ เช่น รองเท้าอาดิดาส NMD, รถมอเตอร์ไซค์ Vespa, กระเป๋า Bao Bao, นาฬิกา G-Shock รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น, กล้อง GoPro Hero 6, Nike AIR MAX 97, กล้อง Leica

คุณธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “สิ่งที่เราทำคือการสร้างปรากฏณ์ CRM สะสมพ้อยท์ โดยที่ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้า เพราะว่าทุกวันนี้การจะพกบัตรก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริโภคชื่นชอบ แต่คนพกมือถือหมดแล้ว วิธีการทำ Brand Loyalty มีหลายแบบ เดิมทีจะทำเป็นแอปพลิเคชั่น แต่พฤติกรรมคนปัจจุบันก็ไม่อยากมีแอปฯ เยอะในเครื่อง ดังนั้นเราจึงใช้ LINE และการที่เราเริ่มต้นเป็นรายแรก ยังไม่มี FMCG รายไหนที่ทำ ก็เป็นการสร้างความแตกต่างด้วย Loyalty Program เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ นอกเหนือจากกลุ่มครอบครัวที่เราก็มีกิจกรรมอื่น แล้วเราก็สร้างวิธีการที่ทำให้มีทั้งการ Redeem ได้เลย หรือบางคนอยากลุ้นรางวัลใหญ่”

นักการตลาดรุ่นใหม่ ต้องโฟกัสมากกว่าโปรดักท์ตัวเอง

ก่อนหน้านี้สิงห์เคยใช้รหัสใต้ฝาเป็นเครื่องมือมาแล้วในรูปแบบชิงโชค รวมทั้งก็มีโปรโมชั่นกับร้านค้าสะดวกซื้อเป็นครั้งคราว แต่นั่นไม่ใช่ความยั่งยืน อีกทั้งโปรโมชั่นในลักษณะดังกล่าว ก็ไม่สามารถทำได้กับร้านค้าแบบดั้งเดิม ที่มักตั้งราคาเดิมตลอด ดังนั้นการสร้างแรงจูงใจด้วยการสะสมแต้ม สิงห์ก็หวังว่าจะทำให้ผู้บริโภคซื้อน้ำของสิงห์อย่างต่อเนื่อง

คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “นับวัน Loyalty ของผู้บริโภคยิ่งต่ำลง เราอยู่ในยุคที่นักการตลาดต้องคิดไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของตัวเอง แต่เป็นการสร้างบริการ”

“ถ้าหากว่าลองเข้าไปดูใน Official Account ของน้ำดื่มสิงห์ ก็จะพบว่าหน้าตาคล้ายแอปพลิเคชั่นมาก แต่อยู่บนไลน์ ทุกวันนี้ผู้ใช้งานต่างก็ไม่อยากดาวน์โหลดแอปฯ แล้ว เพราะพื้นที่ในโทรศัพท์ซึ่งต้องแบ่งให้รูป วิดีโอ และเพลง เป็นส่วนที่กินที่เยอะที่สุด แล้วการที่ทำให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดแอปฯ เป็นการผลักภาระให้กับผู้บริโภค”

“ดาต้า” ต่อยอด ความรู้จัก รู้ใจอินไซต์ผู้บริโภคอีกระดับ   

การทำ CRM ด้วยเครื่องมือ Digital ตั้งแต่สเต็ปแรกแบบนี้ ทำให้ “สิงห์” ได้ข้อมูลที่ผู้บริโภคกรอกเข้ามา ซึ่งสิงห์ยอมรับว่า ช่วยบ่งบอกพฤติกรรมของผู้บริโภค 2 ลักษณะ คือ ผู้บริโภคชอบสินค้าหรือกิจกรรมอะไรมากเป็นพิเศษผ่านจำนวนการกด Redeem และ โลเคชั่นที่ Redeem ที่ไหน ซึ่งนำไปสู่การนำเสนอสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจตามโปรไฟล์ ถึงแม้ว่าน้ำดื่มจะเป็นสินค้าที่อาจจะไม่ต้องการความเป็น Personalize ขนาดนั้นแต่ก็นับว่าเป็นประโยชน์กับการตลาดในอนาคต

เพื่อทำให้ผู้บริโภครับรู้การสะสมคะแนนภายใต้แคมเปญนี้ สิงห์เตรียมพร้อมภาพยนตร์โฆษณานำเสนอผ่านทางออนไลน์, ส่งแพ็กเกจจิ้งที่มี QR Code ให้แอด LINE ได้เลยลงสู่ตลาด, ทำ Event Troop และ ทำกิจกรรมในโรงเรียน แหล่งออฟฟิศ รวมทั้งกิจกรรมบันเทิงที่สิงห์เป็นผู้สนับสนุนอยู่แล้ว โดยใช้งบประมาณในแคมเปญนี้ทั้งสิ้น 50 ล้านบาท

ความคาดหวังของ สิงห์จากการทำแคมเปญนี้คือมีจำนวนผู้ที่แอด Official Account เข้ามาทั้งสิ้น 5 ล้านราย ลงทะเบียน 2 ล้านราย และที่สำคัญคือ มีมาร์เก็ตแชร์ 23% คิดเป็นการเติบโต 15% ซึ่งสูงกว่าตลาดซึ่งน่าจะเติบโต 10% โดยปี 2017 ที่ผ่านมามูลค่ารวมตลาดน้ำดื่มอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท ปี 2018 นี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่า 50,000 ล้านบาท


แชร์ :

You may also like