การเลือกที่อยู่อาศัยของคนเมืองในยุคปัจจุบัน อาจจะมองหาห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมเป็นตัวเลือกแรกๆ เพราะมีตัวเลือกให้พิจารณาอย่างมากมาย จนกลายเป็นยุคเฟื่องฟูของคอนโดมิเนียม เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อยู่เป็นโสดมากขึ้น หรือไม่ก็เป็นกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่ ที่อยู่กันเพียง 2 คน ต้องการมีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก เพียง 35-45 ตารางเมตรก็เพียงพอ และคอนโดมิเนียมก็มักจะตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ที่เดินทางสะดวกสบายไม่ว่าจะไปทำงานหรือใช้ชีวิตด้านอื่นๆ
ส่วนคนที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่มากขึ้น ก็มักจะเลือกอยู่อาศัยบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมมากกว่า เพราะสามารถตอบโจทย์เรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอยได้มากกว่า แต่บ้านเดี่ยวก็อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของการเดินทางมากนัก เพราะทำเลที่ตั้งอาจจะออกไปชานเมืองสักหน่อย ส่วนที่อยู่ในทำเลดีๆ ใกล้เมือง ราคาก็มักจะพุ่งสูงไปไกล จนบางครั้งลูกค้าส่วนใหญ่อาจจะเอื้อมไม่ถึง โครงการประเภททาวน์โฮมก็เลยเป็นทางเลือกสำคัญของคนในยุคปัจจุบัน เพราะราคาของทาวน์โฮมบางโครงการ ก็แทบจะไม่แตกต่างกับราคาคอนโดมิเนียมในบางทำเลด้วยซ้ำ แถมโครงการทาวน์โฮมยังมีข้อได้เปรียบอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่ยังอยู่ใกล้เมือง บางโครงการก็ตั้งอยู่พื้นที่กลางเมือง แถมขนาดของพื้นที่ใช้สอยก็มีมาก เทียบเท่ากับพื้นที่ของบ้านเดี่ยวเลยทีเดียว
แต่การเลือกซื้อโครงการทาวน์โฮม ปัจจุบันอาจจะมีตัวเลือกไม่มากนัก เพราะดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่พัฒนาออกมาน้อย และเลือกที่จะพัฒนาโครงการประเภทบ้านเดี่ยว หรือคอนโดมิเนียมออกมาขายมากกว่า ทำให้ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อโครงการทาวน์โฮม ลูกค้าจะพิจารณาเลือกจากแบรนด์โครงการที่รู้จัก มีชื่อเสียงและพัฒนาโครงการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งหากให้นึกถึงแบรนด์โครงการทาวน์โฮมในปัจจุบัน เชื่อว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่คงนึกถึงแบรนด์บ้านกลางเมือง และ แบรนด์พลีโน่ ของเอพี (ไทยแลนด์) เป็นอันดับต้นๆ เพราะพัฒนาโครงการมานานถึง 25 ปีแล้ว คนส่วนใหญ่คุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 50,000 ครอบครัว ที่เลือกอาศัยอยู่แล้วตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ทำให้แบรนด์เอพี (ไทยแลนด์) กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดไฮเอนด์ ทาวน์โฮมไทยก็ว่าได้
หากจะถอดรหัสความสำเร็จของแบรนด์เอพี (ไทยแลนด์) ทั้งบ้านกลางเมือง ที่จับกลุ่มบ้าน 3 ชั้นราคาประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป และพลีโน่ กลุ่มบ้าน 2 ชั้นราคาประมาณ 2 ล้านบาทขึ้นไปนั้น คงเป็นผลมาจากการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพโครงการ ทำเลที่ตั้ง และดีไซน์โมเดลแบบบ้านที่เข้าใจวิถีชีวิตและการอยู่อาศัยของลูกค้า ประกอบกับการสร้างแบรนด์ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงทำให้ลูกค้าเลือกและนึกถึงแบรนด์เอพี (ไทยแลนด์) เป็นอันดับแรกๆ
นอกจากนี้ ในเรื่องของรายละเอียดการพัฒนาโครงการของแบรนด์เอพี (ไทยแลนด์) ได้วางแนวคิดที่มุ่งตอบโจทย์ 5 เรื่องสำคัญที่ลูกค้าต้องการ จากการยืนอยู่บนแนวคิด 5 BEST VISION TOWNHOME ได้แก่
1. BEST LOCATION การเลือกทำเลมาพัฒนาใน 5 รัศมีที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนและถนนใหญ่ ใกล้โรงพยาบาล ใกล้สถานศึกษา ใกล้แหล่งวัฒนธรรม อาทิ ใกล้วัดวาอาราม และใกล้สวนสาธารณะ
2. BEST PRODUCT QUALITY การพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา
3. BEST SOCIETY + USER EXPERIENCE เพื่อสร้างชุมชนและสังคมที่เต็มไปด้วยความสุข รวมถึงการจัดกิจกรรมที่ดีให้กับลูกบ้าน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ได้ในทุกวัน
