ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 ดูเหมือนจะสดใสไม่ใช่น้อย เพราะแค่เดือนแรกของปีเพียงเดือนเดียว บรรดาบิ๊กเนมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ประกาศแผนลงทุนในปีนี้กันมากมาย ด้วยเม็ดเงินมหาศาล เพราะต่างก็มองเห็นโอกาสทางการตลาด ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตรา 5-10% โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม น่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 2% และน่าจะมียอดขายและยอดโอนมากที่สุด ส่วนตลาดทาวน์เฮาส์คาดว่าจะเติบโต 10% ขณะที่บ้านเดี่ยวคงเติบโตตามภาวะตลาดด้วยเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโต คงเป็นเพราะสถาบันการเงินหันมาปล่อยสินค้าให้กับคนซื้อบ้านมากขึ้น การลงทุนของผู้ประกอบการรายใหญ่ ก็เป็นปัจจัยช่วยกระตุ้นตลาด นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาครัฐ และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและชาวต่างชาติ ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกัน
เมื่อตลาดอยู่ในจังหวะที่มีแต่ปัจจัยบวกและมีแนวโน้มเติบโต ดีเวลลอปเปอร์ทั้งรายใหญ่และรายเล็กจึงได้เตรียมแผนธุรกิจ เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ปีนี้ประกาศแผนลงทุนมากถึง 34 โครงการมูลค่า 49,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ 17 โครงการ มูลค่า 15,300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 31% บ้านเดี่ยว 13 โครงการ มูลค่า 14,700 ล้านบาท สัดส่วน 30% และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท สัดส่วน 39% ซึ่งคาดว่าปีนี้จะทำยอดขายได้ 33,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ สัดส่วน 54% และโครงการคอนโดมิเนียม สัดส่วน 46% และตั้งเป้ารายได้ 28,100 ล้านบาท
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า เป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทต้องการขึ้นสู่การเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยพันธกิจที่สำคัญ คือ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และวางแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้น และพัฒนานวัตกรรม ที่ส่งเสริม และยกระดับ รูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์สู่วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมแผนการดำเนินงานภายใต้ 5 มิติสู่ความสำเร็จ ได้แก่
1.การร่วมมือกับพันธมิตร กลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท สานต่อความสำเร็จปีที่ 5 ที่มีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับกลางบนอย่างต่อเนื่อง ที่ปีนี้จะร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่ 4 โครงการใหม่ มูลค่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมจะเปิดขายโครงการแรก คือ LIFE สุขุมวิท 62 ปัจจุบัน เอพี-มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มีคอนโดมิเนียมที่พัฒนาร่วมกันทั้งสิ้น 15 โครงการ มูลค่าโครงการสูงถึง 73,000 ล้านบาท
2.เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury ด้วยแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค ซึ่งไฮไลต์ของปีนี้คือ การนำแบรนด์ระดับ Super Luxury ของเอพีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค อย่างแบรนด์คอนโด THE ADDRESS และคฤหาสน์หรูแบรนด์ THE PALAZZO กลับมาพัฒนาอีกครั้ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าระดับบน ที่มองหาที่อยู่อาศัยพรีเมี่ยมในทำเลศักยภาพ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
3.รุกตลาดสินค้าแนวราบ สร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม (MASS CUSTOMIZED DESIGN) ในปีนี้ทีม AP Design Lab ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านการดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานภายในตัวบ้าน เพื่อตอบความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเอพีได้พัฒนาแบบบ้านมากกว่า 70 แบบ กระจายอยู่ตามโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ในทำเลต่างๆ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเครือเอพี ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง (THE ULTIMATE CHOICE FOR URBAN FAMILY)
4.บริหารพอร์ตตลาดต่างประเทศ ด้วยการมอบหมายให้บริษัทในเครือเอพี บางกอก ซิตี้สมาร์ท จำกัด (BC) ซึ่งดำเนินธุรกิจตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์คลอบคลุมบริการรับฝากขาย ฝากเช่า เข้ามาบริหารจัดการดูแลการขายคอนโดมิเนียมเอพีในตลาดต่างประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากปีที่ผ่านมา BC มีผลการดำเนินงานที่ก้าวกระโดด ถือเป็นโบรกเกอร์อันดับต้นๆ มียอดขายมูลค่าอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 10,000 ล้านบาท
5.พัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ผ่านการผสานเทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการออกแบบพื้นที่ใช้สอย ซึ่งปีที่ผ่านมาเอพีได้ร่วมกับพันธมิตรในการนำเสนอ นวัตกรรมต่างๆ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย เช่น ล็อกเกอร์อัจฉริยะ AP Smart Pod ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งลูกบ้านในคอนโดมิเนียมสามารถรับของได้ตลอด 24 ช.ม.ด้วยตนเอง รวมถึงการนำเทคโนโลยี IoT มาเชื่อมต่อในทุกพื้นที่อยู่อาศัย เป็นต้น
ในปีนี้เอพียังวางแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมและยกระดับรูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์ไปสู่วิถีใหม่ๆ ครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และปลอดภัยเข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ส่วนในช่วงครึ่งปีแรกเอพีเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ รวมมูลค่า 14,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 10 โครงการ ได้แก่ บ้านเดี่ยว 2 โครงการ และทาวน์โฮม 8 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 9,900 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น จำนวน 1,049 ยูนิต มูลค่า 3,000 ล้านบาท โดดเด่นด้วย 1 ก้าวจากสถานีบางหว้า สถานีเชื่อมต่อขนาดใหญ่ระหว่าง BTS และ MRT ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท พร้อมเปิดขายในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ และ LIFE สุขุมวิท 62 คอนโดมิเนียมร่วมทุน สูง 24 ชั้น จำนวน 438 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เพียง 200 เมตรจาก BTS บางจาก ซึ่งเตรียมเปิดขายผ่านระบบออนไลน์ บุคกิ้งในวันที่ 27 มีนาคมนี้
สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมถึง 42,900 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ เกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 26,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 92% เมื่อเทียบกับยอดขายปี 2559 ที่ทำได้ 22,365 ล้านบาท ปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโต เป็นผลจากการเปิดตัวโครงการแนวราบจำวน 22 โครงการ และความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว LIFE วิทยุ และ LIFE อโศก-พระราม 9 ซึ่งทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ประมาณ 90% ตลอดจนสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Ongoing Projects) อีกกว่า 90 โครงการ ที่มีส่วนสำคัญช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้