4. BEST AFTER SERVISE การให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ซึ่งทางโครงการใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่หน้าบ้านจนไปถึงงานซ่อมแซมที่รวดเร็ว
5. BEST INNOVATION การพัฒนาโครงการด้วยนวัตกรรม เพื่อให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
แม้ว่า 5 เรื่องที่เป็นแนวคิดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการของแบรนด์เอพี (ไทยแลนด์) อาจจะไม่ได้มีความแตกต่างจากดีเวลลอปเปอร์หลายราย ที่ใช้แนวคิดในลักษณะเดียวกัน แต่ในรายละเอียดของการตอบสนองแต่ละความต้องการของลูกค้า สามารถตอบโจทย์ได้ตรงและชัดเจน การออกแบบยังมุ่งเน้นทำให้ทุกพื้นที่ของบ้าน อยู่ภายใต้หลักการคิดและการออกแบบ DESIGN & FUNCTION ที่อยู่อาศัยเพื่อมุ่งตอบโจทย์ทั้งมิติการใช้งานได้อย่างชัดเจน ทุกพื้นที่สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันสำหรับทุกเพศทุกวัยด้วย โดยเฉพาะในปี 2561 นี้ได้เพิ่มเติมดีไซน์ ความโมเดิร์น เพิ่มฟังก์ชั่นประโยชน์พื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว บนความทันสมัย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย
นอกเหนือจาก ฟังก์ชั่นและการออกแบบที่ลูกค้าจะใช้เป็นปัจจัยการพิจารณาตัดสินใจในการซื้อบ้านแล้ว เรื่องของการใช้เทคโนโลยีมาควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย หรือ บ้านอัจฉริยะ (Smart home) ก็เป็นอีกจุดขายสำคัญในยุค Thailand 4.0 ที่บรรดาดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำพัฒนาออกมารองรับลูกค้ายุคปัจจุบัน แบรนด์เอพี (ไทยแลนด์) ก็ไม่พลาดกับเทรนด์นี้ด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่ทาง เข้า-ออก ของทุกโครงการ จะเป็นระบบ DOUBLE ACCESS CARD CONTROL อัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย คลับเฮ้าส์ดีไซน์ 2 ชั้น พร้อมดูแลคุณเรื่องความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิด CCTV ระบบ SECURITY GUARD การเพิ่มเติมฟังก์ชั่นด้วยเทคโนโลยี ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ปัจจุบัน บ้านกลางเมือง มียอดขายเติบโตขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละ 20-30% เป็นเครื่องยืนยันถึงการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และด้วยความแตกต่างอย่างมีสไตล์และตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยดังที่กล่าวมา บ้านกลางเมือง จึงเป็นแบรนด์ทาวน์โฮมเพียงแบรนด์เดียวของผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ ที่ยังไม่มีการรีแบรนด์ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่ยาวนาน และกลายเป็นทาวน์โฮมชื่อแรก ๆ ของผู้บริโภคที่กำลังคิดตัดสินใจเลือกซื้อทาวน์โฮมระดับพรีเมี่ยมสักหลัง อีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่ก็มักจะแนะนำและบอกต่อเพื่อนหรือญาติสนิทมาร่วมสังคมเดียวกัน ส่งผลให้เกิดการแนะนำและการซื้อซ้ำมากกว่า 15% ก่อให้เกิดการรับรู้ของแบรนด์อย่างต่อเนื่องด้วย
เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจเลือกซื้อบ้านทาวน์โฮมของแบรนด์เอพี (ไทยแลนด์) ได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งต่อความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในปีนี้ เอพี จึงได้จัดแคมเปญครั้งยิ่งใหญ่ “AP TOWNHOME LIVEVOLUTION” สุดยอดงานที่รวบรวมทาวน์โฮมสุดล้ำสมัย บนสุดยอดทำเลกว่า 30 โครงการ ทั้งโครงการบ้านกลางเมืองและพลีโน่ในหลายๆทำเล พร้อมพบกับข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนในงานนี้เท่านั้น เตรียมพบทาวน์โฮมนวัตกรรมใหม่แห่งอนาคตกว่า 30 ทำเลพร้อมอยู่ พร้อมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ เร็วๆนี้ ที่ Sales Gallery ทุกโครงการ ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท* ก่อนใครได้ที่ https://goo.gl/kgPWnb เริ่ม 1.69-9.29 ล้าน* สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.1623